UKEMครึ่งหลังออเดอร์แน่น เล็งอัพวงเงินสินเชื่อ100ล.

ทันหุ้น – UKEM ชี้ทิศทางครึ่งปีหลังดีมานด์ปิโตรเคมีกลุ่มอุตสาหกรรมแน่น โดยเฉพาะกลุ่มแพ็กเกจจิ้งน้ำดื่ม อาหาร ส่งออก และผลิตวัตถุดิบยาง เชื่อยอดขายทั้งปีวิ่งชนเป้าโต 15% ส่วนธุรกิจรับจำนำทะเบียนรถปัจจุบันปล่อยสินเชื่อเต็มแม็กซ์ 25 ล้านบาท เล็งเพิ่มวงเงินเป็น 100 ล้านบาท
นายพีรพล สุวรรณนภาศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูเนี่ยน ปิโตรเคมีคอล จำกัด (มหาชน) หรือ UKEM ผู้ประกอบธุรกิจนำเข้าและจัดจำหน่ายเคมีภัณฑ์ โดยสินค้าของบริษัทประกอบด้วยสารทำละลาย (Solvents) ซึ่งเป็นสินค้าที่จำหน่ายทั่วไป (Commodity Solvent) สำหรับใช้เป็นสารทำละลาย ซึ่งเป็นส่วนประกอบในการผลิตสินค้าในอุตสาหกรรมต่างๆ เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งปีหลังยังคงมีความต้องการ(ดีมานด์) ที่เป็นกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมอยู่
**ออเดอร์เข้าต่อเนื่อง
ทั้งนี้กลุ่มลูกค้าที่มีคำสั่งซื้อ (ออเดอร์) เข้ามาเพิ่มขึ้นในช่วงนี้ คือกลุ่มแพ็กเกจจิ้งน้ำดื่ม และอาหาร ซึ่งเป็นลูกค้าใหม่ นอกจากนี้ยังมีกลุ่มลูกค้าแพ็กเกจจิ้งที่ส่งออกอาหารไปต่างประเทศ รวมถึงกลุ่มลูกค้าที่ผลิตวัตถุดิบผลิตยาง ซึ่งคาดว่ายอดขายในปีนี้จะเป็นไปตามเป้าเติบโต 15% และมีมาร์จิ้นที่ดีขึ้น จากการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ
“ครึ่งปีหลังทิศทางปิโตรเคมีก็ยังไปได้ดี เพราะยังมีดีมานด์ของลูกค้าอุตสาหกรรมเป็นหลัก และยังมีลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นในกลุ่มแพ็กเกจจิ้งเครื่องดื่มและอาหาร รวมถึงกลุ่มส่งออกอาหารไปต่างประเทศ และกลุ่มที่ผลิตวัตถุดิบยาง จึงเชื่อว่ายอดขายยังคงเป็นไปตามเป้าที่โต 15%” นายพีรพล กล่าว
สำหรับธุรกิจรับจำนำทะเบียนรถที่บริษัทถือหุ้นอยู่ 60% ใน บริษัท มหานครแคปปิตอล จำกัด ปัจจุบันมีลูกค้าอยู่พอสมควร และการปล่อยสินเชื่อเต็มวงเงินแล้วที่ 25 ล้านบาท ดังนั้นบริษัทจึงมีแผนเพิ่มวงเงินปล่อยสินเชื่อเป็น 100 ล้านบาท เพื่อขยายพอร์ตรับกับจำนวนลูกค้าที่มากขึ้น
***บุ๊กรายได้ธุรกิจใหม่
ขณะที่ปัจจุบันเริ่มรับรู้รายได้ของธุรกิจจำนำทะเบียนรถเข้ามาบ้างแล้วแต่ยังไม่มาก ซึ่งจะรับรู้เข้ามามากขึ้นในช่วงไตรมาส 3-4 ของปีนี้ ถือเป็นโอกาสในการสร้างรายได้เพิ่มขึ้นอีกทาง
สำหรับผลประกอบการไตรมาสที่ 2/2564 สิ้นสุดวันที่ 30มิถุนายน 2564 บริษัทมีผลการดำเนินงานกำไรสุทธิ 24.98 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14 ล้านบาท หรือ 127.50% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 10.98 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิงวด 6 เดือนปี 2564 อยู่ที่ 80.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.85 ล้านบาท หรือ 52.73% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 52.80 ล้านบาท
โดยการเปลี่ยนแปลงที่มีนัยสำคัญ มาจากรายได้จากการขายไตรมาสที่ 2/2564 เป็นจำนวน 1,453.72 ล้านบาท เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2563ซึ่งมีรายได้จากการขาย 1,339.26 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 114.46 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 8.55เป็นการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายสินค้ากลุ่มเคมีภัณฑ์ทั่วไป
***ต้นทุนขายเพิ่มขึ้น
ขณะที่มีต้นทุนขายไตรมาสที่ 2/2564 เป็นจำนวน 1,216.62 ล้านบาท เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2563 ซึ่งมีต้นทุนขาย 1,109.77 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 106.85 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 9.63โดยสอดคล้องกับราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น
ส่วนค่าใช้จ่ายทางการเงินไตรมาสที่ 2/2564 จำนวน 5.12 ล้านบาท เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2563ซึ่งมีค่าใช้จ่ายทางการเงิน 7.20 ล้านบาท ลดลง 2.07 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 28.80เนื่องมาจากสินเชื่อธนาคารมีอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง