คาจิกิ” แรงกว่า “วิภา” ดร.เสรีชี้ “น่าน” เสี่ยงน้ำท่วมสูง

เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม เวลา 05.00 น. รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์ ผู้อำนวยการศูนย์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภัยพิบัติ มหาวิทยาลัยรังสิต และรองประธานกรรมการมูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว อัปเดตสถานการณ์พายุ “คาจิกิ” โดยระบุว่าขณะนี้พัฒนาจากพายุโซนร้อนเป็น “พายุไต้ฝุ่นรุนแรง” ตามการประเมินของศูนย์อุตุนิยมวิทยาฮ่องกง ซึ่งมีความรุนแรงมากกว่าพายุ “วิภา” ที่ผ่านมา
จากเส้นทางการเคลื่อนตัว พายุคาจิกิมีศักยภาพเดินทางไปไกลถึงเมียนมา และสร้างความเสียหายได้ในหลายพื้นที่ โดยอิทธิพลของพายุจะทำให้มีฝนตกหนักต่อเนื่อง โดยเฉพาะปริมาณฝนสะสม 2 วัน คาดการณ์สูงสุดมากกว่า 500 มิลลิเมตรในพื้นที่ตอนบนของจังหวัดน่าน (โอกาส 10%) ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่ต้องเตรียมพร้อมรับมือขั้นสูงสุด
รศ.ดร.เสรี ระบุว่า น้ำไหลหลากและน้ำท่วมชุมชนจะเกิดขึ้นแน่นอน รวมถึงสถานการณ์น้ำล้นตลิ่งในแม่น้ำสายหลัก เช่น แม่น้ำน่าน (สถานี N1 เมืองน่าน) ปัจจุบันมีปริมาณน้ำอยู่ราว 14.5% และแม่น้ำยม (สถานี Y1C บ้านน้ำโค้ง) มีปริมาณน้ำประมาณ 15% ของความจุ ซึ่งยังสามารถรองรับน้ำได้อีกมากกว่า 80% แต่หากฝนตกหนักรุนแรงตามคาด ความเสียหายก็ยังมีความเป็นไปได้สูง
ขณะเดียวกัน ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ร่วมกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมทรัพยากรน้ำ กรมทรัพยากรธรณี และกรมชลประทาน ได้เปิด War Room 4 ประสาน เพื่อติดตามและรับมือสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมแนะนำให้จังหวัดที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง โดยเฉพาะน่าน ตั้ง War Room ส่วนหน้าคู่ขนาน เพื่อบริหารจัดการสถานการณ์ได้อย่างคล่องตัว ตั้งแต่การเฝ้าระวัง การเตือนภัย การอพยพประชาชน ไปจนถึงการฟื้นฟูหลังภัยพิบัติ