รีเซต

หอการค้าไทย ชี้สงกรานต์ซึม เงินสะพัดแสนล้าน ต่ำสุดในรอบ 10ปี คนผวาของแพงชะลอใช้จ่าย

หอการค้าไทย ชี้สงกรานต์ซึม เงินสะพัดแสนล้าน ต่ำสุดในรอบ 10ปี คนผวาของแพงชะลอใช้จ่าย
ข่าวสด
7 เมษายน 2565 ( 15:28 )
67
หอการค้าไทย ชี้สงกรานต์ซึม เงินสะพัดแสนล้าน ต่ำสุดในรอบ 10ปี คนผวาของแพงชะลอใช้จ่าย

นางอุมากมล สุนทรสุรัติ ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลสำรวจความคิดเห็นพฤติกรรมการใช้จ่ายผู้บริโภคในช่วง สงกรานต์ปี 2565 ว่า กิจกรรมที่ประชาชนทำมากสุดในช่วงสงกรานต์ ส่วนใหญ่ 53.9% คือ ทำบุญ รองลงมาคือ 33.7% สังสรรค์จัดเลี้ยง ส่วนแผนการใช้จ่ายพบว่า 45.1% ใช้จ่ายลดลง ส่วนสาเหตุ คนส่วนใหญ่ 32.9% ระบุว่าเนื่องจากสินค้า และบริการมีราคาแพง รองลงมา 26.1% ต้องการประหยัด 21% มีหนี้เพิ่มขึ้น 12.9% รายได้ลดลง 5.9% ราคาน้ำมันแพงขึ้น 0.5% ปัญหาโควิดระบาด เป็นต้น และจากการสอบถามว่าระดับราค้าสินค้าในปัจจุบันกระทบต่อการดำเนินชีวิตหรือไม่พบว่า คนที่ระดับรายได้ต่ำกว่า 5,000 -20,000 ตอบว่ากระทบมากที่สุด

 

ส่วนแผนการใช้จ่ายท่องเที่ยวปีนี้ ส่วนใหญ่ 40.3% จะเที่ยวทำกิจกรรมในจังหวัดที่ตนอยู่ รองลงมา 10.6% ไปเที่ยวในประเทศ โดยภาคกลางได้รับความนิยมสูงสุด คือ จชลบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ รองลงมาคือ ภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคใต้ และกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยมีค่าใช้จ่ายท่องเที่ยวรวม 4,779 บาท

 

สำหรับแผนการใช้จ่ายนอกจากการท่องเที่ยวพบว่า ส่วนใหญ่ 53.9% จะใช้ทำบุญ เฉลี่ย 1,060 บาท/คน 33.7% ใช้สังสรรค์ 31.1% ใช้ทำอาหารทานที่บ้าน และ 29.2% ใช้ไหว้เจ้า เป็นต้น


สำหรับบรรยากาศสงกรานต์ปีนี้ ส่วนใหญ่ 46.2% บอกว่าไม่สนุกเหมือนเดิม 30.2% บอกสนุกเหมือนเดิม 12.7% สนุกน้อยกว่าเดิม และ 11% บอกสนุกสนานมาก ที่มาของเงินที่นำมาใช้จ่าย 78.3% ใช้เงินเดือน รายได้ตามปกติ 13.7% ใช้เงินออม 4.7% ใช้เงินโบนัส 1.8 % ใช้เงินกู้ และ 1.5% ใช้เงินช่วยเหลือจากรัฐบาล

 

โดยประเมินว่า ปีนี้จะมีเงินสะพัดช่วงสงกรานต์ 106,772.59 ล้านบาท เทียบกับปีก่อนลดลง 5.4% หรือลดลง 6095 ล้านบาท ส่วนทัศนะต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 2565 ส่วนใหญ่ 42.9% มองว่าเศรษฐกิจจะโตต่ำกว่า 2.5%

 

นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์ฯ กล่าวว่า ปีนี้จะมีเงินสะพัด 106,772 ล้านบาท เป็นตัวเลขที่ต่ำสุดในรอบ 10 ปี เพราะบรรยากาศการจัดงานไม่คึกคัก ที่สำคัญ คนกังวลเรื่องสินค้าแพงมากกว่าปัญหาโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพ ทำให้คนต้องประหยัดมากขึ้น เห็นได้จาก 45.1% มีการใช้จ่ายลดลง สูงสุดในรอบ 17 ปี และ เงินที่นำมาใช้จ่ายส่วนใหญ่คือเงินเดือนและรายได้ เนื่องจากต้องการควบคุมการใช้เงิน ขณะที่เศรษฐกิจก็ยังไม่ฟื้นตัว

 

ส่วนภาพรวมเศรษฐกิจไทย ศูนย์ฯมองว่าเศรษฐกิจไทยพร้อมฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ โดยทั้งปียังเติบโตได้ 3.5% เนื่องจากคนลดความกังวลปัญหาโอมิครอนสามารถอยู่ร่วมกันได้ รวมทั้งสหรัฐยังมีการนำน้ำมันสำรอง 120 ล้านบาร์เรล ออกมาใช้ ทำให้ราคาน้ำมันวันนี้อยู่ต่ำกว่า 105 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และคาดว่าอีก 1 สัปดาห์จะลงมาต่ำกว่า 100 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจไทย ขณะที่ปมปัญหาสงครามมีแนวโน้มผ่อนคลาย นอกจากนี้การส่งออกของไทยยังเติบโตได้ดี

 

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลยังมีความจำเป็นต้องเร่งต่ออายุมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ คนละครึ่งเฟส 5 เพื่ออัดฉีดเงิน 4.5 หมื่นล้านบาทเข้าสู่ระบบ การนำมาตรการเที่ยวด้วยกันมาใช้ การผ่อนคลาย Test &Go ดูแลให้อัตราแลกเปลี่ยนอยู่ในระดับ 33 บาท/เหรียญสหรัฐ และสนับสนุนให้เอกชนเข้าถึงสินเชื่อ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง