รีเซต

TQM โบรกฯ คาดปี 65 กำไรโต 42% จากตัวบริษัทเอง-กิจการที่ซื้อมา

TQM โบรกฯ คาดปี 65 กำไรโต 42% จากตัวบริษัทเอง-กิจการที่ซื้อมา
ทันหุ้น
17 ธันวาคม 2564 ( 10:22 )
241
TQM โบรกฯ คาดปี 65 กำไรโต 42% จากตัวบริษัทเอง-กิจการที่ซื้อมา

 

ทันหุ้น - บล.ไทยพาณิชย์ ส่องหุ้น บริษัท ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TQM ตั้งเป้ายอดขายประกันเติบโตเพิ่มขึ้นจาก 22% ในปี 2564 สู่ 57% ในปี 2565 (การเติบโตของบริษัทเอง 15% บวกการเติบโตจาก TQR) ด้วย CAGR 18.5% ในปี 2564-2569 โดยได้รับการสนับสนุนจากการเติบโตทั้งจากตัวบริษัทเองและกิจการที่ซื้อมา ยังคงเรทติ้ง OUTPERFORM สำหรับ TQM และคงราคาเป้าหมายไว้ที่ 134 บาท (14 เท่าของประมาณการ BVPS ปี 2565) เนื่องจากคาดว่ากำไรจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งที่ 36% YoY ใน 4Q64 และ 42% ในปี 2565 โดยเกิดจากยอดขายประกันที่เติบโตดีและอัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ที่ปรับตัวดีขึ้น

 

ยังคงเป้าการเติบโตของบริษัทเองในระยะยาวไว้ที่ 15% TQM ยังคงเป้าการเติบโตของยอดขายประกันของบริษัทเองในระยะยาวไว้ที่ CAGR 15% สำหรับระยะ 5 ปีข้างหน้า TQM ตั้งเป้าที่จะทำยอดขายประกันของบริษัทเองให้เติบโตถึงเป้าที่วางไว้ที่ 1.72 หมื่นลบ. (+15%) ในปี 2564, 1.93 หมื่นลบ. (+12%) ในปี 2565, 2.26 หมื่นลบ. (+17%) ในปี 2566, 2.56 หมื่นลบ. (+13%) ในปี 2567, 2.92 หมื่นลบ. (+14%) ในปี 2568 และ 3.42 หมื่นลบ. (+17%) ในปี 2569 TQM กำลังขยายธุรกิจไปสู่ประกันภัยบ้าน โดยเชื่อว่าประกันภัยบ้านคือ new S-curve ที่มีศักยภาพ เพราะตลาดมีขนาดใหญ่และยังมีการเข้าถึงจำกัด (untapped market) 

 

TQM วางแผนที่จะนำเสนอประกันภัยบ้านรูปแบบใหม่จากเดิม ที่เน้นประกันอัคคีภัยมาเป็นให้ความคุ้มครองทุกความเสี่ยงของบ้าน บริษัทตั้งเป้าขายประกันภัยบ้าน 500 ลบ. ในปี 2564 และ 1.5 พันลบ. ในปี 2565 โดยตั้งเป้ายอดขายระยะยาวไว้ที่ 5 พันลบ. ในปี 2569 การมียอดขายประกันภัยบ้านเพิ่มเข้ามาน่าจะเพียงพอทดแทนยอดขายประกันภัยโควิดที่ขาดหายไป 1 พันลบ. (200 ลบ. ใน 1Q64 และ 800 ลบ. ใน 2Q64) ในปี 2565

 

เดินหน้าซื้อกิจการ TQM คาดว่ายอดขายประกันจากกิจการที่ซื้อมาจะช่วยกระตุ้นให้ยอดขายประกันทั้งหมดเพิ่มขึ้นจาก 1.84 หมื่นลบ. (+22%) ในปี 2564 สู่ 2.89 หมื่นลบ. (+57%) ในปี 2565, 3.42 หมื่นลบ. (+18%) ในปี 2566, 3.91 หมื่นลบ. (+14%) ในปี 2567, 4.42 หมื่นลบ. (+13%) ในปี 2568 และ 5.08 หมื่นลบ. (+15%) ในปี 2569 

 

โดยได้รับการสนับสนุนจากยอดขายประกันจากกิจการที่ซื้อมาที่ 1.15 พันลบ. ในปี 2564, 9.6 พันลบ. ในปี 2565, 1.16 หมื่นลบ. ในปี 2566, 1.35 หมื่นลบ. ในปี 2567, 1.5 หมื่นลบ. ในปี 2568 และ 1.67 หมื่นลบ. ในปี 2569 

 

TQM เข้าซื้อหุ้น 51% ในบริษัท ทรู ไลฟ์ โบรกเกอร์ จำกัด และบริษัท ทรู เอ็กซ์ตร้า โบรกเกอร์ จำกัด เสร็จสิ้นในช่วงปลายเดือนส.ค. ทรู ไลฟ์ โบรกเกอร์ เป็นบริษัทนายหน้าประกันชีวิตนิติบุคคลรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และคาดว่าจะทำยอดขายประกันได้ 1 พันลบ. รายได้กว่า 100 ลบ. และกำไรสุทธิราว 60 ลบ.  ในปี 2564 

 

ขณะที่ทรู เอกซ์ตร้า โบรกเกอร์ เป็นบริษัทนายหน้าประกันวินาศภัยประเภทค้ำประกันบุคคลหรือนิติบุคคล และคาดว่าจะทำยอดขายประกันได้ราว 100 ลบ. รายได้กว่า 10 ลบ. และกำไรสุทธิราว 3 ลบ. ในปี 2564 TQM วางแผนเข้าซื้อหุ้น 44.35% ใน TQR (ประกอบธุรกิจนายหน้าประกันภัยต่อ) จากตระกูลพรรณนิภา (ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ TQM ด้วยเช่นกัน) ใน 1Q65 โดยคาดว่าจะมียอดขายประกันจาก TQR เพิ่มเข้ามาราว 9.5 พันลบ.

 

TQM มีดีล M&A อีก 3 ดีล ซึ่งไทม์ไลน์ยังไม่แน่นอน แต่บริษัทหวังว่าจะได้ข้อสรุปในปี 2565-2566 เรารวมเอาดีล TQR เข้ามาไว้ประมาณการปี 2565 ของเราแล้ว แต่ยังไม่ได้รวมดีลซื้อกิจการอื่นๆ เข้ามาไว้ในประมาณการโดยปล่อยเป็น upside

 

ธุรกิจใหม่ – สินเชื่อส่วนบุคคล-บริการเคลม ใน 4Q64 TQM ได้เริ่มให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลเพื่อนำเงินไปซื้อประกัน โดยคิดอัตราดอกเบี้ยราว 8% โดยปกติแล้วลูกค้ามักจะใช้บัตรเครดิตซื้อประกัน แต่มีดอกเบี้ยบัตรเครดิตซึ่งปัจจุบัน TQM เป็นผู้รับภาระและส่งผลทำให้บริษัทมีค่าใช้จ่ายราว 100 ลบ. ในปีที่ผ่านมา การเปลี่ยนจากบัตรเครดิตมาใช้บริการจากบริษัทที่ให้บริการสินเชื่อของ TQM เพื่อซื้อประกันจะทำให้ TQM ประหยัดค่าใช้จ่ายได้ราว 100 ลบ. ทั้งนี้ในปี 2565 TQM วางแผนให้บริการเคลมสำหรับประกันสุขภาพผ่านทางบริษัทย่อย ซึ่งจะช่วยให้บริษัทมีรายได้ค่าธรรมเนียมเพิ่มเข้ามา

 

แนวโน้ม Q4/64 -ปี 2565 ฝ่ายวิจัยคาดว่ากำไร 4Q64 จะเติบโต 36% YoY และ 6% QoQ (ยอดขายเบี้ยประกันที่เพิ่มขึ้นทั้งจากบริษัทเองและกิจการที่ซื้อมาจะถูกลดทอนไปบางส่วนโดยจากเงินลงทุนที่ขาดหายไปจำนวน 64 ลบ.) สำหรับปี 2565 คาดว่ากำไรจะเติบโต 42% โดยได้รับการสนับสนุนจากการเติบโตของบริษัทเองที่ 15% และการซื้อหุ้นของ TQR

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง