รีเซต

“อนุทิน” ย้ำยุบสภาฯ 31 ม.ค. 69 ตามสัญญาพรรคประชาชน ลั่นไม่กลัวถูกซักฟอก

“อนุทิน”  ย้ำยุบสภาฯ 31 ม.ค. 69 ตามสัญญาพรรคประชาชน ลั่นไม่กลัวถูกซักฟอก
TNN ช่อง16
5 พฤศจิกายน 2568 ( 12:21 )
9

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้แสดงวิสัยทัศน์ในงาน THE STANDARD ECONOMIC FORUM 2025 ยืนยันถึงความตั้งใจในการบริหารประเทศในวาระ 4 เดือน พร้อมทั้งตอบคำถามประเด็นร้อนทางการเมือง ทั้งการยุบสภาฯ และการรับมืออาชญากรรมไซเบอร์

ยืนยัน "ยุบสภา" ตามสัญญา 31 ม.ค. 69

นายอนุทินกล่าวถึงข้อสงสัยว่ารัฐบาลจะอยู่ในวาระเพียง 4 เดือนจริงหรือไม่ โดยย้ำว่า จะมีการยุบสภาตาม MOA ที่สัญญาไว้กับพรรคประชาชน ในการคืนอำนาจให้ประชาชนเลือกตั้งใหม่ โดยระบุว่าพรรคประชาชนทำให้ตนได้เป็นนายกรัฐมนตรี จึงต้องรักษาสัญญาเมื่อครบ 4 เดือน คือวันที่ 31 มกราคม 2569  อย่างไรก็ตาม นายกฯ ยอมรับว่าการยุบสภาอาจเร็วขึ้นได้ หากมีการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยเฉพาะหากวัตถุประสงค์ของการซักฟอกคือ "การล้างแค้น การเอาคืน" ซึ่งตนคงไม่ปล่อยให้ใครมาด่ารัฐบาลฟรี ๆ เพราะห่างกันแค่เดือนเดียว

เดินหน้า  Big Quick Win กรอบทำงาน 4 เดือน

นายอนุทินระบุว่า 1 เดือนที่ผ่านมาได้พยายามบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยมีกรอบเวลา 4 เดือนในการทำงานแบบอำนาจเต็ม โดยมุ่งเน้นการทำงานเพียงอย่างเดียว และสิ่งที่ทำไม่ได้ภายใน 4 เดือน ต้องรอรัฐบาลใหม่ เป้าหมายหลัก แก้ปัญหาเศรษฐกิจแบบ Big Quick Win แก้ปัญหาความมั่นคงกับประเทศเพื่อนบ้าน และเร่งฟื้นฟูเยียวยาประชาชนจากความขัดแย้งและภัยธรรมชาติ พร้อมกับ สร้างมาตรฐานใหม่ โดย ทีมงานและรัฐมนตรีที่เชิญมาล้วนเป็นมืออาชีพที่เสียสละ มุ่งสร้างมาตรฐานใหม่ในการบริหารราชการแผ่นดิน ไม่มีระบบโควตา เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความหวังให้ประชาชน

ลั่นพร้อมเป็นนายกฯ อีกครั้ง ไม่กลัวใครมาจับผิด

เมื่อถูกถามถึงความพร้อมสำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้า นายอนุทินยืนยันว่า "พร้อมตั้งแต่เอาผมออกจากรัฐบาลแล้ว" พร้อมทั้งแสดงความเชื่อมั่นในการทำหน้าที่ของตนเอง

"ดีเหมือนกันนะเป็นนายกฯ ตอนแรกยังไม่ได้เป็นก็กลัวๆ กล้าๆ แต่พอมาเป็นแล้วเห็นว่าสิ่งที่สามารถทำให้บ้านเมือง... สำหรับตนเป็นแล้วก็คือเป็น ต่อให้ตนเป็นนายกฯ ได้เพียง 3-4 เดือน คนก็จะเรียกว่าตนนายกฯ"

นายกฯ ต้องการสร้างผลงานให้ "ปัง" สักอย่าง เพื่อให้เป็นภาพจำที่ดีของคนไทยในเวลาที่มีอยู่ ไม่ว่าจะได้กลับมาหรือไม่ก็ตาม

ย้ำไทยไม่ใช่ "ศูนย์กลางฟอกเงิน"

นายกฯ ชี้แจงถึงข้อกล่าวหาว่าประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการฟอกเงินและแหล่งทุนสีเทาว่า การบอกว่าประเทศไทยเป็นศูนย์กลางดูไม่ยุติธรรม แต่ยอมรับว่า ประเทศไทยอยู่ตรงกลาง ของประเทศที่สามารถทำสแกมได้ และ ความน่าเชื่อถือของค่าเงินบาททำให้ไทยถูกใช้เป็นฐานในการฟอกเงินสำหรับธุรกิจสีดำ เช่น ยาเสพติด ค้ามนุษย์

แต่รัฐบาลจะดำเนินการมาตรการเด็ดขาด รัฐบาลพร้อมสนับสนุนเครื่องมือเต็มที่ในการปราบปรามอาชญากรรม โดยยืนยันว่า รัฐบาลไม่กลัวอิทธิพลใด ๆ เมื่อรัฐบาลไม่กลัว ผู้ปฏิบัติ (ตำรวจ, ปปง., สมช.) ก็ต้องไม่กลัว โดยที่ผ่านมา รัฐบาลดำเนินการเชิงลับอย่างต่อเนื่อง ทั้งการจับยาเสพติด ยึดทรัพย์กว่า 20,000 ล้านบาท และการถอนสัญชาติรายใหญ่ที่อยู่กับสัญชาติไทยมา 30 ปี ซึ่งยืนยันว่าดำเนินการไปแล้วโดยที่ไม่มีใครรู้

ชี้แจงปม "อดีต รมช.คลัง" ลาออก

นายอนุทินกล่าวถึงการลาออกของอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังที่ถูกครหาว่าเกี่ยวข้องกับประเด็นทุนสีเทาว่า ท่านถูกครหาแต่ยังไม่ได้ถูกกล่าวหาและยังไม่มีหน่วยงานใดดำเนินคดีกับท่าน แต่ตนได้ไปบอกให้ท่านลาออก และท่านก็แสดงสปิริต "สิ่งที่เคยเกิดขึ้นในรัฐบาลที่แล้ว เขาพยายามใช้กลไกของรัฐมากำจัดคู่แข่งทางการเมือง ... ตนก็ไม่ทำด้วยเช่นกัน" นายกฯ ทิ้งท้ายว่าว่า รัฐบาลของตนมุ่งเน้นการใช้กฎหมายตามพฤติกรรมรูปคดี ไม่ใช้เกมทางการเมืองเพื่อกลั่นแกล้งใคร

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง