รู้จักฟีเจอร์ Sora Cameo โคลนใบหน้าผู้ใช้งานไปสร้างเป็นวิดีโอตามที่ผู้ใช้ต้องการ

ยุคใหม่ของการสร้างสรรค์วิดีโอ AI กำลังเริ่มต้นแล้ว หลังจากบริษัท OpenAI เปิดตัวฟีเจอร์ Cameo ภายในแอปสร้างวิดีโออัจฉริยะ Sora ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถนำใบหน้าตัวเองเข้าสู่โลกของวิดีโอ AI ได้อย่างสมจริง

ขั้นตอนการสร้างวิดีโอ AI ของใบหน้าตัวเองทำได้โดยเพียงอัปโหลดภาพหรือวิดีโอสั้น ๆ ของตัวเอง สัตว์เลี้ยง หรือแม้แต่วัตถุ ระบบก็จะสร้างตัวละครเสมือน (Avatar) ขึ้นมา ซึ่งเรียกว่า “Cameo” เพื่อใช้เป็นตัวแสดงในคลิปวิดีโอที่ผู้ใช้สร้างด้วย Sora

ฟีเจอร์ที่ทำให้วิดีโอ AI มีชีวิต

ฟีเจอร์ Cameo ช่วยให้ผู้ใช้ไม่ต้องพึ่งนักแสดงหรือทีมถ่ายทำจริงอีกต่อไป เพราะระบบสามารถจำลองรูปลักษณ์ ท่าทาง และอารมณ์จากต้นแบบที่อัปโหลดได้อย่างแม่นยำ ไม่ว่าจะเป็นวิดีโอที่ให้ตัวคุณพูด เต้น หรืออยู่ในฉากใด ๆ ก็สามารถสร้างขึ้นได้โดยใช้เพียงคำสั่งข้อความ (Prompt) เท่านั้น

นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถควบคุมสิทธิ์การใช้งาน Cameo ของตนเองได้ เช่น ตั้งค่าให้เป็นส่วนตัว แชร์เฉพาะเพื่อน หรือเปิดให้สาธารณะนำไปใช้สร้างวิดีโออื่น ๆ ได้อีกต่อหนึ่ง ถือเป็นแนวคิดใหม่ของ “ตัวละครดิจิทัลที่ยืมกันได้”

วิธีการสร้างวิดีโอ AI ใบหน้าตัวเองบนแอปพลิเคชัน Sora
1. เปิดแอปพลิเคชัน Sora เพื่อใช้งานฟีเจอร์ Cameo
2. มองหาคำว่า "แก้ไข Cameo" ในหน้าโปรไฟล์
3. เลือกสิทธิผู้ใช้วิดีโอเป็น "เฉพาะฉัน" หรือตามที่ผู้ใช้ต้องการ
4. กด "ถ่ายใหม่" ตรงมุมล่างของหน้าจอ
5. กดบันทึกวิดีโอ
6. ระบบจะให้ผ่านตัวเลข ให้ผู้ใช้ออกเสียง และมองกล้องชัด ๆ หันหน้าไปตามมุมต่าง ๆ คล้ายสแกนยืนยันตัวตน KYC
7. กด "ดำเนินการต่อ"
8. ตั้งค่าต่าง ๆ เพิ่มเติม เช่น คำพูด
9. ระบบจะสร้าง Cameo อัตโนมัติให้ใช้งาน
10. เมื่อสร้างวิดีโอใหม่ที่เป็นใบหน้าตัวเอง เพียงพิมพ์คำสั่ง Prompt เช่น “Make a video of my cameo walking on the moon” ระบบก็จะสร้างวิดีโอที่มีคุณอยู่ในฉากนั้นได้ทันที

บริษัทให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัว โดยผู้ใช้สามารถลบวิดีโอ Cameo ได้ทุกเมื่อ และข้อมูลจะถูกลบออกจากระบบภายใน 30 วัน เพื่อความปลอดภัยด้านข้อมูลส่วนบุคคล

โอกาสใหม่ของนักสร้าง Content ครีเอเตอร์

แม้จะมีข้อกังวลแต่ฟีเจอร์ Cameo ก็เปิดประตูสู่วิธีสร้างคอนเทนต์แบบใหม่ที่ง่ายและเข้าถึงได้สำหรับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นครีเอเตอร์สายบันเทิง ผู้ทำคอนเทนต์โซเชียล หรือผู้ที่อยากสร้างวิดีโอส่วนตัวแบบมีตัวเองเป็นนักแสดง โดยไม่ต้องใช้กองถ่ายหรือโปรแกรมตัดต่อระดับมืออาชีพ

ฟีเจอร์นี้จึงสะท้อนวิสัยทัศน์ของ OpenAI ที่ต้องการให้เทคโนโลยีวิดีโออัจฉริยะเป็นของทุกคนทำให้โลกของภาพยนตร์และความคิดสร้างสรรค์อยู่แค่ปลายนิ้วพิมพ์

ประเด็นปัญหาด้านลิขสิทธิ์และการใช้งาน

แม้ฟีเจอร์นี้จะได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว แต่ก็มีข้อถกเถียงตามมา เนื่องจากชื่อคำว่า Cameo ไปคล้ายกับชื่อแพลตฟอร์มวิดีโอส่วนบุคคลจากคนดัง Cameo ที่ให้บริการวิดีโออวยพรหรือฝากข้อความ ทำให้บริษัทดังกล่าวได้ยื่นฟ้อง OpenAI ฐานใช้ชื่อที่อาจก่อให้เกิดความสับสนทางการค้า

นอกจากนี้ ยังมีข้อกังวลเรื่องการใช้ likeness หรือภาพลักษณ์ของบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต เพราะระบบสามารถสร้างภาพเคลื่อนไหวที่สมจริงได้มาก ซึ่งอาจเปิดช่องให้เกิดการใช้ในทางที่ไม่เหมาะสม