SpaceX สามารถปล่อยดาวเทียม Starlink ให้อยู่ใกล้โลกมากขึ้นได้แล้ว
ทาง Federal Communications Commission (FCC) คณะกรรมการการสื่อสารของรัฐบาลกลาง ได้ออกมาประกาศยืนยันอนุมัติให้ทาง SpaceX สามารถส่งดาวเทียม Starlink จำนวน 2,814 ดวง ขึ้นไปโคจรอยู่ในวงโคจรรอบโลกได้ในระดับความสูงที่ทาง SpaceX ต้องการ เพื่อส่งสัญญาณอินเทอร์เน็ตได้เสถียรมากยิ่งขึ้น โดยการได้รับอนุญาติในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการประกาศความสำเร็จและอนาคตของ SpaceX แล้ว มันยังถือเป็นชัยชนะเหนือคู่แข่งอย่าง Amazon และ OneWeb ที่ออกมาโต้แย้งทาง SpaceX เพราะกลัวว่าสัญญาณจาก Starlink จะเป็นความถี่ที่อันตราย และเพิ่มความเสี่ยงที่ดาวเทียมจะต้องโคจรมาชนกันได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
FCC ออกมายืนยันว่าการปรับวงโคจรของดาวเทียม Starlink จะไม่ก่อปัญหาเหมือนที่พวก Amazon และ OneWeb กังวลแต่อย่างใด และยังดีเสียอีก เพราะมันช่วยให้ดาวเทียมที่หมดอายุการใช้งานแล้ว สามารถทำลายทิ้งผ่านความร้อนของชั้นบรรยากาศโลกได้ ส่วนเรื่องการชนกันระหว่างดาวเทียม ทาง SpaceX ได้มีการสร้างระบบการชนอัตโนมัติเอาไว้ จึงไม่มีทางที่ดาวเทียมทั้งหมดจะชนกันอย่างแน่นอน (จะมีการทดสอบระบบระหว่าง SpaceX และ OneWeb ภายในเดือนนี้ เพื่อที่จะตั้งค่าระบบให้สอดคล้องกัน) เชื่อว่าการได้รับอนุมัติจาก FCC ในครั้งนี้ของ SpaceX เพราะ SpaceX มีดาวเทียมอยู่แล้ว 1,584 ดวงอยู่ในวงโคจร โดยการอนุมัติของ FCC ทำให้ทาง SpaceX สามารถลดระดับความสูงของดาวเทียม 2,814 ดวง ที่จะส่งขึ้นไปในอนาคต ให้อยู่ในระดับความสูง 550 กิโลเมตรจากพื้นโลกได้ อันเป็นวงโคจรเดียวกับที่ทาง Amazon เคยเสนอเอาไว้ (ดาวเทียมก่อนหน้าของ SpaceX อยู่ที่ระดับความสูง 1,150 กิโลเมตร)
การอนุมัติของทาง FCC มีเงื่อนไขว่า ทาง SpaceX จะต้องประสานงานกับผู้ให้บริการรายอื่น ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าสัญญาณดาวเทียม Starlink จะไม่รบกวนผู้อื่น พร้อมที่ทาง SpaceX ยังต้องทำรายงานครึ่งปีให้แก่ทาง FCC เพื่อตรวจสอบข้อผิดพลาดต่าง ๆ ของดาวเทียม Starlink รวมถึงทุกเหตุการณ์ที่ SpaceX ทำ หรือติดต่อกับใครทั้งหมด
ตามแผนของ SpaceX เครือข่ายของ Starlink จำเป็นต้องมีดาวเทียมอยู่ในวงโคจรมากกว่า 1,300 ดวง เพื่อให้สามารถให้บริการอินเทอร์เน็ตไปทั่วทั้งโลกได้ ซึ่งคู่แข่งคนสำคัญของ SpaceX ก็คือ Amazon และ OneWeb ที่กำลังทำบริการเดียวกันอยู่ โดยเครือข่าย Kuiper ของ Amazon ยังไม่ได้มีการเปิดตัวแต่อย่างใด แต่ได้รับอนุญาติจาก FCC แล้ว และกำหนดเปิดตัวภายในปี 2026 ส่วนทาง OneWeb ได้เปิดตัวดาวเทียม 182 ดวงจาก 648 ดวง ตามที่ได้วางแผนเอาไว้แล้ว การที่ Amazon ยอมรับคำตัดสินของ FCC ในครั้งนี้ ก็เพราะหนึ่งในเงื่อนไขที่ทาง SpaceX ต้องยินยอมให้ดาวเทียมอื่น ๆ เข้ามาใช้งานร่วมกันได้ นั่นหมายความว่าดาวเทียมของ Starlink ทั้ง 2,814 ดวง ต้องทำงานรอบกลุ่มดาวเทียมของ Amazon แทนที่ทาง Amazon ต้องปรับเครือข่ายให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของ SpaceX
นอกจากนี้การปรับวงโคจรของดาวเทียม Starlink ยังถือเป็นประโยชน์สำหรับนักดาราศาสตร์ ที่ได้มีการบ่นมาหลายปี ว่าดาวเทียม Starlink ของ SpaceX นั้นสะท้อนแสงอาทิตย์ ในระหว่างสำรวจสิ่งต่าง ๆ ในเวลากลางคืน และทำให้ภาพที่ถ่ายออกมามีริ้วแสง ซึ่งเมือลดระดับความสูงลองมา จะทำให้ดาวเทียมทั้งหมดอยู่ในเงาของโลก และสะท้อนกับแสงอาทิตย์ได้ยากขึ้น
แหล่งที่มา theverge.com