ททท.จัดแคมเปญดึงเที่ยวปลายปี สร้างแรงส่งปีหน้า
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)ผลักดันแคมเปญเพื่อกระตุ้นคนไทยท่องเที่ยวในประเทศช่วงก่อนสิ้นปี รวมถึงจูงใจต่างชาติให้เข้ามาจับจ่ายที่แม้จะยังไม่สามารถเปิดได้เต็มที่แต่คาดหวังจะสร้างแรงส่งไปถึงปีหน้า
โดยเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า ในวันที่ 30 ตุลาคมจะหารือร่วมกับนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในการส่งเสริมภาคท่องเที่ยวโดยมี 3 เรื่องหลัก ได้แก่
1.ททท.จะร่วมกับการบินไทย สมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) และสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) จัดทำแพกเกจท่องเที่ยว 3 แพกเกจเที่ยวระยะสั้นไปเช้าเย็นกลับ 1 ทริป เพื่อนำเสนอต่อนักท่องเที่ยวต่างชาติหลังครบกักตัว 14 วัน ให้กระจายไปยังเมืองท่องเที่ยวในต่างจังหวัด โดยททท.จะเป็นผู้สนับสนุนค่าใช้จ่าย แต่จะเป็นเท่าไรยังต้องหารือกันเพิ่มเติม
2.ปลดล็อกเงื่อนไขโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” และ
3.ททท.จะร่วมกับสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมนิทรรศการ (ทีเส็บ) ออกแพกเกจสนับสนุนการจัดประชุมสัมมนาของภาครัฐ โดยทั้ง 3 เรื่องทางศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบศ. ได้ขอให้เร่งนำเสนอในที่ประชุมวันที่ 2 พฤศจิกายนนี้
นายยุทธศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับการปลดล็อกเงื่อนไขโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” เพื่อเป็นการกระตุ้นการเดินทางและยอดการใช้สิทธิ์จองห้องพักให้ถึงเป้าหมาย 5 ล้านคืน โดยเงื่อนไขใหม่จะประกอบด้วย
1.ให้โรงแรมที่อยู่ในฐานข้อมูลภาษีของกรมสรรพากรเข้าร่วมโครงการได้ ไม่จำกัดเฉพาะโรงแรมที่มีใบอนุญาตประกอบกิจการเท่านั้น
2.ผู้ลงทะเบียนสามารถใช้สิทธิ์ส่วนลดที่รัฐช่วยจ่าย 40% ของมูลค่าตั๋วเครื่องบิน แต่ไม่เกิน 2,000 บาทต่อคนในขั้นตอนการจองตั๋วเครื่องบินได้ทันที ไม่ต้องยื่นเรื่องขอคืนเงินภายหลัง แต่มีเงื่อนไขว่าจะต้องค้างคืน โดยไม่จำเป็นต้องเข้าพักโรงแรมที่เข้าร่วมโครงการ
3.เพิ่มแพกเกจทัวร์ โดยสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) ได้เสนอโครงการย่อย “ชวนผู้สูงวัย เที่ยววันธรรมดาผ่านทัวร์” ใช้งบฯของโครงการเราเที่ยวด้วยกันซึ่งปัจจุบันเหลืออีก 1 หมื่นล้านบาท ขณะที่สมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (ทีทีเอเอ) เสนอ ททท.ว่าจะขอทำแพกเกจทัวร์ขายผ่านโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ททท.จึงให้แนวทางว่าต้องทำแพ็คเกจทัวร์ราคาสูงเพื่อขายกลุ่มไฮเอนด์ ซึ่งไม่สามารถเดินทางไปต่างประเทศได้ในช่วงนี้ 4.เพิ่มการเสนอขายวอยเชอร์ของโรงแรม ให้แก่ผู้ลงทะเบียนโครงการฯ ภายใต้เงื่อนไขรัฐช่วยจ่าย 40% เพื่อนำไปใช้จ่ายค่าบริการอื่นๆ ในโรงแรมเพิ่มเติมและ 5.ปรับวิธีการและลดขั้นตอนการใช้สิทธิ์โครงการให้ง่ายขึ้น