กองทัพซีเรีย รัวกระสุนโจมตีโรงพยาบาล เจ็บ-ตายอื้อ
วันนี้( 22 มี.ค.64) รัฐบาลซีเรียรัวกระสุนโจมตีโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเมืองที่กลุ่มกบฎยึดครองอยู่ ทำให้ประชาชนเสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 6 คน และมีผู้บาดเจ็บ 16 คน โดยจำนวนนี้เป็นบุคลากรการแพทย์บาดเจ็บอย่างน้อย 5 คน ทำให้ต้องสั่งปิดโรงพยาบาลลงเป็นการชั่วคราว
การสู้รบกลางเมืองของซีเรียที่ยืดเยื้อมานาน 10 ปี ยังคงดำเนินต่อไป และล่าสุด 21 มีนาคม เกิดเหตุกองกำลังฝ่ายรัฐบาลระดมยิงปืนใหญ่โจมตีโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ในเมืองอาตาริบ (Atarib) ทางตะวันตกเฉียงเหนือ ซึ่งกลุ่มกบฎยึดครองอยู่ จนเป็นเหตุให้มีพลเรือนเสียชีวิต 7 ราย รวมถึง แม่และเด็ก อีกทั้งบุคลากรการแพทย์บาดเจ็บอีก 4 คน
กระทรวงกลาโหมตุรกีเปิดเผยเมื่อเช้าวันอาทิตย์ว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 คน และบาดเจ็บ 10 คน จากเหตุยืงปืนใหญ่จากกองกำลังที่ได้รับการหนุนหลังจากรัฐบาลดามัสกัสใส่ประตูทางเข้าหลักของโรงพยาบาล
คลิปภาพจากสำนักข่าวรอยเตอร์ส ที่ส่งมาจากพยานในเหตุการณ์ จะเห็นว่าวอร์ดต่างๆภายในโรงพยาบลพังเสียหาย และหน่วยกู้ภัยต่างเร่งนำตัวผู้ป่วยที่เปื้อนเลือดออกไปด้านนอกแต่ยังไม่สามารถตรวจสอบความชัดเจนของคลิปนี้ได้
ทั้งนี้ การสู้รบกันระหว่างกองทัพซีเรย และกลุ่มกบฎต่อต้านรัฐบาลประธานาธิบดีบาร์ชา อัล อัซซาด เริ่มลดลงนับตั้งแต่ที่มีการบรรลุข้อตกลงเมื่อกว่า 1 ปีก่อน ทำให้การทิ้งระเบิดโจมตีที่นำโดยรัสเซีย ที่ส่งผลให้มีประชาชนต้องพลัดถิ่นมากกว่า 1 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิตอีกหลายพันคน นั้น เริ่มลดน้อยลง
ซีเรีย และรัสเซีย ตกลงว่า จะมุ่งโจมตีเฉพาะกลุ่มกองกำลังอิสลาม ซึ่งยังคงมีอิทธิพลอยู่เท่านั้นและยังปฏิเสธว่ามีการลอบยิงในพื้นที่พลเรือน หรือการอยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีโรงพยาบาลหลายแห่งตลอดระยะเวลาหลายปีที่เกิดสงคราม
ขณะที่ ซาน่า (SANA) สำนักข่าวของทางการซีเรีย รายงานข่าวเมื่อวันอาทิตย์ กล่าวโทษว่า กองกำลังที่ได้รับการหนุนหลังจากตถรกี เป็นผู้ยิงขีปนาวุธโจมตีเมืองอเลปโป และทำให้มีพลเรือนเสียชีวิต 2 คน และบาดเจ็บอีกจำนวนมากรวมถึงเด็กเล็ก จากเหตุโจมตีอีกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
การโจมตีโรงพยาบาลครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 แล้วในปีนี้ ทำให้มีรายงานการโจมตีโรงพยาบาลรวมแล้ว 118 ครั้ง นับตั้งแต่ปี 2019 เป็นต้นมา