“บำรุงราษฎร์” ชูภาครัฐหนุน Medical Hub ไทย ดันเศรษฐกิจยั่งยื่น

ดร.อาทิรัตน์ จารุกิจพิพัฒน์ ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ เปิดเผยในงานสัมมนา "Thailand Confidence 2026 : ขับเคลื่อนความเชื่อมั่นสู่อนาคต" ถึงสุขภาพ เเละ Medical Hub มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจไทย โดยบำรุงราษฎร์มองเห็นว่าปัจจุบันรัฐบาลไทยอยู่ระหว่างผลักดันทั้ง Medical Hub เเละ Wellness Tourism หากย้อนไปตั้งเเต่ก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งการที่ประเทศไทยมุ่งเป้าที่จะขึ้นเป็น Medical Hub นั้น เราติดอันดับท็อปหนึ่งใน 5 ของโลก โดยมาร์เก็ตแชร์ของเราอยู่ที่ 5-10% ซึ่งอยู่ที่การ Definition ของ Medical Hub ของเราว่าเป็นอย่างไร
ส่วนในเรื่องของรายได้ต่อเศรษฐกิจของประเทศนั้น ปัจจุบันเทรนของการดูแลสุขภาพ ไม่ใช่เพื่อการรักษาเท่านั้น ซึ่งได้เริ่มขยายบทบาทเข้าไปสู่การป้องกันและการดูแลสุขภาพ ก่อนที่จะเข้าสู่ภาวะความเจ็บป่วย นั้นหมายถึงว่า คำนิยามว่า Wellness นั้นเริ่มเกิดขึ้นหลังสถานการณ์โควิด-19
สำหรับการที่ประเทศไทยหันมาโปรโมทในเรื่องของ Wallness เนื่องจากประเทศไทยได้เปรียบมาก และเป็นแหล่งดูงานจากหลากหลายประเทศ เป็นแหล่งของระบบการแพทย์แผนไทย นอกจาก Wellness หรือ Longevity ยังส่งผลไปเรื่องของการดูแลสุขภาพ เพื่อให้มีคุณภาพที่ดีและอายุที่ยืนยาว
เพราะฉะนั้นการผนวกคำว่า Medical เเละ Wellness จึงมองว่าเป็นสิ่งที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศไทยได้อย่างแน่นอน โดยมาร์เก็ตแชร์ของ Medical Tourism ของปีที่ผ่านมาทั่วโลกมีมูลค่า อยู่ที่ประมาณ 145 พันล้านดอลลาร์ หากเทียบกับมาร์เก็ตแชร์ของประเทศไทยอยู่ที่ประมาณ 2% เท่านั้น
ขณะที่ทางของ Wellness Tourism ทั่วโลกประกอบไปด้วย สปา, การท่องเที่ยว เเละการอยู่อาศัย ต่างๆ มีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 6.3 ล้านล้านดอลลาร์ หากเทียบกับมาร์เก็ตแชร์ของประเทศไทยอยู่ที่ประมาณ 2 - 2.5% เท่านั้น ซึ่งต่ำกว่าเกาหลี เเละอีกหลายประเทศ
ซึ่งประเทศไทยยังมีโอกาสในการเติบโตอีกมาก และมีข้อได้เปรียบทางการแข่งขันด้านการแพทย์แผนไทย และอีกเหตุผลหนึ่งที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่เดินทางมารักษาพยาบาล โดยโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ถือว่ามีกลุ่มลูกค้าหลักกว่าครึ่งเป็นชาวต่างชาติกว่า 190 ประเทศทั่วโลก หรือคิดเป็นประชากรประมาณ 1.1 ล้านต่อปี ซึ่งสร้างรายได้กว่า 2 ใน 3 มาจากกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติ
สำหรับวิสัยทัศน์ของโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ที่จะเป็น Destination Medical and Wellness Tourism เพราะมองเห็นว่าการที่จะก้าวขึ้นมาเป็นโรงพยาบาลที่ดีที่สุดติดอันดับใน 250 โรงพยาบาลทั่วโลกนั้น ทำให้ประเทศไทยเป็นที่จับตามองซึ่งทำให้ชาวต่างชาติมีความมั่นใจในการเข้ามารักษาพยาบาลในประเทศไทย
สำหรับวิสัยทัศน์ของโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ที่จะเป็น Destination Medical and Wellness Tourism เพราะมองเห็นว่าการที่จะก้าวขึ้นมาเป็นโรงพยาบาลที่ดีที่สุดติดอันดับใน 250 โรงพยาบาลทั่วโลกนั้น ทำให้ประเทศไทยเป็นที่จับตามองซึ่งทำให้ชาวต่างชาติมีความมั่นใจในการเข้ามารักษาพยาบาลในประเทศไทย
การรักษาการเป็นผู้นำด้าน Health เเละ Wellness เนื่องจากโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ถือเป็นผู้นำที่ลูกค้าต่างชาติให้ความมั่นใจนั้น ต้องมองถึงอุตสาหกรรมของเรานั้นมีความแตกต่างจากอุตสาหกรรมอื่นๆ ลูกค้าที่มาหาเราคือผู้ที่เจ็บป่วยซึ่งความเจ็บป่วยร้านเเรงบางโรค ทาให้ครอบครัวมีความเจ็บป่วยทางด้านจิตใจตามไปด้วย
ส่วนการชี้วัดที่สำคัญมากที่สุดสำหรับอุตสาหกรรมนี้ คือผลลัพธ์ของการรักษากว่าจะสามารถรักษาหายหรือดำรงชีวิตต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง เเละมีคุณภาพชีวิตไม่ได้แย่ลงจากเดิม การที่เราจะเป็นโรงพยาบาล ที่สร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าต่างชาติได้อย่างไรนั้น คือ การบอกต่อกันของลูกค้าของเราจากทั่วโลก ซึ่งเราเชื่อการตลาดที่ที่ดีที่สุดคือ "Word of Mouth "
ดร.อาทิรัตน์ กล่าวทิ้งท้าย สำหรับธีม Women of Confidence ของสายงานด้านการแพทย์ ในปัจจุบันพบว่าผู้หญิงทำงานในโรงพยาบาลกว่า 80% หากเทียบกับผู้ชาย ซึ่งผู้หญิงไทยมีความอดทนสูงมาก และมีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น การที่ธุรกิจหิวแคร์มีผู้นำเป็นผู้หญิงมองว่าน่าจะเป็นข้อได้เปรียบที่จะมีส่วนขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านสุขภาพและเศรษฐกิจ
ส่วนเรื่อง ESG ปัจจุบันถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของเกือบทุกธุรกิจ ทางด้านของโรงพยาบาลถือว่าเป็นสิ่งที่เราใส่ใจเเละดูแลควบคู่ไปด้วยในเรื่องของสิ่งแวดล้อม เพราะธุรกิจทางการแพทย์มีทั้งยาเเละสารเคมี หากควบคู่ได้ไม่ดีอาจจะเกิดผลกระทบได้ในวงกว้าง
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
