รีเซต

เปิดคำสารภาพ-ทำแผน ไวยาวัจกร ชิงทองหาเงินคืนวัด

เปิดคำสารภาพ-ทำแผน ไวยาวัจกร  ชิงทองหาเงินคืนวัด
TNN ช่อง16
22 พฤศจิกายน 2564 ( 12:54 )
128
เปิดคำสารภาพ-ทำแผน ไวยาวัจกร  ชิงทองหาเงินคืนวัด

วันที่ 22 พฤศจิกายน 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจ นำโดย พ.ต.อ.ธงชัย นุ้ยเจริญ รองผบก.ภ.จ.ชุมพร พันตำรวจเอกธานี  นาคหกวิค  ผกก.สส.ภจว.พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่นำตัวนายดล อายุ 38 ปี ไวยาวัจกร  คนร้ายจี้ชิงทอง มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่ร้านทองเยาวราชกรุงเทพสาขาชุมพร  ภายในห้างบิ๊กซี หลังจากที่เจ้าหน้าที่แกะรอยติดตามตัว จนสามารถจับกุมตัวได้  


พฤติกรรมในการก่อเหตุ โดยนายดล รับสารภาพว่าได้ก่อเหตุจี้ชิงทองจริง เนื่องจากติดการพนัน และได้นำเงินวัดจำนวน 1 ล้านกว่าบาท ไปเล่นการพนันจนหมด และในวันที่ 14 พฤศจิกายนนี้ จะมีการทอดกฐิน ที่วัดเขาแก้ว ซึ่งตนเองเป็นไวยาวัจกรอยู่ที่นั้น จึงเกรงว่า จะถูกตรวจสอบเงิน  จึงได้วางแผนที่จะหาเงินมาคืนวัดให้ทันงานกฐิน จึงได้พยายามศึกษาการก่อเหตุในคดีต่างๆที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ประกอบกับดูหนังฝรั่งเกี่ยวกับการจรกรรม จนนำมาสู่การวางแผนที่จะปล้นทองที่ห้างทองเยาวราชสาขาชุมพร  ประกอบกับตนได้มาออกกำลังกายที่ห้างแห่งนี้ จึงรู้ทางหนีทีไล่เป็นอย่างดี  และได้ลงมือก่อเหตุดังกล่าวขึ้น




นายดล ยังสารภาพอีกว่า ได้นำทองส่วนหนึ่งไปขาย ส่วนหนึ่งไปจำนำ  และอีกส่วนหนึ่งได้เก็บไว้ที่บ้าน  ส่วนหลักฐานที่จะนำมาสู่การจับกุมไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าก็ได้นำไปแอบซ่อนไว้ส่วน มอเตอร์ไซต์นั้นไปจอดทิ้งไว้ข้างทางพร้อมเสียบกุญแจไว้ เพราะคิดว่าตำรวจจะต้องติดตามยานพาหนะที่ก่อเหตุ และดูกล้องวงจรปิดเส้นทางในการหลบหนี  และหากมีคนมาเจอและพบว่ามีกุญแจเสียบอยู่ คนที่ขับรถไปก็จะตกกระไดพลอยโจรตำรวจก็จะมุ่งไปที่คนที่เอารถไป 




หลังจากนั้นตนเองก็ได้กลับมาใช้ชีวิตปกติและทำหน้าที่พิธีกรรมทางศาสนา จนกระทั่ง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้บุกจับพระเสพยาเสพติดจนหมดวัด  และมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินเงินทองภายในวัดซึ่งพบว่าเงินได้หายไปจากบัญชี 1,070,000  บาท ตนเองยอมรับว่าเป็นคนเอาเงินไปเอง  และนายดล แจ้งว่าจะรับผิดชอบเงินจำนวนดังกล่าว โดยเบื้องต้นได้โอนเงินเข้าบัญชีวัด จำนวน 1 ล้าน ส่วนอีก 70,000  จะไปกดเงินให้ทำให้คณะกรรมการเกิดข้อสงสัยที่มาที่ไปของเงินจำนวนดังกล่าว จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเชิญตัวไปสอบปากคำ เพราะสงสัยว่าจะเป็นคนร้ายก่อเหตุชิงทองที่ตำรวจเคยมาควานหาหลักฐานในการก่อเหตุที่คนร้ายอาจนำมาทิ้งไว้  และเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวนายดล ไปสอบพบว่านายดลให้การมีพิรุจหลายอย่าง จึงนำตัวไปตรวจค้นภายในบ้านก็พบหลักฐาน เสื้อผ้า หลักฐานใบจำนำทอง จนนำมาสู่มาซึ่งการจับกุมและทำแผนในครั้งนี้


สำหรับคดีนี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2564 นายดล ผู้ต้องหา ใช้อาวุธปืนบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ทองรูปพรรณหนัก 80 บาท ที่ร้านทองเยาวราช แยกเป็นทองของร้าน 75 บาท ทองรูปพรรณที่ลูกค้านำมาจำนำอีก 5 บาท รวมมูลค่าทองคำทั้งหมดราคา 2,481,750 บาท ภายในห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาชุมพร ตำบลวังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร ขณะลงมือมีกล้องวงจรปิดจับภาพคนร้ายขณะก่อเหตุไว้ได้ หลังก่อเหตุขับรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ 100 เอส สีน้ำเงิน-เทา ไม่ติดแผ่นป่ายทะเบียนหลบหนีไป ก่อนถูกจับกุมได้เมื่อวานที่ผ่านมา โดยนายดล เป็นไวยาวัจกร วัดแห่งหนึ่งใน หมู่ 5 ตำบลนากระตาม อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร 


และจากการตรวจค้นในบ้านของผู้ต้องหาเบื้องต้นพบตั๋วจำนำจากร้านทองนอกพื้นที่จำนวน 13 ใบ รวมน้ำหนักทองคำรูปพรรณที่จำนำกว่า 20 บาท และสร้อยคอ 21 เส้น น้ำหนัก 21 บาท พร้อมกับแหวน ต่างหู สร้อยคอ ของลูกค้าที่นำมาจำนำอีก 5 บาท หมวกไหมพรม สีดำและสีเทา 2 ใบ ซุกซ่อนอยู่ในบ้านของผู้ต้องหา ใน ตำบลนากระตาม อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร 


ทั้งนี้พฤติกรรมการจับกุมสืบเนื่องจากตำรวจชุดสืบสวนได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางทางที่คนร้ายขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไปสิ้นสุดหายที่บริเวณใกล้กับวัดปากแพรก หมู่ 2 ตำบลนากระตาม อ.ท่าแซะ ซึ่งอยู่ห่างจากวัด หมู่ 5 ตำบลนากระตามประมาณ 10  กิโลเมตร ส่วนด้านหลังของวัดทั้ง 2 แห่ง มีลำคลองไหลผ่าน จึงได้จัดชุดประดาน้ำออกค้นหารถจักรยานยนต์ ช่วงระหว่างวัดปากแพรกถึงวัด ซึ่งคาดว่าคนร้ายอาจจะนำรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุไปจมทิ้งไว้ในคลองดังกล่าว 

  

จากการค้นหารถจักรยานยนต์มาจนถึงคลองใกล้หลังวัด เจ้าหน้าที่สังเกตว่าทั้งเจ้าอาวาสวัดและพระลูกวัด รวม 4 รูป มีพฤติกรรมน่าสงสัย เข้าไปอยู่ในกุฎิไม่ออกมาดูและให้ข้อมูลใด ๆกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ประกอบกับมีชาวบ้านแจ้งว่าวัดดังกล่าวทั้งเจ้าอาวาสและพระลูกวัดมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด จากนั้นตำรวจชุดสอบสวนภูธรจังหวัดชุมพร และชุดสืบสวนภูธรภาค 8 จึงเฝ้าติดตามพฤติกรรม 

  

กระทั้งช่วงบ่ายวันที่ 11 พ.ย.64 พ.ต.อ.ธานี นาคหกวิค ผกก.สส.ภ.จว.ชุมพร จึงสนธิกำลังทั้งตำรวจท้องที่ ตำรวจ ปปส.และฝ่ายปกครองเข้าตรวจค้นภายในวัด พบยาเสพติดและอุปกรณ์การเสพยา  จึงได้ยึดไว้เป็นหลักฐาน ก่อนนำตัวทั้งเจ้าอาวาส และพระลูกวัดทั้งสามรูปไปตรวจปัสสาวะ ซึ่งปรากฏว่าทั้งเจ้าอาวาส พระลูกวัด รวม 4 รูป  และ นายวัชรินทร์ ผลออกมาเป็นสีม่วงทุกคน โดยทั้งหมดยอมรับสารภาพว่าได้ซื้อยาบ้ามาเสพกันจริง จึงนำตัวไปสึกและส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย




ภาพจาก : ผู้สื่อข่าว จ.ชุมพร 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง