รีเซต

หนุ่มอาชีวะหนองคาย โดนหลอกลงทุนในออนไลน์สูญเงินกว่า 3 แสน

หนุ่มอาชีวะหนองคาย โดนหลอกลงทุนในออนไลน์สูญเงินกว่า 3 แสน
มติชน
26 ธันวาคม 2564 ( 15:07 )
167
หนุ่มอาชีวะหนองคาย โดนหลอกลงทุนในออนไลน์สูญเงินกว่า 3 แสน

ข่าววันนี้ นักศึกษาหนุ่ม วัย 18 ปี สถาบันอาชีวศึกษาแห่งหนึ่งในจังหวัดหนองคาย โดนหลอกอ้างเป็นแพลตฟอร์มการช็อปปิ้งออนไลน์ของ shopee สองวันสูญเงินไปกว่า 3 แสนบาท ซึ่งเป็นเงินที่ยืมจากญาติพี่น้อง ฝากเตือนถึงคนอื่นเงินไม่ได้หาได้ง่าย ๆ ในขณะที่แม่วอนผู้ที่หลอกคืนเงินให้ด้วย เพราะเดือดร้อนหนัก ญาติที่ให้ยืมเงินมีความจำเป็นต้องนำเงินไปซื้อสินค้าเพื่อเปิดร้าน และขอให้เจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องเร่งติดตามเงินและนำตัวคนผิดมาลงโทษ

 

ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่บ้านโนนโพนทอง ต.เหล่าต่างคำ อ.โพนพิสัย จังหวัดหนองคาย หลังจากได้รับแจ้งว่ามีผู้ถูกหลอกลงทุนในระบบออนไลน์ สูญเงินไปกว่า 3 แสนบาท เมื่อไปถึงบ้านผู้ที่ถูกหลอกเป็นบ้าน 2 ชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้ที่สร้างแบบง่าย ๆ และได้พบกับผู้ที่ถูกหลอกที่ยังเป็นนักศึกษา อายุ 18 ปีจะครบ 19 ปี ในเดือนมกราคม 65 นี้ ปัจจุบันเรียนอยู่ระดับชั้น ปวส.1 สถาบันอาชีวศึกษาแห่งหนึ่งในจังหวัดหนองคาย

 

นักศึกษาหนุ่ม (ขอปกปิดชื่อ-สกุล) เล่าให้ฟังว่า หลังจากที่มีข้อความเข้ามาในไลน์ของตนอ้างเป็นแพลตฟอร์มการช็อปปิ้งออนไลน์ของ shopee ร้านค้าโพสต์คำสั่งซื้อ สมาชิก คว้าคำสั่งซื้อ ช่วยร้านค้าปรับปรุงการจัดอันดับร้านค้า และให้ผู้ซื้อค้นหาร้านค้าที่มีคุณภาพที่สุด หลังจากเสร็จภารกิจ สมาชิกจะได้รับค่าคอมมิชชั่นที่มั่นคงและเป็นผลตอบแทนหลัก เพราะโควิดทำให้เกิดโอกาสในการทำเงิน ตนก็ได้กดเข้าไปในลิงค์เพื่อทำการสมัครเป็นสมาชิก หลังสมัครเป็นสมาชิกแล้ว ก็ได้มีการส่งข้อความเข้ามาในไลน์ของเรา ชื่อไลน์คือ gius บอกเป็นเจ้าหน้าที่บริการลูกค้า เข้ามาให้คำแนะนำและให้เราทำงานตามที่สั่ง โดยครั้งแรกให้เราเติมเงินเข้าในระบบก่อน 100 บาท จากนั้นเขาก็ให้เราทำงาน โดยการกดปุ่มสุ่มร้านค้า จำนวน 10 ครั้ง หลังจากตนกดสุ่มไปครบ 10 ครั้งก็ได้รับเงินค่าคอมมิชชั่นโอนกลับมา 41 บาท สามารถถอนออกมาได้

 

นักศึกษาหนุ่มที่ถูกหลอก เล่าต่อไปอีกว่า ในวันต่อมา (23 ธันวาคม 64) ตนก็ได้เติมเงินเข้าไปในระบบอีก แล้วมีข้อความให้ตนกดปุ่มสุ่มซื้อของ จำนวน 30 ครั้ง ซึ่งหลังกดปุ่มก็จะมีการโชว์รูปสินค้าที่สุ่มซื้อ เราก็ต้องโอนเงินไปตามมูลค่าของสินค้าที่เรากดปุ่มสุ่มซื้อแล้วโชว์สินค้าพร้อมราคาออกมา เมื่อครบ 30 ครั้ง ตนได้โอนเงินไปกว่า 1 แสนบาทแล้ว แต่ตนก็ถอนไม่ได้ เมื่อตนพิมพ์ข้อความสอบถามไป ก็มีข้อความให้ตนโอนเงินเพิ่มอีกและทำงานต่ออีกให้ครบ 40 ครั้ง ตนก็ได้ยืมเงินญาติมาโอนให้ แล้วทำงานต่อ ยอดเงินก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตนก็เริ่มเอะใจทำไมเงินไม่โอนกลับเข้ามาให้ตนคืน จึงหยุดการโอนเงินให้อีก รวมเงินที่ตนโอนไปทั้งหมด 324,200 บาท

 

นักศึกษาหนุ่มที่ถูกหลอก เล่าต่อไปอีกว่า ช่วงที่โอนเงินคืนให้เรานั้น เป็นช่วงที่เราเติมเงินหลักร้อยคือ 200 บาทเท่านั้น พอยอดโอนเงินถึงหลักพันหลักหมื่นก็โอนไม่ได้แล้ว มันให้เติมเงินเข้าไปแล้วอ้างให้ทำงานเพิ่มจนยอดโอนเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ เป็นหลักแสนก็ยังถอนไม่ได้ ซึ่งการกดปุ่มสุ่มนั้นมันบอกว่าเป็นการสุ่มซื้อสินค้าจากร้านค้าใน shopee ถ้าสุ่มถูกร้านที่มีสินค้าน้อยก็จะได้คอมมิชชั่นน้อย แต่ที่ตนสุ่มโดนมีแต่สินค้าหลักหมื่นหลักแสน หลังจากที่เราทำภารกิจตามที่บอกเสร็จ มันก็จะโอนเงินกลับเข้ามาในบัญชีของเรา (ในช่วงหลักร้อย) ซึ่งตนได้รับเงินที่โอนคืนครั้งเดียว จำนวน 200 บาท เป็นค่าคอมมิชชั่น 41 บาท วันแรกที่เริ่มทำคือวันที่ 22 ธันวาคม 64 เงินที่ตนโอนเป็นเงินหลักร้อย พอวันที่ 23 ธันวาคม 64 ตนก็ได้โอนไปอีกและทำภารกิจ (กดปุ่มสุ่ม) โอนเงินเข้าในระบบจากหลักร้อยเป็นหลักพัน หลักหมื่น และหลักแสน ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง ไม่สามารถถอนเงินออกมาได้ จนรู้ว่าถูกหลอก

 

สำหรับเงินที่โดนหลอกเป็นเงินที่ตนยืมจากญาติ ตนอยากได้เงินที่โอนไปคืน ซึ่งตอนนั้นตนโอนเงินไปแล้วอยู่ที่หลักหมื่น หลักแสนแล้ว ตนก็อยากได้เงินที่โอนไปคืน จึงได้ยืมเงินมาแล้วโอนเพิ่มเข้าไปเรื่อย ๆ ตามที่เขาสั่ง แต่มันไม่ยอมให้เราถอนเงินออกมา มีเพื่อให้เราทำภารกิจ (กดปุ่มสุ่ม) ที่ต้องเติมเงินเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ตนเริ่มเอะใจตอนที่เราเติมเงินเข้าไปกว่า 3 แสนบาทแล้ว ที่มันบอกให้เราภารกิจให้ครบ 30 ครั้ง เมื่อเราทำครบแล้วก็ให้เราทำต่อให้ครบ 40 ครั้ง

 

นักศึกษาหนุ่มที่ถูกหลอก ได้ฝากในตอนท้ายว่า “อยากจะฝากคนที่ยังไม่โดนหลอก ว่า ก่อนที่จะทำอะไรให้คิดดี ๆ อ่านดูดี ๆ เงินมันไม่ได้มาง่าย ๆ”

 

ทางด้านแม่ของหนุ่มที่ถูกหลอก บอกว่า ตนก็ไม่ได้มีเงินเก็บอะไร โดนที่ลูกชายโดนหลอก ลูกชายก็ไปยืมจากญาติ ที่เป็นหลานเขยของตน ตนก็ไม่รู้ว่าลูกชายไปยืมเงินมา ตนขอวิงวอนผู้ที่หลอกเอาเงินไป ขอให้คืนเงินมาให้ และขอวิงวอนเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้เร่งรัดติดตามเงินมาคืนให้ ตอนนี้ตนทั้งเศร้าใจและทุกข์ใจ เงินเก็บตนก็ไม่เคยมี หามาได้ก็ใช้ไปทุกวัน และส่งให้ลูกเรียน เงินที่ลูกชายตนยืมมา เจ้าของเงิน (หลานเขย) ก็อยากได้เงินคืน เพราะจะเอาไปลงทุนซื้อสินค้าเข้าร้าน ตอนนี้ตนต้องวิ่งเต้นเพื่อหาเงินมาแทน แต่ก็ยังไม่มีหนทาง

 

หลังเกิดเหตุทางครอบครัวผู้ที่โดนหลอกก็ได้เข้าแจ้งความที่ สภ.เหล่าต่างคำ เมื่อช่วงเย็นวันที่ 23 ธันวาคม 64 ทันที และในวันที่ 24 ธันวาคม 2564 ก็ได้เดินทางไปที่จังหวัดหนองบัวลำภู เพื่อไปติดตามหาเจ้าของบัญชีที่โอนเงินให้ แต่พบว่า เจ้าของบัญชีคนดังกล่าว ได้หายไปจากบ้านติดต่อไม่ได้มาเป็นเวลากว่า 10 ปีแล้ว ซึ่งทางบ้านก็ได้แจ้งเป็นบุคคลสูญหายแล้ว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง