จับขบวนการค้ามนุษย์ ขนเมียนมาเข้าไทย ค่านายหน้า 7,000 -20,000 บาท

ภาพจาก ผู้สื่อข่าว จ.พิจิตร 

วันที่ 23 ตุลาคม 2564 เมื่อคืนที่ผ่านมาที่สถานีตำรวจภูธรสามง่าม จังหวัดพิจิตร  นายไพบูลย์  ณะบุตรจอม  ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร พร้อมด้วยผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรสามง่าม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันสอบปากคำนายพิษณุ อายุ 35 ปี ชาว ต.ทุ่งเสลี่ยม อ.ทุ่งเสลี่ยม จ.สุโขทัย  ซึ่งเป็นหนึ่งในขบวนการค้ามนุษย์ และถูกตำรวจกองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด(ปส.)จับกุมไว้ได้ บริเวณถนนทางหลวงหมายเลข 115  ขาเข้าตัวเมืองพิจิตร เขตอำเภอสามง่าม  

โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เปิดรถยนต์ตู้  สีเทา ทะเบียนจังหวัดเชียงใหม่  ถึงกับตะลึงพบแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ทั้งผู้ชายและผู้หญิง อายุระหว่าง 17 – 40 ปี จำนวน 39 คน เป็นชาย 17 คน หญิง 22 คน นั่งแออัดยัดเหยียดอยู่ภายในรถยนต์ตู้คันดังกล่าวเพียงคันเดียว  

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ทั้งหมดเป็นแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา ลักลอบเข้ามาประเทศไทยผ่านทางช่องทางธรรมชาติ ในอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก และจังหวัดแม่ฮ่องสอน และอีกหลายอำเภอในจังหวัดเชียงใหม่  โดยจะมีนายหน้าชาวเมียนมาและชาวไทย  ทำหน้าที่ในการชักชวนให้เข้ามาทำงานในประเทศไทย  โดยจะมีจุดหมายปลายทางในกรุงเทพฯ และพื้นที่อีกหลายจังหวัดในแถบภาคกลาง ที่เป็นนิคมอุตสาหกรรม  รวมถึงตลาดค้าส่งสินค้าเกษตรในจังหวัดปทุมธานี    

โดยแต่ละคนจะเสียค่าใช้จ่ายให้นายหน้าในการนำพาเข้าประเทศไทย  ตั้งแต่หลัก 7,000 บาทไปจนถึงหลัก 20,000 บาทขึ้นอยู่กับจุดหมายปลายทางที่จะไป  และที่สำคัญจะเลือกเดินทางเฉพาะเวลากลางคืน   และใช้เส้นทางสายรองมากกว่าเส้นทางสายหลัก  เพื่อหลบเลี่ยงจุดตรวจและด่านตรวจต่างๆ ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ  ส่วนกลางวันจะอาศัยหลับนอนในสถานีบริการน้ำมัน  โดยคนขับรถยนต์ตู้สารภาพว่าได้ค่าจ้างครั้งละ 2,500-3,000 บาท และได้ทำมาแล้วจำนวนหลายครั้ง และในแต่ละครั้งจะมีรถยนต์นำทำหน้าที่กุยทาง(เอร์เวย์) และจะมีรถยนต์คอยคุ้มกันให้อีก 1 คัน  

ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ขยายผลติดตามสืบสวนขบวนการดังกล่าวมาดำเนินคดี พร้อมควบคุมตัวนายพิษณุ ผู้ต้องหาไว้ดำเนินคดี ว่า" ร่วมกับพวกที่หลบหนี รู้ว่าเป็นคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย ช่วยเหลือ ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆเพื่อให้คนต่างด้าวที่เข้ามาโดยผิดกฎหมายพ้นจากการจับกุม และได้แจ้งข้อกล่าวหาแรงงานต่างด้าวว่า "เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต"และจะผลักดันกลับประเทศต้นทางต่อไ ป โดยผู้ต้องหาชาวเมียนมาร์ท้งหมดได้ตรวจหาโควิด-19 แล้วผลเป็นลบทุกคน