"โมดี" ลั่นไม่ละเว้นผู้ก่อเหตุระเบิด นำกฎหมายต้านก่อการร้ายกลับมาใช้

ตำรวจอินเดียได้นำ "กฎหมายต่อต้านการก่อการร้าย" กลับมาใช้อีกครั้ง หลังเกิดเหตุรถยนต์ระเบิดรุนแรงใกล้กับป้อมเรดฟอร์ต ซึ่งเป็นจุดสำคัญทางประวัติศาสตร์ ในกรุงนิวเดลี เมืองหลวงของประเทศเมื่อค่ำวันจันทร์ที่ผ่านมา (10 พ.ย.) ซึ่งเป็นช่วงที่มีผู้คนพลุกพล่าน จนทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 13 ราย บาดเจ็บอีกกว่า 20 คน ซึ่งกฎหมายดังกล่าวมีความหมายว่า ต่อให้เจ้าหน้าที่จะยังไม่สามารถยืนยันสาเหตุของเหตุระเบิด หรือชื่อผู้ต้องสงสัยได้ แต่ก็จะนับว่าเหตุระเบิดครั้งนี้เป็น "การก่อการร้าย" ไม่ใช่เพียงการระเบิดทั่วไป หรืออุบัติเหตุ

หน่วยงานความมั่นคงได้ประกาศยกระดับการเตือนภัยขั้นสูงสุดในหลายรัฐและเมืองทั่วกรุงนิวเดลี และเปิดสอบสวนสาเหตุของการระเบิดครั้งนี้ทันที

ด้านนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี กล่าวที่กรุงทิมพู เมืองหลวงของภูฏานว่า เหตุการณ์ร้ายแรงที่เกิดขึ้นที่กรุงนิวเดลีเมื่อคืนวานนี้ได้สร้างความไม่สบายใจอย่างยิ่งแก่ทุกคน หน่วยงานของอินเดียจะสืบสวนถึงต้นตอของการสมคบคิดนี้ ผู้ที่อยู่เบื้องหลังจะไม่ถูกละเว้น ผู้รับผิดชอบทั้งหมดจะถูกนำตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม 

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เกิดเมื่อช่วงประมาณ 18.52 น. ตามเวลาท้องถิ่น โดยรถยนต์ฮุนได i20 ที่กำลังเคลื่อนที่มาอย่างช้า ๆ หยุดที่บริเวณไฟแดง ก่อนจะเกิดระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง ทำให้รถยนต์ที่อยู่ใกล้เคียงได้รับความเสียหาย

หลังเกิดเหตุตำรวจได้จับกุมเจ้าของรถยนต์คันนี้ คือ โมฮัมหมัด ซัลมาน ในเมืองคุรุคราม รัฐหรยาณา ซึ่งซื้อรถมาเมื่อปี 2013 ก่อนจะขายให้กับชายในกรุงนิวเดลี ซึ่งชายคนดังกล่าวก็ถูกจับกุมเช่นกัน แต่รถคันนี้ยังคงลงทะเบียนในชื่อของซัลมาน และใช้ป้ายทะเบียนที่รัฐหรยาณาอยู่ 

ป้อมแดง หรือที่รู้จักกันในชื่อ “ลาล กิลา” เป็นอาคารสมัยจักรวรรดิโมกุลอันกว้างใหญ่ตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 ซึ่งผสมผสานสถาปัตยกรรมเปอร์เซียและอินเดีย และมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลมาเยือนตลอดทั้งปี นอกจากนี้ โมดียังกล่าวปราศรัยจากเชิงเทินของป้อมนี้ทุกปีในวันที่ 15 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันประกาศเอกราชของอินเดีย