"หมอธีระ" ชี้ถ้าไทยต้องเผชิญโอไมครอนระลอกนี้จะกระทบหลายอย่าง ระบุต้องทำ 3 ปัจจัยหลักกำหนดหนักเบาได้

เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2564 ศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความ โดยระบุว่า “วันนี้ยุ่งทั้งวัน เพราะต้องตรวจแก้ไขงานวิชาการเรื่องโควิดที่เขียนให้กับทางองค์กรต่างประเทศ
อ่านทบทวนทั้งหมดอยู่หลายรอบ ก็ทำให้ฉุกคิดถึงสิ่งที่ประเทศไทยอาจต้องเผชิญ นั่นคือ Omicron
ระลอกนี้หากปะทุขึ้นมาจะเกิดผลกระทบหลายอย่าง ที่สำคัญคือผลกระทบเชิงเศรษฐกิจ และสังคม
ปัจจัยกำหนดความหนักเบานั้นหนีไม่พ้นเรื่องความเข้มแข็งทางสังคม ซึ่งความเข้มแข็งนั้นแปรผันโดยตรงกับ 3 เรื่องหลัก ได้แก่
หนึ่ง การเรียนรู้จากบทเรียนในอดีตทั้งของเราเองและของต่างประเทศ (Learning)
เราได้เรียนรู้จากบทเรียนในอดีตอันเจ็บปวดจากระลอกสองและสามหรือไม่ว่า ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเช่นไร เหตุใดจึงเกิด และจะป้องกันไม่ให้เกิดผลลัพธ์นั้นได้อย่างไร
สอง การตัดสินใจกระทำ (Action)
ในระดับบุคคลและชุมชน เราจะตัดสินใจกระทำการใด ทั้งในปัจจุบันและในอนาคต การป้องกันตัวของแต่ละคน และของคนอื่นในสังคมจะเป็นไปอย่างเข้มแข็ง พร้อมเพรียง เพียงพอที่จะทำให้ไม่ระบาด หรือระบาดน้อยกว่าเดิม ได้หรือไม่
ในขณะที่ระดับนโยบายนั้น ก็เป็นเรื่องสำคัญและส่งผลกระทบต่อสวัสดิภาพและความปลอดภัยในชีวิตของทุกคนในสังคม ขึ้นกับว่าจะนำไปในทางเพิ่มความเสี่ยงมากน้อยเพียงใด และจะทำเรื่อง harm perception ไปตามสถานการณ์จริงของโลก หรือจะทำให้รู้สึกมั่นคงปลอดภัยเอาอยู่ ชิลๆ ไม่ว่าจะไปในทางใด ก็จะมีผลต่อความรู้ ทัศนคติ และการปฏิบัติของคนในสังคมไม่มากก็น้อย และจะส่งผลต่อเรื่องความเข้มแข็งทางสังคมในการรับมือกับภัยคุกคามอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
และสาม ทรัพยากรที่มี (Resources)
ไม่ว่าจะเป็นคน เงิน ของ อุปกรณ์ และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ที่จะใช้เพื่อประคับประคอง ต่อสู้กับระลอกใหม่ที่อาจเกิดขึ้น
…ทั้งนี้ เราสามารถลองประเมินความเข้มแข็งทางสังคมของเราในแต่ละข้อได้ โดยดูจากความเป็นไปรอบตัวจากข่าวสารประจำวัน หรือหากมีข้อมูลลึกกว่านั้น ก็จะเป็นประโยชน์ในการประเมินมากขึ้น
เหนืออื่นใด สิ่งที่เราพอจะจัดการได้เอง คงเป็นได้ตั้งแต่ข้อแรกคือเรื่องการเรียนรู้จากสิ่งผ่านมา แล้วนำมาปฏิบัติตัว ป้องกันตัวเคร่งครัดเป็นกิจวัตร ก็จะเป็นแรงหนึ่งในสังคม ที่จะลดความเสี่ยงติดเชื้อแพร่เชื้อแก่ตัวเราและครอบครัว และไม่เป็นภาระต่อระบบโดยรวม
อีกประการคือการจัดการทรัพยากรของตนเอง ในวิสัยที่ตนเองจะจัดการได้ในชีวิตประจำวัน เตรียมทรัพยากรที่จำเป็นสำหรับตัวเราและครอบครัวให้พร้อมรับมือภาวะคุกคาม ยามที่เกิดเหตุการณ์ จะได้ไม่ตระหนก และจัดการไปตามแผนที่เราวางไว้ล่วงหน้า นี่คือการแสดงความพร้อมของเราและครอบครัว ซึ่งเป็นหน่วยเล็กๆ ในสังคม
ด้วยรักและห่วงใย