ครม.ไฟเขียว 5 พันล้าน ให้ออมสินปล่อยกู้สร้างงาน สูงสุดไม่เกิน 3 แสน เผยเงื่อนไข
ข่าววันนี้ 23 พ.ย.64 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.)เห็นชอบมาตรการสินเชื่อสร้างงาน สร้างอาชีพ ดำเนินการโดยธนาคารออมสิน วงเงินรวม 5,000 ล้านบาท ดอกเบี้ยไม่เกิน 3.99% ต่อปี ปล่อยกู้ให้รายละไม่เกิน 3 แสนบาท เพื่อให้ผู้เริ่มประกอบอาชีพและผู้ประกอบการรายย่อย ทั้งผู้ที่ผ่านการอบรมอาชีพช่างทุกประเภท และผู้ที่ไม่ใช่ช่าง เช่น ร้านเสริมสวย ร้านตัดผม
และร้านขายสินค้าออนไลน์ ที่มีใบประกาศนียบัตรหรือวุฒิบัตรผ่านการอบรม หรือมีประสบการณ์ในการประกอบอาชีพ รวมทั้งกลุ่มผู้ประกอบการขนาดย่อม ทั้งค้าปลีก ค้าส่ง โชห่วย แฟรนไชส์ และผู้ขับขี่รถสาธารณะ ระยะเวลาการขอสินเชื่อตั้งแต่วันที่ครม.เห็นชอบถึง 30 ก.ย.2565 มีระยะเวลาการให้กู้ยืม รวมทั้งสิ้นไม่เกิน 5 ปี ปลอดชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 6 งวดแรก โดยอัตราดอกเบี้ย 3.99% ต่อปี
นอกจากนี้ รัฐบาลชดเชยความเสียหายที่เกิดจากหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) 100% สำหรับเอ็นพีแอล ที่ไม่เกิน 30% ของวงเงินสินเชื่อที่อนุมัติทั้งหมด รวมทั้งสิ้นไม่เกิน 1,500 ล้านบาท
สำหรับการออกสินเชื่อครั้งนี้ กระทรวงการคลัง หวังว่าจะเป็นเงินทุนเริ่มต้นในการประกอบอาชีพ หรือเสริมสภาพคล่องในการประกอบอาชีพ และบรรเทาความเดือดร้อนจากการรับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะผู้ที่ผ่านการฝึกอบรมจากหน่วยงานภาครัฐหรือเอกชนที่มีความน่าเชื่อถือ หรือมีประสบการณ์ในการประกอบ
อย่างไรก็ตาม ธนาคารยังกำหนดเงื่อนไขอื่นๆ หากเป็นลูกค้าที่ได้รับการอนุมัติสินเชื่อวงเงินไม่เกิน 1 แสนบาท และมีประวัติชำระดีตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป ธนาคารจะคืนดอกเบี้ยในอัตรา 10% ของดอกเบี้ยที่ธนาคารออมสินได้รับในรอบปีนั้น และยังจัดฝึกอบรมและพัฒนาศักยภาพโดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อส่งเสริมความรู้ทางการเงิน และยกระดับทักษะในการประกอบอาชีพให้ลูกค้า รวมทั้งจัดหาอุปกรณ์การค้าและสถานที่จำหน่ายสินค้า เพื่อลดต้นทุนค่าใช้จ่ายการหาเลี้ยงชีพและเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าให้ลูกค้า คาดว่าการปล่อยสินเชื่อครั้งนี้ จะช่วยประชาชนสามารถกลับมาประกอบอาชีพหรือดำเนินธุรกิจต่อไปได้ประมาณ 6 หมื่นราย
นอกจากนี้ ที่ประชุมครม.ยังอนุมัติให้ปรับปรุงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการส่งเสริมและรักษาระดับการจ้างงานในธุรกิจเอสเอ็มอี โดยให้เงินอุดหนุนที่รัฐจ่ายให้นายจ้างที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยนายจ้างไม่ต้องนำเงินอุดหนุนนี้ไปคำนวณเป็นรายได้และรายจ่ายในการหักภาษี รวมทั้งขยายเวลาการลงทะเบียนให้นายจ้างที่อยู่ในฐานทะเบียนประกันสังคม ณ วันที่ 16 ต.ค.64 โดยผู้ลงทะเบียนรอบที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 21 พ.ย. – 20 ธ.ค. 64 จะได้รับเงินอุดหนุนตามจำนวนการจ้างงานจริงลูกจ้างสัญชาติไทยเป็นเวลา 2 เดือน