‘พิพัฒน์’หวั่นโควิดทำโรงแรมปิดตาย 60% วอนนายกฯ ไฟเขียวทำทราแวลบับเบิลไม่ต้องกักตัว 14 วัน
‘พิพัฒน์’หวั่นโควิดทำโรงแรมปิดตาย 60% วอนนายกฯ ไฟเขียวทำทราแวลบับเบิลไม่ต้องกักตัว 14 วัน นำร่อง ‘ภูเก็ต-พีพี–สมุย-พะงัน-เต่า-นางยวน’
หวั่นโควิดทำโรงแรมปิดตาย - นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า คาดปี 2563 โรงแรมประมาณ 60% ของโรงแรมทั่วประเทศอาจต้องปิดกิจการถาวร หากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ยังเป็นสาเหตุที่รัฐบาลตัดสินใจไม่เปิดประเทศ รับต่างชาติ เป็นไปในทิศทางเดียวกับตัวเลขคาดการณ์ตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติที่น่าจะหายไปมากกว่า 60% เมื่อเทียบกับปีที่แล้วซึ่งปิดที่ 39.8 ล้านคน ดังนั้น กระทรวงการท่องเที่ยวฯ จึงพยายามผลักดันแนวทางการเปิดประเทศเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในวงจำกัด (ทราเวลบับเบิล)
ทั้งนี้ ยอมรับว่าการทำทราเวลบับเบิลเป็นเรื่องยาก เพราะยังมีปัจจัยกดดันเรื่องการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รอบ 2 อยู่ที่ว่ารัฐบาลจะเลือกจุดสมดุลระหว่างความปลอดภัยของประชาชนในประเทศและการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างไร โดยทางพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเป็นผู้ตัดสินใจเลือก เพราะการปิดประเทศไปเรื่อยๆ ดีต่อคนไทยก็จริง แต่ถ้ามองในมุมเศรษฐกิจ เมื่อไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามา รัฐบาลจะหาเงินที่ไหนมาจุนเจือคนตกงาน แล้วถ้าเศรษฐกิจทรุดลงไปลึก จะมีโอกาสฟื้นหรือรอดกลับมาหรือไม่ กระทรวงการท่องเที่ยวฯ จึงมองว่าอยากให้เปิดประเทศบ้าง เพราะการอาศัยแค่ตลาดไทยเที่ยวไทยเป็นตัวกระชากรายได้รวมภาคท่องเที่ยวอย่างเดียวนั้นยากมาก
สำหรับแนวทางการทำทราเวลบับเบิล กระทรวงการท่องเที่ยวฯ เตรียมเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจนัดหน้า ให้ชาวต่างชาติสามารถเดินทางท่องเที่ยวแบบไม่กักตัวนาน 14 วัน แต่จำกัดพื้นที่ โดยมีพื้นที่ท่องเที่ยวใน 3 จังหวัดนำร่อง ได้แก่ จ.ภูเก็ต ทั้งเกาะ, จ.กระบี่ เฉพาะเกาะพีพี และ จ.สุราษฎร์ธานี เฉพาะเกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า และเกาะนางยวน โดยโปรแกรมท่องเที่ยวจะถูกจำกัดให้อยู่ในจังหวัดใดจังหวัดหนึ่งเท่านั้น เดินทางข้ามจังหวัดไม่ได้ เช่น หากเลือกมาเที่ยวภูเก็ต ต้องอยู่ในภูเก็ตนาน 14 วัน ระหว่างนั้นไม่สามารถเดินทางไปเกาะพีพีได้ หากเลือกมาเที่ยว จ.สุราษฎร์ธานี สามารถเดินทางระหว่าง 4 เกาะที่กำหนดได้
เมื่ออยู่เที่ยวในพื้นที่ดังกล่าวครบ 14 วัน จะต้องผ่านการตรวจหาเชื้อซ้ำ ค่อยสามารถเดินทางข้ามจังหวัดได้ โดยเตรียมพิจารณาพื้นที่อื่นๆ เพิ่มเติมสำหรับระยะที่ 2 ของทราเวลบับเบิล เช่น เกาะช้าง จ.ตราด และเกาะเสม็ด จ.ระยอง รวมถึง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งสามารถจับคู่แลกเปลี่ยนนักท่องเที่ยวกับปีนัง ประเทศมาเลเซียที่ไม่มียอดผู้ติดเชื้อใหม่นานกว่า 70 วัน
“อย่างภูเก็ตมีศักยภาพตรวจหาเชื้อโควิด-19 ซ้ำในนักท่องเที่ยวต่างชาติวันละ 1,000 คน ตั้งเป้าว่าจะดึงนักท่องเที่ยวกลุ่มไฮเอนด์จากสหรัฐและยุโรปช่วงหนีหนาวปลายปี มาพักผ่อนในภูเก็ต 2 แสนคนตลอด 4 เดือนสุดท้ายของปี ตั้งแต่ ก.ย.-ธ.ค. 2563 หวังกระตุ้นรายได้ไม่ต่ำกว่า 1.4 หมื่นล้านบาท”