รีเซต

ภาคปชช.ร้องกทม.จัดระเบียบตลาดนัด-เยียวถูกสั่งปิดเพราะโควิด

ภาคปชช.ร้องกทม.จัดระเบียบตลาดนัด-เยียวถูกสั่งปิดเพราะโควิด
TNN ช่อง16
21 มิถุนายน 2564 ( 13:35 )
41
ภาคปชช.ร้องกทม.จัดระเบียบตลาดนัด-เยียวถูกสั่งปิดเพราะโควิด

วันนี้ ( 21 มิ.ย. 64 ) นายชูวิทย์  จันทรส เลขานุการขบวนการสร้างเสริมสุขภาพประชาชน (ขสช.) กล่าวว่าจากการเฝ้าระวัง และติดตามความคืบหน้าในการป้องกันและแก้ไขปัญหา การติดเชื้อโควิด-19 ในกลุ่มตลาดสดตลาดนัด ในพื้นที่ กทม.  พบว่า ที่ผ่านมากรุงเทพมหานคร โดยสำนักอนามัย ได้ร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่ และกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ออกตรวจติดตามเพื่อให้ผู้ประกอบการตลาดดำเนินการตามมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ตามหลักเกณฑ์ 9 ข้อ อาทิ การระบายอากาศ .การลงทะเบียนผู้ค้าและลูกจ้าง   การทำความสะอาด การสวมหน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้า  

โดยตรวจระหว่างวันที่ 24 พ.ค. – 11 มิ.ย. 2564  มีการให้ข้อมูลล่าสุดโดย ศบค. ในวันที่ 9 มิ.ย. พบว่า ตรวจไปแล้วทั้งสิ้น 379 แห่ง  มีตลาด 289 แห่งผ่านเกณฑ์มาตรฐาน หรือคิดเป็นร้อยละ 76  และ ไม่ผ่านเกณฑ์ 90 แห่งหรือร้อยละ 24  แต่นับจากวันนั้นจนถึงวันนี้ ยังไม่มีการแถลงความคืบหน้าใดๆจาก กทม. ว่าผลการตรวจตลาดครบทุกแห่งแล้วหรือไม่ ผลเป็นเช่นไร  และส่วนที่ยังไม่ผ่านมีการปรับปรุงแก้ไขไปแล้วหรือไม่อย่างไร  และที่สำคัญในส่วนของตลาดที่ไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ประเภทที่ 1 และ ประเภทที่ 2  เป็นตลาดที่ไม่เข้าระบบแต่มีการจัดพื้นที่ค้าขายเป็นเฉพาะช่วงเวลาเช่น เช้า  หรือเย็น มีการจัดเก็บค่าแผงมีผู้คุมตลาดชัดเจน  แต่จากการเฝ้าระวังของเครือข่ายพบว่าเกือบทั้งหมดไม่มีมาตรการใดๆเลย และคาดว่าตลาดแบบนี้จะมีอยู่ทั่วไปแทบทุกเขต  ประมาณการว่าอย่างน้อยมี 2-3 แห่งต่อเขต นั่นหมายความว่าอาจจะมีมากกว่า 100-150 แห่ง ใน กทม.   

   

“สิ่งที่น่าสนใจคือเมื่อผลออกตรวจออกมา  การจัดการของ กทม.  สำนักอนามัย  สำนักงานเขต จะทำอย่างไรต่อไปกับตลาดที่ไม่ผ่านเกณฑ์  เพื่อรักษาพื้นที่ตลาดให้เป็นพื้นที่ปลอดภัยให้เป็นแหล่งจับจ่ายใช้สอย  แหล่งอาหารการกินที่สำคัญของประชาชนทุกกลุ่ม   ซึ่งแน่นอนว่าคงไม่ใช่แค่การแก้ไขปัญหาโดยการสั่งปิดตลาดเมื่อพบผู้ติดเชื้อเพียงอย่างเดียว  การทำงานเชิงป้องกันทำงานเชิงรุกก็สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน   ดังนั้นเครือข่ายจึงขอแสดงจุดยืนและมีข้อเสนอต่อกรุงเทพมหานคร ดังต่อไปนี้  1.ปัจจุบันผลการตรวจตลาดคืบหน้าไปอย่างไร  กทม. ควรแจ้งต่อสาธารณะ  และจะมีมาตรการต่อไปเพื่อทำให้ข้อบกพร่องต่างๆที่พบนั้นหมดไปได้อย่างไร  ควรมีกำหนดระยะเวลาให้แต่ละตลาดแก้ไขปรับตัว  และมีการตรวจซ้ำ  ให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด  แต่หากพบว่ายังไม่มีการปรับปรุงแก้ไข  ก็ควรมีบทลงโทษกับตลาดที่เพิกเฉยเป็นลำดับขั้น

  

โดยให้ยาแรงในการปิดตลาดเป็นทางเลือกสุดท้าย  เพื่อการปรับปรุงแก้ไขและกลับมาเปิดทำการค้าขายเป็นปกติโดยเร็วที่สุด  2. พ่อค้าแม้ค้า  ลูกจ้าง บุคคลที่เกี่ยวข้องในตลาด  มีความสำคัญและมีความเสี่ยงสูงเช่นเดียวกับบุคลากรด่านหน้า  ที่จะเป็นได้ทั้งผู้ติดและแพร่เชื้อ  การเร่งตรวจโควิด  เร่งฉีดวัคซีน จึงมีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน กทม.ควรรีบดำเนินการ  3. ในตลาดที่ถูกสั่งปิดควรมีมาตรการเยียวยาช่วยเหลือพ่อค้าแม่ค้าในตลาดให้ชัดเจน  ควรมีการประกาศให้ประชาชนทราบว่าจะดำเนินการอย่างไร  มีระยะเวลาจัดการกี่วัน และจะกลับมาเปิดขายได้เมื่อไหร่  ไม่ใช่ปล่อยให้อึมครึมหาความชัดเจนไม่เจอ เสียหายทั้งผู้ค้า และผู้ซื้อในตลาด  4. ขอให้เร่งสำรวจตลาดที่อยู่นอกระบบ  และไม่มีการขึ้นทะเบียน ซึ่งมีอยู่จำนวนมากในทุกเขตทุกพื้นที่ เพื่อให้เข้าสู่ระบบ  และกำหนดมาตรการควบคุมโควิด-19 เช่นเดียวกับตลาดที่ขึ้นทะเบียน อย่างไม่เลือกปฏิบัติ  และ5. จากการสุ่มสำรวจตลาดใน กทม. ของเครือข่าย  ในช่วงเวลาก่อนตลาดเปิดทำการ พบว่าการคัดกรองในส่วนของพ่อค้าแม่ค้า ลูกจ้างในตลาดแผงค้า  ยังมีความหละหลวมอยู่มาก กทม.ต้องเข้มงวดในจุดนี้ด้วย” นายชูวิทย์ กล่าว


ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง