รีเซต

ตระกูล "ทรัมป์" เปิดฉากสู้ศึกตลาดมือถือ แบรนด์ "ทรัมป์ โมบายล์" l การตลาดเงินล้าน

ตระกูล "ทรัมป์" เปิดฉากสู้ศึกตลาดมือถือ แบรนด์ "ทรัมป์ โมบายล์" l การตลาดเงินล้าน
TNN ช่อง16
18 มิถุนายน 2568 ( 13:44 )
10

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เป็นวันครบรอบ 10 ปี ของการประกาศลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดี สมัยแรกของคุณ โดนัลด์ ทรัมป์ และยังเป็นวันที่ ทรัมป์ ออร์แกไนเซชัน ประกาศการขยายธุรกิจใหม่ ไปสู่ธุรกิจโทรคมนาคม โดยเป็นข้อตกลงในการอนุญาต หรือให้สิทธิ์ในการใช้ชื่อตระกูล ทรัมป์ เพื่อเปิดตัวบริการมือถือใหม่ ภายใต้ แบรนด์ ทรัมป์ โมบายล์ และจำหน่ายสมาร์ตโฟนรุ่นแรกในชื่อ ทีวัน (T1) 

ทรัมป์ ออร์แกไนเซชัน หรือ องค์กร ทรัมป์ เป็นบริษัทโฮลดิ้งสำหรับธุรกิจส่วนตัวของประธานาธิบดี ทรัมป์ แต่ปัจจุบันบริหารโดยทายาทของเขาเอง

ภายในงานที่ ทรัมป์ ทาวเวอร์ ในนิวยอร์ก โดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ ซึ่งเป็นบุตรชายคนโต กล่าวว่า เป้าหมายหลัก คือมุ่งเน้นไปที่เทคโนโลยีสำหรับผู้บริโภคที่ยังไม่ได้รับบริการที่เพียงพอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเงินดิจิทัล หรือใดๆ ก็ตาม และที่เห็นได้ชัดที่สุดในตอนนี้ ก็คือในอุตสาหกรรมมือถือ

เขาบอกอีกว่า ทุกคนจะสามารถใช้บริการทางการแพทย์ทางไกลผ่านโทรศัพท์มือถือได้ ในราคาค่าบริการแบบคงที่ รวมถึงความช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน และบริการส่งข้อมูลแบบไม่จำกัดไปยัง 100 ประเทศทั่วโลก

การเปิดตัวจะเกิดขึ้นในเดือนกันยายน ปีนี้ ซึ่งข้อมูลจากเว็บไซต์ ทรัมป์ โมบายล์ นำเสนอแพคเกจที่เรียกว่า แผน 47 (The 47 Plan) กำหนดราคาแพคเกจแบบรายเดือน อยู่ที่ 47.45 ดอลลาร์สหรัฐฯ รวมค่าโทรศัพท์ ส่งข้อความ และดาต้าแบบไม่จำกัด ซึ่งดาต้า 20 กิกะไบต์(GB) แรก จะเป็นแบบความเร็วสูง

ราคาดังกล่าว ยังสื่อความหมายถึงการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี คนที่ 45 ในสมัยแรกของทรัมป์ และการดำรงตำแหน่งในปัจจุบัน คนที่ 47

พร้อมกันนี้ ยังเปิดให้จองโทรศัพท์มือถือรุ่น ทีวัน (T1) กรอบสีทอง ที่ระบุว่าผลิตในสหรัฐอเมริกา ยังไม่ได้มีการเปิดเผยว่าบริษัทใดจะเป็นผู้ผลิต แต่กำหนดราคาขายไว้ที่ ราคา 499 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณกว่า 16,000 บาท

โดยบนหน้าจอเว็บไซต์ ที่แสดงภาพของโทรศัพท์รุ่นใหม่นี้ มีสโลแกนหาเสียงของทรัมป์ไว้ด้วย ที่ว่า Make America Great Again (ทำให้อเมริกากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง) พร้อมระบุว่า ทีวัน จะทำงานบนระบบปฏิบัติการ แอนดรอยด์ 15 (Android 15) หน้าจอแบบ AMOLED (เอเอ็มโอ แอลอีดี) ขนาด 6.8 นิ้ว พร้อมกล้องเซลฟี่ 16 เมกะพิกเซล ส่วนสเปกอื่น ๆ เช่น แรม 12 กิกะไบต์ และพื้นที่เก็บข้อมูลภายในขนาด 256 กิกะไบต์ รวมถึงกล้องหลัก 50 เมกะพิกเซล

ทั้งย้ำด้วยว่า ศูนย์บริการโทรศัพท์จะตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกา และจะดำเนินการโดยใช้เครือข่ายของผู้ให้บริการไร้สายรายใหญ่ในสหรัฐฯ ซึ่ง มี 3 ราย ได้แก่ เวอร์ไรซอน (Verizon), เอทีแอนด์ที (AT&T) และ ที โมบายล์ (T-Mobile) ทั้ง 3 รายร่วมกันควบคุมตลาดไร้สาย เป็นสัดส่วนกว่าร้อยละ 95 แต่ก็เสนอค่าบริการรายเดือนอยู่ที่ 40 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ถูกกว่า เมื่อเทียบกับแพคเกจของ ทรัมป์ โมบายล์)

ทั้งนี้ มีการตั้งข้อสังเกตไปในทิศทางเดียวกัน ถึงความเป็นไปได้ในการผลิตมือถือ ทีวัน ในประเทศสหรัฐฯ 

โดยรอยเตอร์ส รายงานว่า ปัจจุบัน ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเสมือน หรือ เอ็มวีเอ็นโอ (MVNO-Mobile Virtual Network Operator) กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อเจาะตลาดเฉพาะกลุ่ม (หมายถึง การเป็นผู้ให้บริการที่ไม่มีโครงข่ายโทรศัพท์เป็นของตัวเอง แต่จะเช่าโครงข่ายจากผู้ให้บริการรายใหญ่ เพื่อให้บริการแก่ลูกค้าในแบรนด์ของตนเอง)

เช่น มินต์ โมบายล์ ที่มี ไรอัน เรย์โนลด์ส นักแสดงชื่อดัง เคยเป็นทั้งนักลงทุนและโฆษกของแบรนด์ โดย มินต์ โมบายล์ เป็น เอ็มวีเอ็นโอ ต้นทุนต่ำ เน้นไปยังผู้ใช้มือถือที่มีฟังก์ชันพื้นฐาน เช่น การโทรเข้า โทรออก และส่งข้อความเท่านั้น แต่ต่อมาก็ถูกซื้อกิจการไปโดย ที โมบายล์ ด้วยมูลค่า 1,350 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

แต่ นักวิเคราะห์ ให้ความเห็นว่า ปัจจุบันผู้ให้บริการ เอ็มวีเอ็นโอ มีส่วนแบ่งตลาดอยู่เพียงร้อยละ 3-4 ของการสมัครใช้บริการโทรศัพท์ไร้สายในสหรัฐฯ ซึ่งหาก ทรัมป์ โมบายล์ ไม่สามารถดึงดูดผู้ใช้งานจำนวนมากได้ หรือมีผู้สมัครใช้บริการเกินกว่าล้านราย ได้ ก็อาจจะยากที่จะแข่งขันในตลาดโทรคมนาคม

ขณะที่ อุตสาหกรรมสมาร์ตโฟนในสหรัฐฯ เป็นตลาดอิ่มตัวที่มีการแข่งขันสูงที่สุดในโลก โดยมีผู้เล่นระดับโลกอยู่ 2 ราย คือ แอปเปิล และ ซัมซุง ที่ครองตลาดนี้อยู่ แต่ปัจจุบัน สมาร์ตโฟนเกือบทั้งหมดในสหรัฐฯ ผลิตในต่างประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่ผลิตจากจีน เกาหลีใต้ และขณะนี้ก็มีผลิตเพิ่มขึ้นที่ อินเดีย และเวียดนาม

ส่วนมือถือที่ผลิตในสหรัฐฯ มีเพียงรายเดียวคือบริษัท เพียวริซึม (Purism) ที่ตั้งอยู่ในแคลิฟอร์เนีย ผลิตมือถือแบรนด์ ลิเบอร์ตี้ (Liberty) มีขายปลีกในราคา 1,999 ดอลลาร์สหรัฐฯ (กว่า 65,000 บาท) โดยกรอบของตัวโทรศัพท์ ลิเบอร์ตี้ จัดหามาจากจีน แต่ส่วนประกอบที่เหลือทั้งหมดผลิตและประกอบในสหรัฐฯ รวมถึงระบบปฏิบัติการที่พัฒนาขึ้นภายในบริษัทเอง

ซึ่ง ท็อดด์ วีเวอร์ (Todd Weaver) ซีอีโอ เพียวริซึม ให้ความเห็นว่า มือถือของทรัมป์ที่ประกาศจะผลิตในประเทศ และขายราคา 499 ดอลลลาร์ นั้น เป็นไปได้ยากมาก 

ขณะที่ บีบีซี รายงานความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญด้านห่วงโซ่อุปทาน บอกว่า การผลิตโทรศัพท์มือถือในสหรัฐอเมริกา โดยใช้ส่วนประกอบจากภายในประเทศทั้งหมดนั้น แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย

โดยอาจารย์จาก จอห์นส ฮอปสกินส์ (Johns Hopkins) กล่าวว่า หากไม่มีแม้แต่ต้นแบบที่ใช้งานได้ โอกาสที่จะสำเร็จก็แทบจะไม่เกิดขึ้น และการจะแข่งขันในตลาดมือถือได้ ต้องอาศัยทั้งปาฏิหาริย์ การประหยัดของขนาดเพื่อให้ต้นทุนต่ำลง และมีความต้องการที่ยั่งยืนสำหรับสินค้าประเภทนี้

ส่วน ลีโอ เก็บบี้ (Leo Gebbie) นักวิเคราะห์จาก ซีซีเอส อินไซต์ (CCS Insight) กล่าวว่า ปัจจุบันสหรัฐฯ ไม่มีห่วงโซ่อุปทานของเทคโนโลยีขึ้นสูง ซึ่งจำเป็นสำหรับการประกอบสมาร์ตโฟน จึงอาจจะไม่ทันเวลาที่กำหนดวางจำหน่าย อย่างไรก็ตาม มีความเป็นไปได้ที่อุปกรณ์ดังกล่าว อาจจะประกอบขึ้นในสหรัฐฯ โดยใช้ชิ้นส่วนนำเข้าจากต่างประเทศ // เป็นวิธีที่เป็นไปได้มากที่สุด ที่จะบอกว่าเป็นสินค้าที่ผลิตในประเทศสหรัฐฯ

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ทรัมป์พยายามกดดันให้ ทิม คุก (Tim Cook) ซีอีโอ ของแอปเปิล ผลิต ไอโฟน ที่ขายให้กับผู้ซื้อขาวอเมริกัน ในประเทศสหรัฐฯ ทั้งขู่ว่าจะเก็บภาษีนำเข้าที่ร้อยละ 25 เป็นอย่างน้อย สำหรับ ไอโฟน ที่ไม่ได้ผลิตในประเทศ แต่แอปเปิล ก็เลือกขยายกำลังการผลิตในโรงงานที่อินเดียแทน

ธุรกิจของครอบครัวทรัมป์ มีขนาดใหญ่และเติบโตอย่างรวดเร็ว มีทั้งอสังหาริมทรัพย์และคาสิโน ที่ถือครองมายาวนาน ยังรวมถึงการบุกเบิกด้านเงินดิจิทัล และสินค้าจิปาถะอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม ธุรกิจใหม่ล่าสุดนี้ เกิดขึ้นในขณะที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ทำให้เกิดข้อกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับหลักจริยธรรม 

แต่ที่ผ่านมา ทำเนียบขาวก็ได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาในเรื่องดังกล่าวอยู่บ่อยครั้ง โดย แคโรไลน์ ลีวิตต์ โฆษกทำเนียบขาว เคยกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ บอกว่า ใครก็ตามที่คิดว่าทรัมป์ ทำทุกอย่างเพื่อประโยชน์ของตัวเองนั้น เป็นเรื่องไร้สาระ และทำเนียบขาว ยึดมั่นในมาตรฐานจริยกรรมสูงสุด มาตลอด


ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง