นายกฯ สั่งเบรก กทม. ไฟเขียวนั่งทานอาหารในร้านได้ถึง 3 ทุ่ม

วันนี้ (4 ม.ค.64) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ ศบค. เปิดเผยภายหลังการประชุม ศบค. ชุดใหญ่ในวันนี้ ว่า จากสถานการณ์ผู้ติดเชื้อมากขึ้น ศบค. ก็ออกมาตรการดูแลพื้นที่มากขึ้นเช่นกัน เช่น การตั้งด่านคัดกรองโรคระหว่างจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดที่ได้รับผลกระทบสูง ซึ่งขออภัยประชาชนสำหรับความไม่สะดวกด้วย

พร้อมยืนยันไม่มีการล็อกดาวน์ แต่จะให้ผู้ว่าราชการจังหวัดแต่ละจังหวัด กำหนดมาตรการในแต่ละจังหวัดของตนเอง โดยห้ามต่ำกว่าเกณฑ์ที่ ศบค.กำหนด โดยเฉพาะจังหวัดที่มีผลกระทบมาก ซึ่งจะมีการชี้แจงรายละเอียดมาตรการในวันพรุ่งนี้ (5 ม.ค.) เพราะวันนี้เป็นเพียงการหารือแนวทางปฏิบัติ และอนุมัติในที่ประชุม โดยได้หารือกับทุกภาคส่วน โดยเฉพาะทีมแพทย์อาวุโส และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสรุปความเห็นร่วมกัน

นายกรัฐมนตรี ยังขออภัยประชาชน หากเกิดความยากลำบากในการใช้ชีวิต แต่สำคัญที่สุดรัฐบาล จะต้องควบคุมจำนวนผู้ติดเชื้อให้ได้ โดยให้อยู่ในสถานที่ควบคุม ตรวจสอบคัดกรองโรคให้ได้มากขึ้น โดยยอมรับว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อจะสูงขึ้น แต่ถ้าควบคุมได้ก็จะสะท้อนว่าประชาชนสามารถปฏิบัติมาตรการต่างๆ ได้ดี

นายกรัฐมนตรี ได้รับข้อเสนอจากสมาคมภัตตาคารไทย ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการห้ามนั่งรับประทานในร้านอาหารหลัง 19.00 น. จึงให้ยกเลิกประกาศของ กทม. และอนุญาตให้ร้านอาหารขายอาหารได้ถึง 21.00 น. แต่จะต้องมีมาตรการตามที่สาธารณสุขกำหนด เช่น การรักษาระยะห่าง ซึ่งนายกสมาคมภัตตาคารไทย ยืนยันว่า จะสามารถทำให้ได้ มิเช่นนั้นจะถูกปิด เพราะไม่ต้องการให้เกิดผลกระทบตามมา

นายกรัฐมนตรี เปิดเผยด้วยว่า ขณะนี้ได้เตรียมการพิจารณาจัดงบประมาณทั้งที่มีอยู่แล้ว และต้องหาเพิ่มเติม เพื่อพร้อมรับสถานการณ์ในระยะต่อไป 

ส่วนความคืบหน้าการจัดหาวัคซีน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ภายใน 3 เดือนนี้ ไทยจะได้วัคซีนล็อตแรก จำนวน 2 ล้านโดส เพื่อบุคลากรทางการแพทย์ และบุคคลที่มีความจำเป็นเร่งด่วนโดยให้กรมควบคุมโรค สถาบันวัคซีน ร่วมกับ อย. ไปตรวจสอบความปลอดภัยไม่ให้มีผลข้างเคียง และอีก 26 ล้านโดส จะมาในระยะถัดไป และยังจะจัดหาเพิ่มอีก 35 ล้านโดส เพื่อให้ครอบคุม เพียงพอต่อทั้งประเทศ ซึ่งขอให้ทุกคนช่วยกันถ้าติติง หรือแสดงความเห็นเพียงอย่างเดียว ความร่วมมือไม่เกิดขึ้น ก็ไม่สามารถไปต่อได้

นายกรัฐมนตรี ยังย้ำว่า ทุกคนจะต้องมีหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าซึ่งก็มีความปลอดภัยในขั้นต้น และหน้ากากที่สามารถป้องกันได้ดีที่สุด คือ หน้ากากที่มีวาลว์ ซึ่งหลายคน มาตำหนิตนไม่มีความรู้ ใส่หน้ากากไม่ถูกต้อง นำหน้ากากวาล์วมาใส่ ซึ่งแพทย์ใกล้ชิด ยืนยันแล้วว่า หน้ากากชนิดมีวาล์ว มีความปลอดภัยสูงสุด และควรใส่เมื่อเข้าสู่พื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง พร้อมเตือนสื่อมวลชนให้ระมัดระวัง ตรวจสอบคัดกรองตนเองด้วย 

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังย้ำด้วยว่า เวลานี้เป็นเวลาที่ทุกคน ทุกครอบครัว ทุกสังคม และประเทศชาติ โดยรัฐบาลพยายามดำเนินการอย่างเต็มที่

ส่วนข้อเสนอรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขให้ล็อกดาวน์ 4 จังหวัดภาคตะวันออก นั้น นายกรัฐมนตรี ยืนยันไม่ใช่การล็อกดาวน์ แต่เป็นการเพิ่มความเข้มงวด ซึ่งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดดังกล่าว พิจารณามาตรการเพิ่มความเข้มงวดเอง