จีนเปิดศึกประชัน “ทีมนักรังสีแพทย์ล้วน VS ทีมที่ใช้ AI” โชว์วินิจฉัยโรคบนเวที

จีนจัดการแข่งขัน AI-Human Synergy Competition เวทีประชันความสามารถในการแข่งขันวินิจฉัยโรคผู้ป่วย ระหว่างทีมนักรังสีแพทย์ที่เป็นมนุษย์ และทีมนักรังสีแพทย์ที่ทำงานร่วมกับปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อหาว่าทีมไหนจะวินิจฉัยโรคได้ดีกว่ากัน
การแข่งขันที่ประชันกับ AI
การแข่งขันนี้เกิดขึ้นใน งานประชุมปัญญาประดิษฐ์โลก (World Artificial Intelligence Conference WAIC 2025) ซึ่งจัดขึ้นที่มหานครเซี่ยงไฮ้ เมื่อวันที่ 26-28 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยเป็นการแข่งขันวินิจฉัยโรคของทีมนักรังสีแพทย์ชั้นนำ 6 ท่านจากโรงพยาบาลจงซาน แบ่งออกเป็นสองทีมด้วยกัน
แบ่งทีมแข่งขัน ทำงานร่วมกันกับ AI
โดยทีมแรก "AI Collaboration Group" จะเป็นทีมนักรังสีแพทย์ที่ทำงานร่วมกับระบบ AI
และอีกทีมคือ "Manual Group" จะเป็นทีมนักรังสีแพทย์ที่ พึ่งพาความเชี่ยวชาญส่วนตัวเพียงอย่างเดียว
ทั้งสองทีมได้รับการนำเสนอเคสเอกซเรย์ทรวงอกชุดเดียวกัน และถูกขอให้วิเคราะห์และรายงานผลสด ๆ
ผลการแข่งขันที่เกิดขึ้น
ผลการแข่งขัน ตามรายงานของสื่อ ยูโรนิวส์ (Euro News) พบว่า แม้ทีมที่ทำงานร่วมกับ AI จะวินิจฉัยโรคได้เร็วกว่า แต่กลับพลาดการวินิจฉัยที่สำคัญบางอย่างไป ในขณะที่ทีมมนุษย์ล้วน แม้จะช้ากว่า แต่สามารถวิเคราะห์ได้แม่นยำพอ ๆ กัน รวมถึงยังช่วยระบุภาวะบางอย่างที่ทีม AI พลาดไปได้ด้วย
นอกจากนี้ความเห็นของผู้เชี่ยวชาญภายในงานนี้ระบุว่า รายงานวินิจฉัยของทีมที่เป็นมนุษย์ เขียนออกมาได้อ่านง่ายกว่า มีโทนการเขียนที่อบอุ่นกว่า และเป็นรายงานที่มีความสอดคล้องกัน มีตรรกะภายในที่ชัดเจน ไม่เหมือนกับฉบับที่ AI สร้างขึ้น ที่แม้จะทำได้เร็ว แต่กลับแยกแต่ละรายการไว้ต่างหาก
เทคโนโลยี AI ที่ใช้ทดสอบ
สำหรับเทคโนโลยี AI ที่นำมาทดสอบบนเวทีนี้ คือ "One-Scan-for-All" ซึ่งเป็นโมเดลสำหรับการวินิจฉัยบริเวณทรวงอก พัฒนาร่วมกันโดยโรงพยาบาลจงซาน และบริษัทเทคโนโลยีการแพทย์ เซี่ยงไฮ้ ยูไนเต็ด อิมเมจจิง (Shanghai United Imaging Medical Technology)
บริษัทเผยว่าโมเดลนี้ สามารถระบุความผิดปกติในทรวงอกได้ 73 ชนิดในการสแกนครั้งเดียว ตั้งแต่ปอดอักเสบ, ถุงลมโป่งพอง, กระดูกหัก ไปจนถึงการดูหินปูนในหลอดเลือดหัวใจ โดยมีอัตราความแม่นยำในปัจจุบันอยู่ที่ประมาณร้อยละ 85 และตั้งเป้าที่จะเพิ่มเป็นร้อย 95 ในอนาคต
อย่างไรก็ตาม บริษัทเผยว่า การประลองที่เกิดขึ้นนี้ ไม่ได้ต้องการจะสื่อว่า AI จะเข้ามาแทนที่บุคลากรทางการแพทย์ แต่พวกเขาเชื่อว่าระบบเหล่านี้จะเข้ามาเป็นตัวช่วยปรับปรุงความเร็ว ความแม่นยำในการดูแลสุขภาพได้ดียิ่งขึ้น
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
