รีเซต

จีนปฏิวัติอุตสาหกรรมโลกครั้งที่ 4 ด้วย New-Quality Productive Forces (ตอนจบ)

จีนปฏิวัติอุตสาหกรรมโลกครั้งที่ 4 ด้วย New-Quality Productive Forces (ตอนจบ)
TNN ช่อง16
1 ตุลาคม 2568 ( 12:07 )
4

นอกจากผลกระทบต่อโครงสร้างตลาดแรงงานแล้ว เรายังต้องคำนึงถึงผลกระทบในมิติด้านเศรษฐกิจและอื่นๆ รวมทั้งตามไปดูว่าหากกำลังการผลิตคุณภาพใหม่ยังคงได้รับการพัฒนาอย่างเหมาะสมต่อไป จะเกิดอะไรขึ้นในโลกอนาคต ...

ในด้านเศรษฐกิจมหภาค กำลังการผลิตคุณภาพใหม่อาจสนับสนุนส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจได้อย่างกว้างขวาง ทั้งทางตรงและทางอ้อม 

ในช่วงหลายปีหลัง จีนได้ขยายการลงทุนในการวิจัยและพัฒนาที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง โดยแตะระดับ 3.6 ล้านล้านหยวนในปี 2024 เพิ่มขึ้นถึง 8% ของปีก่อน และเป็นสัดส่วนของการวิจัยขั้นพื้นฐานราว 7% ของทั้งหมด ด้วยเหตุนี้ เราจึงเห็นจีนเติบใหญ่ในการพัฒนากำลังการผลิตคุณภาพใหม่อย่างรวดเร็ว


ตามรายงานของกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศจีนระบุว่า กิจการของจีนมากกว่า 570 บริษัทติดอันดับอยู่ใน 2,500 บริษัทชั้นนำของโลกในแง่ของการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนา คิดเป็น 22.8% ของทั้งหมด

ในฐานะประเทศผู้ผลิตที่ใหญ่ที่สุดในโลกจนได้รับการขนานนามว่าเป็น “โรงงานของโลก” (Factory of the World) จีนครองผลผลิตมากกว่า 40% ของสินค้าอุตสาหกรรมหลัก 500 รายการของโลก บางรายการก็มีสัดส่วนตลาดถึง 70% ของตลาดโลก

ในโลกดิจิตัล AI ที่แพร่หลายอย่างรวดเร็วนับแต่ต้นศตวรรษนี้นับเป็น “จุดเปลี่ยน” ทางประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญในด้านการผลิตและการประยุกต์ใช้ความรู้ 

เราได้ “ผู้ช่วย” ที่รอบรู้ในการค้นหาข้อมูล วิเคราะห์ และให้คำปรึกษาสารพัดเรื่องจนแทบไร้ขอบเขต ตั้งแต่สภาพภูมิอากาศ การแพทย์ เศรษฐกิจ และข้อคิดในการดำรงชีวิต ไปจนถึงวิทยาศาสตร์เชิงประยุกต์ และจักรวาล จาก Generative AI โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย 

และเมื่อนำ AI ไปผนวกเข้ากับฮาร์ดแวร์ทางกายภาพ อาทิ หุ่นยนต์ ก็นำไปสู่ระบบการผลิตอัจฉริยะ (Smart Production System) ซึ่งเป็นการอัพเกรดภาคการผลิตครั้งใหญ่ของจีน ทั้งนี้ ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา จีนมีสัดส่วนมากกว่าครึ่งหนึ่งของการติดตั้งหุ่นยนต์อุตสาหกรรมทั่วโลก 

และจนถึงต้นปี 2025 จีนพัฒนาโรงงาน “อัจฉริยะ” ไปแล้วกว่า 30,000 แห่ง และโรงงาน “ระดับความเป็นเลิศ” อีก 230 แห่ง ซึ่งครอบคลุมถึง 80% ของภาคการผลิตที่สำคัญของจีน รวมไปถึงระบบขนส่งและสื่อสารอัตโนมัติ สมาร์ตกริด และฟาร์มอัจฉริยะ 

สำหรับผมแล้ว นี่เป็นเพียง “ก้าวแรก” ของการปฏิวัติอุตสาหกรรมโลกครั้งใหม่เท่านั้น อุปกรณ์ระดับไฮเอนด์และสิ่งอำนวยความสะดวกอันทันสมัยที่ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่เหล่านี้ยังช่วยลดระยะเวลาการพัฒนาผลิตภัณฑ์ลงได้เกือบ 30% และเพิ่มประสิทธิภาพกว่า 20% จากเดิม 

ยิ่งเมื่อนวัตกรรมที่ขับเคลื่อนด้วย AI เช่น สมาร์ตโฟน สมาร์ตทีวี คอมพิวเตอร์ และยานยนต์ไร้คนขับ ถูกบูรณาการเข้ากับวัสดุใหม่และอื่นๆ ก็ยิ่งทำให้ผู้บริโภคมีระดับความ “โดนใจ” เพิ่มขึ้นอีกด้วย

นี่ยังไม่นับรวมถึงการพัฒนาเทคโนโลยีล้ำสมัยอื่น อาทิ การผลิตชีวภาพ ระบบ 6G และเทคโนโลยีควอนตัมที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ดังนั้น หากจีนพัฒนากำลังการผลิตคุณภาพใหม่มากขึ้นเพียงใดก็จะนำพาจีนไปใกล้และครองตำแหน่งผู้นำระดับโลกด้านนวัตกรรมและเศรษฐกิจได้ในที่สุด

นักวิชาการบางท่านให้ความเห็นว่า “พลังการคำนวณแบบทวีคูณ” (Exponential Computing Power) ที่เกิดขึ้นจากเทคโนโลยีควอนตัมจะแทรกตัวเข้าไปและยกระดับให้สาขาต่างๆ รุดหน้าไปอย่างยากจะจินตนาการในอนาคต อาทิ ชีวการแพทย์ เซมิคอนดักเตอร์ พลังงานทางเลือก ปัญญาประดิษฐ์ และวัสดุใหม่ รวมไปถึงการป้องกันประเทศ

ปรากฎการณ์เหล่านี้จะแสดงถึงการก้าวกระโดด “ครั้งใหม่” ในระบบอัจฉริยะที่สามารถโต้ตอบและปรับเข้ากับสภาพแวดล้อมที่สลับซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้ อันนำไปสู่การขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจและสังคมได้ในที่สุด 

และหากจีนปรับเปลี่ยนกลุยทธ์การพัฒนาจาก “ในจีน เพื่อจีน” เป็น “ในจีน เพื่อโลก” ตามแนวคิด “รวยร่วมกัน พลัส” (Common Prosperity Plus) ก็เท่ากับว่าโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศกำลังพัฒนา หรือ “กลุ่มโลกใต้” (Global South) จะสามารถได้รับประโยชน์จากระบบนิเวศอุตสาหกรรมล้ำสมัยที่แข็งแกร่งและครอบคลุมของจีนดังกล่าวออกไปประยุกต์ใช้ได้ในวงกว้าง 

ยิ่งหากผลตอบแทนจากการลงทุนในการวิจัยและพัฒนา และการประยุกต์ใช้ผลการวิจัยในสาขาเศรษฐกิจ ประเภทอุตสาหกรรม ภูมิศาสตร์ และอื่นๆ มีความคุ้มค่าในเชิงเศรษฐกิจและสังคม 

และโลกมีธรรมาภิบาลในการกำกับดูแลกำลังการผลิตคุณภาพใหม่ได้อย่างเหมาะสมและอยู่บนระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ก็จะช่วยเสริมสร้างคุณูปการต่อการผลิตคุณภาพสูงและอุตสาหกรรมเกิดใหม่ และขับเคลื่อนเศรษฐกิจของนานาประเทศทั่วโลกให้รุดหน้าต่อไปในระยะยาว

หากเราเชื่อมั่นว่าแนวคิดเรื่องกำลังการผลิตคุณภาพใหม่เป็นจริง ไทยก็ควรต้องหันมาใส่ใจศึกษาเรื่องนี้อย่างจริงจัง และเร่งเรียนลัดการดำเนินการพัฒนากำลังการผลิตคุณภาพใหม่ให้เกิดขึ้น 

ไม่ว่าจะเป็นการวิจัยและการนำเอานวัตกรรมด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาใช้ประโยชน์ การออกแบบห่วงโซ่อุปทานและอุตสาหกรรมที่มีความเป็นอัตโนมัติ ปลอดภัย น่าเชื่อถือ และควบคุมได้ การวางแผนการพัฒนาอุตสาหกรรมใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนา “ชาติแห่งเกษตรกรรม การผลิต และบริการ” คุณภาพสูงที่แข็งแกร่งและยืดหยุ่นบนเครือข่ายดิจิตัล

นั่นเท่ากับว่า เรายังควรต้องส่งเสริมการผนวกเศรษฐกิจดิจิตัลเข้ากับเศรษฐกิจที่แท้จริง และรังสรรค์คลัสเตอร์อุตสาหกรรมดิจิตัลให้มีขีดความสามารถในการแข่งขันระดับระหว่างประเทศเพื่อความยั่งยืน

นี่นับเป็น “โจทย์ใหญ่” ที่อยู่บนพื้นฐานของนโยบายและการพัฒนาที่เป็นระบบ ต่อเนื่อง จริงจัง และสร้างสรรค์ที่ “ท้าทาย” อย่างมากในระบบการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมของไทยในปัจจุบัน

ว่าแต่คุณพร้อมสำหรับการปฏิวัติอุตสาหกรรมโลกครั้งใหม่หรือยัง? ...

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง