ดีเดย์เปิดเมือง-ท่องเที่ยว ส่องCENTEL-ERW-AOT

ทันหุ้น – ททท.ปลื้มยอดจองไทยเที่ยวไทย เฟส 3 กว่า 1.7 แสนราย เตรียมเปิดจองที่พัก “เราเที่ยวด้วยกัน” วันที่ 8 ต.ค. 64-23 ม.ค. 65 และเริ่มเข้าพักได้ตั้งแต่ 15 ต.ค. 64-31 ม.ค. 65 ย้ำแผนเปิดรับนักท่องเที่ยว 5 จังหวัดนำร่องเริ่มได้ทันทีที่ผ่านมาตรการด้านสาธารณสุข ด้านปลัดก.สาธารณสุข ย้ำพร้อมให้การสนับสนุนวัคซีนโควิด-19 ให้ทุกพื้นที่ในจังหวัด ด้านนักวิเคราะห์เชื่อไทยเที่ยวไทยเงินสะพัด ชี้เป้า CENTEL-ERW-AOT รับประโยชน์มากสุด
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า รัฐบาลเตรียมแผนการกระตุ้นการท่องเที่ยวในช่วงไตรมาส 4/2564 คู่ขนานทั้งการท่องเที่ยวในประเทศผ่านโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” และ “ทัวร์เที่ยวไทย” โดยหลังจากเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ http://www.เราเที่ยวด้วยกัน.com มีประชาชนลงทะเบียนสำเร็จแล้วมากกว่า 1.7 แสนราย จำนวนผู้ประกอบการโรงแรม ลงทะเบียนสำเร็จ 166 ราย ไม่รวมผู้ประกอบการที่ลงทะเบียนไว้กับ ททท.จำนวน 3,900 ราย
ส่วนการลงทะเบียนโครงการทัวร์เที่ยวไทยวันแรก มีบริษัททัวร์ที่เปิดถุงเงินแล้วจำนวน 1,561 ราย, บริษัททัวร์สมัครแล้ว 316 ราย, บริษัททัวร์ กรอกรายการนำเที่ยวแล้ว 99 รายการ และบริษัททัวร์รอตรวจรายการนำเที่ยว 71 รายการ ทั้งนี้ประชาชนสามารถเริ่มจองโรงแรมได้ตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม 2564 – 23 มกราคม 2565 และเริ่มเข้าพักได้ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2564 - 31 มกราคม 2565
สำหรับแผนทยอยเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศ นั้นมีจังหวัดที่อยู่ในโครงการระยะที่ 2 อีก 5 จังหวัด ประกอบด้วยกรุงเทพมหานคร (กทม.), ชลบุรี (พัทยา อ.บางละมุง อ.สัตหีบ), เชียงใหม่ (อ.เมือง แม่ริม แม่แตง ดอยเต่า), เพชรบุรี (ชะอำ), และ ประจวบคีรีขันธ์ (อ.หัวหิน) นั้น อยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมด้านสาธารณสุขทั้งการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับประชากรในพื้นที่ให้ครอบคลุม 70%โดยประสานขอความร่วมมือไปยังกระทรวงสาธารณสุขในการสนับสนุนวัคซีนโควิด-19
*สธ.พร้อมสนับสนุนวัคซีน
นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า กระทรวงได้กำหนดเกณฑ์ให้กับจังหวัดที่เปิดรับนักท่องเที่ยวให้ทยอยเปิดพื้นที่จากพื้นที่เล็กๆ สามารถเปิดพื้นที่ได้ทั้งจังหวัด ดังนี้ 1. “โควิด-19 เซ็ตติ้ง” การเปิดพื้นที่โซนเล็กๆ อาทิ การเปิดพื้นที่ห้างสรรพสินค้า, ร้านอาหาร, สวนอาหาร 2. “โควิด-19 แอเรีย” การเปิดพื้นที่เฉพาะโซน เช่น เชียงคาน, พัทยาใต้ 3. “โควิด-19 โซนนิ่ง” การเปิดพื้นที่กว้างระดับตำบล – อำเภอ และ 4. “โควิด-19 ซิตี้” สามารถเปิดพื้นที่ได้ทั้งจังหวัด
ทั้งนี้ พื้นที่ที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศจะต้องแสดงให้เห็นว่า มีศักยภาพเพียงพอที่จะควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ อาทิ 1.ประชากรฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้วอย่างน้อย 1 เข็ม 70% ของประชากรในพื้นที่ (ห้างสรรพสินค้า, หมู่บ้าน, ตำบล นั้นๆ) 2.ปฏิบัติตามมาตรการรักษาระยะห่างอย่างเคร่งครัด 3.มีการตรวจวัดกรอง อาทิ การตรวจ ATK Test, ตรวจใบรับรองการฉีดวัคซีนโควิด-19, ใบรับรองการรักษา และ 4.มีปริมาณเตียงเพียงพอรองรับผู้ป่วย
โดยกระทรวงพร้อมให้การสนับสนุนวัคซีนโควิด-19 ตามปริมาณที่แต่ละหน่วยงาน, ท้องถิ่นขอมาเพื่อนำไปฉีดให้กับประชาชนในพื้นที่ให้ได้ถึง 70% เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ และสร้างความมั่นใจให้กับทั้งประชาชน, ผู้ประกอบการ, และนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ซึ่งหากพื้นที่ใดดำเนินการครบแล้ว และสาธารณสุขพื้นที่ตรวจสอบ-รายงานมายังกระทรวง แล้วผู้ว่าราชการจังหวัดก็สามารถพิจารณาเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ทันที
*กลุ่มโรงแรมได้ประโยชน์
นายสรพล วีระเมธีกุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เม็ดเงินที่รัฐบาลจะนำไปใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโครงการไทยเที่ยวไทย จะกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นให้มีกระแสเงินใหม่เข้าไปหมุนเวียน รวมถึงส่งผลทางอ้อมต่อศักยภาพการทำกำไรของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยเฉพาะกลุ่มโรงแรม อาทิ CENTELและ DUSIT ซึ่งมีโรงแรมในจังหวัดเป้าหมายกระตุ้นการท่องเที่ยวมากที่สุด
นายธีระพล อุดมเวศย์ นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุ การที่รัฐบาลกระตุ้นการใช้จ่ายช่วงไตรมาส 4/2564 ผ่านโครงการไทยเที่ยวไทย รวมถึงมีความพยายามที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติให้ได้ภายในปี 2565 ถือเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยว–โรงแรม โดยเฉพาะโรงแรมที่มีจำนวนห้องพักในประเทศในสัดส่วนสูงอาทิ CENTEL, ERW และ AOTซึ่งจะได้รับอานิสงส์ทั้งการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ และการเปิดรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ