ทิศทางค่าบาทแข็ง รับข่าวยาต้านไวรัส ช่วยฟื้นภาคท่องเที่ยว-พลังงาน

นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ ผู้อำนวยการอาวุโส Chief Investment Office บริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ (SCBS) กล่าวว่า เงินบาทเปิดเช้าวันนี้ 10 พฤศจิกายนอยู่ที่ระดับ 30.52 บาทต่อดอลลาร์ ไม่เปลี่ยนแปลงจากช่วงปิดสิ้นวันทำการก่อน กรอบเงินบาทระหว่างวัน30.40-30.60 บาทต่อดอลลาร์

คืนที่ผ่านมาตลาดการเงินปรับตัวบวก รับข่าวความสำเร็จของยาต้านไวรัส ดัชนี S&P 500 ของสหรัฐขยับขึ้น 1.2% ขณะที่ดัชนี STOXX 600 ของยุโรปปรับตัวขึ้นถึง 4.0% สวนทางกับหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ดัชนี Nasdaq ปรับตัวลง 1.5%

โดยตลาดการเงินเป็นภาพการเปิดรับความเสี่ยง (Risk On) เต็มที่ เห็นได้จากบอนด์ยีลด์สหรัฐและเยอรมันอายุ 10 ปีที่ขยับขึ้นถึง 10bps มาที่ระดับ 0.92% และ -0.51% พร้อมกับราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวขึ้นถึง 7.7 % แตะ 40 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล กดดันราคาทองคำให้ร่วงลง 4.4% เหลือเพียง 1865 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ส่วนในฝั่งของตลาดเงินเป็นดอลลาร์ที่ฟื้นตัว 0.4% เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักโดยมีเยนญี่ปุ่น (JPY) ที่อ่อนค่าถึง 2.0% แรงที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 19 มีนาคมมาที่ระดับ 105.4 เยนต่อดอลลาร์เป็นปัจจัยหนุน

อย่างไรก็ดี สกุลเงินที่มีความสัมพันธ์กับราคาสินค้าโภคภัณฑ์สูง อย่างดอลลาร์ออสเตรเลีย (AUD) สามารถปรับตัวขึ้นได้ 0.3% หมายความว่าภาพตลาดการเงินยังไม่ได้เอียงกลับไปทางฝั่งดอลลาร์ แต่เป็นการลดสินทรัพย์ปลอดภัย และกลับเข้าถือสินทรัพย์เสี่ยงอย่างรวดเร็ว

ด้านเงินบาท ระยะสั้นกลับมาแกว่งตัวในกรอบแคบโดยมีนักเก่งกำไรขายเงินบาทช่วงท้ายตลาดหลังจากปรับตัวแข็งค่าในช่วงสองวันนี้

อย่างไรก็ดี ระยะสั้นยังคงเชื่อว่าจะมีแรงหนุนจากความสำเร็จของยาต้านไวรัสช่วยให้นักลงทุนมีมุมมองเชิงบวกกับเงินบาทอยู่ เนื่องจากไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์มากที่สุด ถ้าภาคการท่องเที่ยวและพลังงานฟื้นตัว