รีเซต

ระเบิดห้วยตามาเรียเขย่าความเชื่อมั่น ข้อตกลงไทย–กัมพูชาใกล้ถึงทางตัน

ระเบิดห้วยตามาเรียเขย่าความเชื่อมั่น ข้อตกลงไทย–กัมพูชาใกล้ถึงทางตัน
TNN ช่อง16
11 พฤศจิกายน 2568 ( 09:23 )
8

จุดแตกหักชายแดนไทย–กัมพูชา

วันที่ 11 พฤศจิกายน 2568 กองทัพบกออกแถลงยืนยันว่าเหตุระเบิดบริเวณ ห้วยตามาเรีย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ เป็นการ ลักลอบวางทุ่นระเบิดใหม่ในเขตไทย ซึ่งถือเป็นการละเมิดปฏิญญาร่วมไทย–กัมพูชาอย่างร้ายแรง และแสดงถึงความเป็นปรปักษ์โดยตรงต่อฝ่ายไทย

พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นขณะกำลังพลลาดตระเวนเส้นทางที่ใช้เป็นประจำ โดยพื้นที่ดังกล่าวเคยเป็นจุดที่ทหารกัมพูชาเคยรุกล้ำและวางกำลัง ก่อนจะถอนออกภายหลังเหตุปะทะที่ผ่านมา หลังฝ่ายไทยเข้าควบคุมพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคม 2568 ได้ดำเนินการเสริมความมั่นคง กวาดล้างทุ่นระเบิด วางลวดหนาม และลาดตระเวนต่อเนื่อง

ลักลอบรื้อแนวลวดหนาม–วางทุ่นใหม่

ต่อมาเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน เจ้าหน้าที่ตรวจพบแนวลวดหนามที่กองทัพไทยวางไว้ถูกลักลอบรื้อถอน และในเช้าวันที่ 10 พฤศจิกายน เวลาประมาณ 08.30 น. หน่วยลาดตระเวนร่วมกับทหารช่างได้เข้าพิสูจน์ทราบพื้นที่ ก่อนเกิดเหตุระเบิดขึ้น เป็นเหตุให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 4 นาย ได้แก่

  • จ่าสิบเอก เทอดศักดิ์ สมาพงษ์ ข้อเท้าขวาขาด
  • พลทหาร วชิระ พันธะนา แน่นหน้าอกจากแรงอัด
  • พลทหาร อภิรักษ์ ศรีชมไชย ถูกสะเก็ดระเบิดที่ขา
  • พลทหาร อนุชา สุจารี ระคายเคืองตาจากฝุ่นและสารเคมี

ทุกนายถูกส่งเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลภาคสนามแล้ว

ตรวจพบ “ทุ่น PMN-2” วางใหม่ในแนวชายแดน

ภายหลังเกิดเหตุ เวลา 15.50 น. หน่วยทหารร่วมกับตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดศรีสะเกษและ สภ.บึงมะลู เข้าตรวจสอบพื้นที่ พบหลุมระเบิดขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 55 เซนติเมตร ลึก 18 เซนติเมตร พร้อมชิ้นส่วน ทุ่นระเบิด PMN-2 จำนวน 4 ลูก ซึ่งแต่ละทุ่นวางห่างกันราว 1 เมตร

จากหลักฐานทั้งหมด กองทัพบกสรุปชัดว่า เป็น การลักลอบเข้ามารื้อแนวลวดหนามและวางทุ่นระเบิดใหม่ในเขตไทย โดยเจตนาให้เกิดความสูญเสียกับกำลังพลที่ลาดตระเวนเส้นทางเดิมเป็นประจำ

กองทัพบกชี้ “เป็นปรปักษ์” กระทบความร่วมมือชายแดน

พลตรี วินธัย ระบุว่า การกระทำครั้งนี้ถือเป็นพฤติกรรมที่ “ไม่จริงใจในการลดความขัดแย้ง” ของฝ่ายกัมพูชา และเป็นการ “แสดงความเป็นปรปักษ์” อย่างชัดเจน ซึ่งขัดต่อปฏิญญาร่วมไทย–กัมพูชา และย่อมส่งผลให้ข้อตกลงและความร่วมมือในพื้นที่ชายแดนต้อง ยุติลงอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง

รายงานระบุว่า กองทัพภาคที่ 2 ได้เพิ่มมาตรการเฝ้าระวังชายแดน เสริมกำลังลาดตระเวนและทหารช่างในพื้นที่ พร้อมเตรียมประสานกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อดำเนินการทางการทูตต่อเหตุละเมิดครั้งนี้

ท่าทีไทย–กัมพูชาในช่วงเปราะบาง

เหตุระเบิดเกิดขึ้นในช่วงที่ทั้งสองประเทศอยู่ระหว่างกระบวนการฟื้นการเจรจาคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) ซึ่งหยุดชะงักมานานกว่า 2 ปี การลักลอบวางทุ่นระเบิดครั้งนี้จึงถูกมองว่าอาจกลายเป็น “ชนวนใหม่” ที่ทำให้ความเชื่อมั่นและความไว้วางใจระหว่างสองประเทศ สั่นคลอนถึงขั้นวิกฤต

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง