ศึกษาพบ 'ผู้ใหญ่อายุเยอะ' ในสหรัฐฯ เสี่ยงเผชิญ 'ลองโควิด' สูงกว่า

ลอสแอนเจลิส, 28 พ.ค. (ซินหัว) -- ผลการวิจัยฉบับใหม่จากสหรัฐฯ เกี่ยวกับอาการ "ลองโควิด" (long COVID) ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) บ่งชี้ว่าอาการดังกล่าวสามารถเกิดขึ้น แม้เป็นผู้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่เคยติดเชื้อไวรัสฯ หลังฉีดวัคซีน โดยกลุ่มผู้ใหญ่อายุมากเผชิญความเสี่ยงเกิดอาการดังกล่าวในระยะยาวสูงกว่า
ผลการศึกษาจากวารสารเนเจอร์ เมดิซีน (Nature Medicine) เมื่อวันพุธ (25 พ.ค.) ซึ่งตรวจสอบทบทวนเวชระเบียนของทหารผ่านศึกเพศชายผิวขาวอายุเฉลี่ย 60 ปีเป็นส่วนใหญ่ ระบุว่าราว 1 ใน 3 ของผู้ติดเชื้อไวรัสฯ หลังฉีดวัคซีนแสดงสัญญานของอาการลองโควิด โดยทหารผ่านศึกเกือบ 3 ล้านคนจาก 13 ล้านคน ได้ฉีดวัคซีนระหว่างเดือนมกราคมถึงเดือนตุลาคมปีก่อน และราวร้อยละ 1 หรือเกือบ 34,000 คน เกิดการติดเชื้อไวรัสฯ หลังฉีดวัคซีน
ผลการศึกษาอีกฉบับจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ พบว่าราว 1 ใน 5 ของผู้ใหญ่อายุ 18 ปีขึ้นไปในสหรัฐฯ มีภาวะสุขภาพที่อาจเข้าข่ายการป่วยโรคโควิด-19 ก่อนหน้านี้ เมื่อเทียบกับสัดส่วน 1 ใน 5 ของผู้ใหญ่อายุน้อยกว่า โดยศูนย์ฯ ระบุว่าลองโควิดหมายถึงภาวะอาการเรื้อรังหรืออวัยวะทำงานผิดปกติหลังป่วยโรคโควิด-19 เฉียบพลัน อาทิ หัวใจและหลอดเลือด ปอด เลือด ไต ต่อมไร้ท่อ ทางเดินอาหาร กล้ามเนื้อและกระดูก ระบบประสาท รวมถึงลักษณะและอาการทางจิตเวช