รปภ.สาว ขับเก๋ง ได้กลิ่นเหม็นไหม้ควันพุ่ง ก่อนไฟลุกพึ่บ ต้องทิ้งรถวิ่งหนีตาย
เมื่อวันที่ 26 พ.ค. ร.ต.อ.ทิฐินันท์ ศรีเชียงหวาง รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี รับแจ้งจากศูนย์วิทยุร่มโพธิ์ทอง ว่า มีเหตุเพลิงไหม้รถยนต์เก๋งที่บริเวณเยื้องทางเข้าห้างสรรพสินค้า วิทยาภัณฑ์ ถ.อุดรฯ – สามพร้าว บ้านหนองบุ ต.สามพร้าว จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรุดตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.อารี สินธุรา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี, พ.ต.ท.พัฒนวงศ์ จันทร์พล รอง ผกก.ป.ฯ, ร.ต.อ.ประวัติ สอนกุลภักดี รอง สว.ฯ, เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลตำบลหนองบัว และกู้ภัยส่งเสริมธรรมแห่งอุดรธานี
ที่เกิดเหตุบริเวณไหล่ถนน ฝั่งขาออกมุ่งหน้าไป ต.สามพร้าว ใกล้ทางเลี้ยวเข้าห้างสรรพสินค้าวิทยาภัณฑ์ พบรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า ซิตี้ สีบรอนซ์เทา หมายเลขทะเบียน กฉ 6285 อุดรธานี จอดอยู่แลมีไฟลุกไหม้ท่วมตัวรถ ตั้งแต่ช่วงฝากระโปรงติดคอนโซล ลุกลามเข้าไปในห้องโดยสาร แต่ไม่พบคนติดอยู่ในตัวรถ เจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณ 15 นาที จึงสามารถฉีดน้ำสกัดเพลิงเอาไว้ได้ โดยเพลิงได้ลุกไหม้ตัวรถเสียหายตั้งแต่ห้องเครื่อ ห้องโดยสาร เหลือเพียงส่วนท้ายของตัวรถที่เสียหายเล็กน้อย
สอบสวน น.ส.ยุวดี โพธิ์ศรี อายุ 45 ปี ให้การว่า ตนทำงานเป็นยามรักษาความปลอดภัย ประจำหน้าห้องหัวหน้าศาลจังหวัดอุดรธานี หลังจากเลิกงานก็ขับรถยนต์ส่วนตัวออกจากบริเวณศาลจังหวัดอุดรธานี เพื่อมุ่งหน้ากลับบ้านพักไปตามถนนอุดรธานี–สามพร้าว และจะแวะซื้อกับข้าวที่ตลาด แต่พอขับผ่านสี่แยกบายพาสถนนรอบเมืองสามพร้าว มาได้ประมาณ 300 เมตร ก็ได้กลิ่นเหม็นไหม้ แล้วมีควันโชยออกมาจากห้องเครื่อง
น.ส.ยุวดี กล่าวต่อว่า ตนจึงชะลอรถจอดข้างทาง ไม่ทันไรก็มีประกายไฟตามมาและควันพุ่งแรงมากขึ้น พร้อมทั้งเปลวไฟลุกลามเข้ามาในตัวห้องโดยสาร ตนจึงต้องทิ้งรถวิ่งหนีตาย ไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านให้มาช่วยดับไฟ แต่ไม่มีใครกล้าเข้าไปใกล้เพราะกลัวรถจะระเบิด ก่อนที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลตำบลหนองบัวจะนำรถดับเพลิงมาฉีดน้ำดับเอาไว้ได้ แต่ก็เสียหายไปเกือบทั้งคัน
ด้าน ร.ต.อ.ทิฐินันท์ ศรีเชียงหวาง เปิดเผยว่า ต้องให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ว่าเกิดจากอะไร เบื้องต้นคาดว่าสภาพรถที่ใช้งานมานาน อาจจะมีน้ำมันรั่วซึม และมีประกายไฟจากความร้อนในห้องเครื่องยนต์ ทำให้เกิดการลุกไหม้ จึงต้องหาสาเหตุที่แน่ชัดเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายกันต่อไป