รีเซต

LHHOTEL นักท่องเที่ยวหนุนเติบโต อัตราผลตอบแทนปันผลสูง

LHHOTEL นักท่องเที่ยวหนุนเติบโต อัตราผลตอบแทนปันผลสูง
ทันหุ้น
16 พฤศจิกายน 2566 ( 16:51 )
69

#LHHOTEL #ทันหุ้น – บล.กสิกรไทยวิเคราะห์ ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ แอล เอช โฮเทล LHHOTEL ระบุว่าจะได้ประโยชน์โดยตรงจากนักท่องเที่ยวขาเข้า มี Core EPU(Earning Per Unit) ไตรมาส 3/66 อยู่ที่ 0.424 บาท (+ 38.2% YoY, + 22.1% QoQ ดีกว่าคาด 10.4%) Core EPU 9M66 เท่ากับ 76% ของประมาณการทั้งปีนี้ของเรา คาด DPU ไตรมาส 3/66 ที่ 0.340 บาท (+36.0%YOY และ +3.0% QoQ) หรือ คิดเป็นอัตราจ่ายที่ 80.2%และอัตราตอบแทนเงินปันผลรายปีที่ 13.3%

 

แนะนำ "ซื้อ" จาก 1) อัตราตอบแทนและ market IRR ที่สูง 2) ที่ตั้งที่ดีและ 3) แนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรมที่สดใสจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่มากขึ้น

 

Investment Highlights

รีวิวไตรมาส 3 / 2566เมื่อวันที่ 13 พ.ย.2566LHHOTEL รายงานงบการเงินไตรมาส 3/2566 ด้วยกำไรสุทธิที่ 375 ลบ. หากไม่วมกำไรจากการประเมินมูลค่าทรัพย์สินใหม่ กำไรปกติเพิ่มขึ้นเป็น 228 ลบ. หรือ core EPU อยู่ที่ 0.424 บาท เพิ่มขึ้น 38.2%YOY และ 22.1% QoQ จาก RevPar เฉลี่ยที่เติบโตขึ้นของทรัพย์สินโรงแมทั้ง 3 แห่ง (โครงการ GCP - TM21, RD และ S55) ที่ 42.3% YOY และ 10.9% QoQ กำไรปกติออกมาดีกว่าที่เราคาดไว้ 10.4% จากค่าห้องพักเฉลี่ยที่สูงกว่าคาด กำไรปกติ 9 เดือนแรกปีนี้เท่ากับ 76.4% ของประมาณการกำไรปกติทั้งปีนี้ของเราที่ 820 ลบ.

 

ผลการดำเนินงานรายได้ไตรมาส 3/2566 อยู่ที่ 313 ลบ. เพิ่มขึ้น 37.1% YOY และ 13.3% QoQจากรายได้ค่าเช่าที่พิ่มขึ้นของโรงแรม 3 แห่ง รายได้ไตรมาส 3/2566 ออกมาดีกว่าที่เราคาดไว้ 5.8% จากค่าห้องพักเฉลี่ยที่สูงกว่าคาด ทั้งนี้ LHHOTEL มีจำนวนห้องพัก รวม 1,401 ห้องภายใต้ทรัพย์สินโรงแรม 3 แห่งในไตรมาส 3/2566 ค่าห้องพักเฉลี่ยอยู่ที่ 4,666 บาท/ห้อง/คืน ในไตรมาส 3/2566 (+40.4% YoY, +6.4% QoQ) และมากกว่าระดับไตรมาส 3/2562 (ก่อนเกิดโควิด-19) อยู่ 17.0%) ขณะที่อัตราการเข้าพักเฉลี่ย (OCR) ในไตรมาส 3/2566 อยู่ที่ 88.7% (เทียบกับที่ 87.5% ในไตรมาส 3/2565, 85.1% ในไตรมาส 2/2566 และ 85.3% ในไตรมาส 3/2562) ดังนั้น RevPar ในไตรมาส 3/2566 จึงเพิ่มขึ้นเป็น4,139 บาท/ห้อง (+ 42.3% YoY, +10.9% QoQ) และมากกว่าระดับในไตรมาส 3/2562 อยู่ 21.7% ค่าใช้จ่ายรวมในไตรมาส 3/2566 อยู่ที่ 85.8 ลบ. เพิ่มขึ้น 34.0% YOY จากค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่สูงขึ้น 49.6% แต่ลดลง 5.5% QoQ จากต้นทุนค่าเช่าและบริการที่เกี่ยวข้องกับค่าซ่อมแซมและซ่อมบำรุงที่ลดลง รายได้สะสม 9 เดือนแรกปีนี้เท่ากับ 74.9% ของประมาณการรายได้รวมปี 2566 ของเราที่ 1.18 พันลบ.

 

เงินปันผลเราคาดว่า LHHOTEL จะรายงาน DPU ไตรมาส 3/2566 รวมอยู่ที่ 0.340 บาท (+36.0% YOY และ 3.0% QoQ) หรือคิดเป็นอัตราจ่ายที่ 80.2%และอัตราตอบแทนเงินปันผลรายปีที่ 13.3% ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 18 ก.ย.2566 LHHOTEL ประกาศ DPU ที่ 0.300 บาท สำหรับผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 ก.ค.-15 ก.ย. ดังนั้น เราจึงคาดว่า DPU ที่เหลือในไตรมาส 3/2566 จะอยู่ที่ 0.04 บาท DPU 9 เดือนแรกของปี 2566 เท่ากับ 77.8% ของประมาณการ DPU ทั้งปีนี้ของเราที่ 1.182 บาท

 

แนวโน้มเราคาดว่าโมเมนตัมการเติบโตของทรัพย์สินทั้ง 3 แห่งจะดีต่อเนื่องในไตรมาส 4/2566 และปี 2567 หนุนจากช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจโรงแรมและจำนวนนักท่องเที่ยวที่มากขึ้น ทั้งนี้ เราคาดว่า DPU ปี 2566/67 ของ LHHOTEL จะอยู่ที่ 1.18/1.19 บาท หรือคิดเป็นอัตราตอบแทนเงินปันผลที่ 11.6%

 

ความเคลื่อนไหวของราคาหน่วยในเชิง YTD ราคาหน่วยลงทุนของ LHHOTEL ลดลง 161.4% เทียบกับ SET Index (-16.9%), SETPREIT (-19.5%) และ KSIFF (-27.1%)

 

Valuation and Recommendation

แนะนำ "ซื้อ"เราคงคำแนะนำ "ซื้อ" LHHOTEL ด้วยราคาเป้าหมายสิ้นปี 2567 ที่ 13.70 บาท ปัจจัยหนุนราคาหน่วยลงทุนคาดจะมาจาก 1) วัฏจักรขาขึ้นของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว 2) อุปสงค์และอุปทานของห้องพักโรงแรมที่เอื้อประโยชน์และ 3) ที่ตั้งที่ดีของทรัพย์สินปัจจุบันทั้ง 5 แห่งของ LHHOTEL (รวมโครงการสเปซ พัทยาและโรงแรมที่พัทยา) อิงจากราคาหน่วยลงทุนปัจจุบัน เราคาดว่า LHHOTEL จะรายงานอัตราตอบแทนเงินปันผลปี 2566/67/68 ที่11.6%/11.6%/12.0% และ market IRR จนปิดกองทรัสต์ที่ 9.9% ทั้งนี้ ราคาเป้าหมายของเรารวมทรัพย์สินใหม่ 2 โครงการ คือ โครงการสเปซ พัทยาและโรงแรมที่พัทยาแล้ว

 

Downside risks คาดจะมาจาก 1) อัตราตอบแทนพันธบัตรที่สูงขึ้น 2) จำนวนนักท่องเที่ยวที่น่าผิดหวัง 3) การแข่งนด้านราคาที่รุนแรงในนอุตสาหกรรมโรงแรม 4) Opex/capex/ดอกเบี้ยจ่ายที่สูงกว่าคาดและ 5) upside ที่ลดลงจากการลงทุนใหม่

บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส ระบุว่ากำไร 3Q23 หนุนโดยอัตราค่าห้องพักที่เพิ่มขึ้น รายได้จากเงินลงทุนสุทธิงวด 3Q23 เติบโต +38%YoY และ +22% QoQ เป็น 228 ล้านบาท โดยหลักมาจากรายได้ค่าเช่าเพิ่มขึ้น (+37%YoY, +13% QoQ) เพราะการปรับขึ้นอัตราค่าห้องพัก ส่วนค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 86 ล้านบาท (+34%YoY, -6% QoQ) ซึ่งการเพิ่ม YoY มาจากดอกเบี้ยจ่ายสูงขึ้น การลด QoQ เพราะค่าปรับปรุงและซ่อมบำรุงโรงแรมน้อยลง

 

อัตราการเข้าพัก (OR) เฉลี่ยงวด 3Q23 อยู่ที่ 89% ขยับขึ้นจาก 88% ใน 3Q22 และจาก 85% ใน 2Q23 ส่วนงวด 9M23 มี OR เฉลี่ย 88% สูงกว่าก่อนโควิด (9M19 อยู่ที่ 86%)

 

อัตราค่าห้องพัก (ADR) แตะ 5,836 บาท/ห้อง/คืน (+40%YoY, +8% QoQ) และสูงกว่าก่อนโควิด 16% ด้าน RevPAR งวด 3Q23 อยู่ที่ 5,176 บาท/ห้อง/คืน (+42%YoY, +12%QoQ)

 

ประกาศจ่ายปันผลงวด 3Q23เท่ากับ 0.30บาท/หน่วย ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 2ต.ค.23ชำระเงิน 18ต.ค. 23

 

แนวโน้ม 4Q23F คาดว่าจะเติบโตได้ทั้ง YoY และ QoQ เพราะเป็น Peak season ของภาคท่องเที่ยวจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเพิ่มขึ้นหลังรัฐบาลให้วีซ่าฟรีกับหลายประเทศ

 

คาดผลกระทบจากหน่วยเข้ามาซื้อขายใหม่จำกัดโดยวันที่ 17 พ.ย.23 จะมีหน่วยลงทุนใหม่เข้ามาซื้อขาย 511ล้านหน่วย ราคา 10บาท เทียบกับราคาปัจจุบันที่ 10.10บาทแล้ว คาดว่าผลกระทบต่อราคาตลาดจะจำกัด (หน่วยใหม่เกิดจากกองทุนฯเพิ่มทุนซื้อสิทธิบริหารการเช่า Grande Centre Point Pattaya Hotel และ Grande Centre Point Space Pattaya Hotel เข้ามา)

 

คงคำแนะนำ “ซื้อ” LHHOTEL แต่ลดราคาพื้นฐานเป็น 13.70 บาท (เดิม 14.30บาท) สะท้อนการปรับ Risk-free rate ขึ้นเป็น 3.5% (เดิม 3.0%) กองทุนให้ปันผลสูง คาด DY ปี 23F-24F ไว้ประมาณ 11% ต่อปี มี IRR ที่ 9.7%

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง