รีเซต

ม.หอการค้าไทยลุ้นค้าโลกคึกดันศก.ไทยโต 0.1-0.2% หลังซึมมานานจากเทรดวอร์

ม.หอการค้าไทยลุ้นค้าโลกคึกดันศก.ไทยโต 0.1-0.2% หลังซึมมานานจากเทรดวอร์
มติชน
9 พฤศจิกายน 2563 ( 06:08 )
109
ม.หอการค้าไทยลุ้นค้าโลกคึกดันศก.ไทยโต 0.1-0.2% หลังซึมมานานจากเทรดวอร์

นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ กล่าวว่า ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นหลังจากนายโจ ไบเดน ได้รับเลือกตั้งเป็นประธานิบดีคนใหม่ของสหรัฐอเมริกา แบ่งเป็น 2 ประเด็นหลัก คือ การสร้างความเติบโตของเศรษฐกิจภายในประเทศ ด้วยวงเงิน 2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ และการประกันสุขภาพเพื่อลดภาระค่าครองชีพลง จะช่วยประชาชนของสหรัฐอเมริกามีรายได้เพิ่มขึ้น อีกประเด็นคือ การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ต้นทุนเอกชนเพิ่มขึ้น แต่สร้างรายได้ให้แก่ประชาชน ดังนั้นภาพรวมจะทำให้เศรษฐกิจของสหรัฐฯเป็นบวก ฟื้นตัว และจะทำให้ประชาชนหรือธุรกิจของสหรัฐที่มีฐานะปานกลางขึ้นไป สามารถแบกรับภาระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและนิติบุคลที่นาย โจ ไบเดนจะขึ้น เมื่อจัดเก็บภาษีเพิ่มขึ้นจะส่งผลทำให้เศรษฐกิจของสหรัฐมีความสามารถในการชำระหนี้สาธารณะ ดูแลเรื่องขาดดุลการคลังได้

 

นายธนวรรธน์ กล่าวว่า ปีนี้สหรัฐดีอาจเติบโตได้ในกรอบ 3% ส่วนในปี 2564 จะเติบโต 4-5% ส่วนในภาพรวมระยะ 4 ปีในช่วงสมัยของนายโจ ไบเดน มีความเป็นไปได้ที่จะเติบโตระดับ 3% ส่งผลดีต่อการส่งออกของไทย โดยแนวนโยบายทางเศรษฐกิจของนายโจ ไบเดน น่าจะมีความใกล้เคียงกับสมัยของนายโอบามา ที่สนใจการทำพหุภาคี อาทิ การเจรจากับองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ(นาโต้) สหประชาชาติ(ยูเอ็น) รวมทั้งองค์การอนามัยโลก (ดับบลิวเอชโอ) นอกจากนี้อาจสนใจเจรจาพหุภาคีอื่น อาทิ ข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ(นาฟต้า) และหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (ซีพีทีพีพี) เพื่อปรองดองกับอาเซียน เหล่านี้จะทำให้สงครามการค้าโลก (เทรดวอร์) ระหว่างสหรัฐกับจีน รวมทั้งกับยุโรป คลี่คลายลง

 

“การค้าระหว่างประเทศและเศรษฐกิจโลกที่เติบโต จะทำเศรษฐกิจไทยขยายตัว คาดการณ์เบื้องต้นประมาณ 0.1- 0.2 % ต่อปี หลังการที่ผ่านมาสหรัฐทำสงครามการค้ากับจีนอย่างเข้มข้นตั้งแต่ไตรมาสที่ 3(กรกฎาคม-กันยายน) ของปี 2561 ทำให้เศรษฐกิจไทยรายไตรมาสขยายตัวไม่เกิน 4% และมีแนวโน้วต่ำลง”นายธนวรรธ์กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง