ทำไมใครๆก็ไปเที่ยว "จีน" ? ต่างชาติพุ่ง 132,000,000 คน "ฟรีวีซ่า" มาถูกทาง

"ท่องเที่ยวจีนกำลังมาแรงแซงทางโค้ง"

มีรายงานบอกว่าปีที่ผ่านต่างชาติเข้าจีนทะลุ 132 ล้านคน

และปีนี้ก็ยังไม่แผ่ว พุ่งต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งมากจากเปิดฟรีวีซ่าให้หลายๆประเทศ

และการเร่งโปรโมทของทางการ เพื่อสร้างรายได้เข้าสู่ประเทศ

ข้อมูลจากสำนักข่าวซินหัวของจีน รายงานว่า ประเทศจีนกำลังประสบความสำเร็จ

ในการดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าสู่ประเทศ ด้วยกระแสตอบรับที่ดี และคนหลั่งไหลเข้ามามากขึ้น

โดยข้อมูลล่าสุด จากกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวของจีน  

ที่ได้เปิดเผย ในรายการ China Economic Roundtable ของสำนักข่าวซินหัวเมื่อไม่นานนี้

ระบุว่า ปีที่แล้ว (ปี 2024) มีนักท่องเที่ยวขาเข้าสู่จีนในปี 2024 มากถึง 132 ล้านคน 

และยังการใช้จ่ายสูงถึง 94,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 3.12 ล้านล้านบาท) 

เพิ่มขึ้นถึง 97.2 % จากปีก่อน  

ส่วนปีนี้ก็ยังร้อนแรงต่อเนื่อง เพราะมีตัวเลขนักท่องเที่ยวขาเข้าสู่จีนในไตรมาสแรก

 (มกราคม-มีนาคม) ของปีนี้อยู่ที่ 35.02 ล้านคน เพิ่มขึ้น 19.6 % เมื่อเทียบปีต่อปี

ตัวเลขการใช้จ่ายในจีน การันตีได้ชัดเจนจากยอดการใช้จ่ายในการเดินทางเข้าประเทศ 

เช่น ผู้ให้บริการชำระเงินผ่านมือถือรายใหญ่อย่าง Alipay ของจีน

ออกรายงานว่าการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวขาเข้าเพิ่มขึ้น 180 % 

ตั้งแต่วันที่ 1 ถึง 3 พฤษภาคมของปีนี้ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีกอ่น (ปี 2024)

เช่นเดียวกับข้อมูลจากเครือข่ายรถไฟของจีนระบุว่า

ได้ให้บริการผู้โดยสารมากถึง 1,860 ล้านเที่ยวในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ 

อ้างอิงจากข้อมูลของบริษัทผู้ดำเนินการรถไฟแห่งชาติ "China State Railway Group Co., Ltd."

เปิดเผยว่า ตัวเลขดังกล่าวนี้เพิ่มขึ้นมา 7.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 

และถือเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์สำหรับช่วงเวลาเดียวกันในอดีต

และในช่วงเวลาเดียวกัน มีรถไฟให้บริการเฉลี่ยวันละ 11,243 ขบวน 

เพิ่มขึ้น 7.5% เมื่อเทียบกับปีก่อน

โดยเฉพาะจำนวนผู้โดยสารชาวต่างชาติที่ใช้บริการรถไฟในประเทศ

ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2568 มีชาวต่างชาติใช้บริการรถไฟในจีนถึง 7.67 ล้านเที่ยว 

เพิ่มขึ้น 29% จากปีก่อน

ขณะเดียวกันการขนส่งทางรถไฟข้ามพรมแดน 

ก็เติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงเวลาเดียวกัน เช่น รถไฟจีน-ลาว 

ให้บริการผู้โดยสาร 124,000 เที่ยว เพิ่มขึ้น 24.2% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

เมืองยอดนิยมของจีน ที่ติดอันดับ ก็คือ ปักกิ่ง และเซียงไฮ้ 

โดยเฉพาะเมืองหลวงของจีนปักกิ่งที่จะผู้คนหลงรักในบรรยากาศและวัฒนธรรม

ขณะที่เซียงไฮ้ ดูเหมือนว่ากระแสจะมาแรงในกลุ่มคนรุ่นใหม่

เพราะมีดิสนีย์แลนด์เป็นแม่เหล็กดึงดูด

ไตรมาสแรกของปีนี้ กรุงปักกิ่งมีนักท่องเที่ยวต่างชาติแห่เดินทางไปเที่ยว

พุ่งไปถึง 68% นับแค่สามเดือนแรกของปีนี้

เดือนมกราคมถึงมีนาคม  ปักกิ่งต้อนรับนักท่องเที่ยวขาเข้าไปแล้ว 891,000 คน 

เพิ่มขึ้น 61.3 %  เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 

กระแสการท่องเที่ยวขาเข้าฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง 

หลังจากที่จีนมีการผ่อนคลายนโยบายการผ่านแดนโดยไม่ต้องใช้วีซ่าเพิ่มเติม

"ปักกิง เซียงไฮ้ เมืองยอดนิยม โกยเงิน"  

ข้อมูลของสำนักวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวเทศบาลนครปักกิ่ง 

ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันเมื่อเดือนเมษายน 

ระบุว่านักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่เที่ยวปักกิ่ง คือ คนต่างชาติ 

แบ่งเป็นคนที่มาจากฮ่องกง มาเก๊า และไต้หวัน 

 147,000 คน เพิ่มขึ้น 32 % จากปีก่อน  

ส่วนจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทะลักไปถึง 744,000 คน 

เพิ่มขึ้นถึง 68.7 % และครองสัดส่วนมากที่สุดคือ  83.5 %

 ของจำนวนนักท่องเที่ยวขาเข้าทั้งหมดที่มาเยือนปักกิ่งในสามเดือนแรกของปีนี้

โดยเมืองปักกิ่งกำลังพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างเต็มที่เพื่อรองรับภาคการท่องเที่ยว

พร้อมเร่งส่งเสริมการท่องเที่ยวไปในเชิงลึกมากขึ้น ไม่ใช่เพียงแค่ที่ยอดนิยมเดิมๆ

เช่น พระราชวังต้องห้าม กำแพงเมืองจีน และหอบูชาฟ้าเทียนถาน

เช่นเดียวกับอีกเมืองยอดฮิตและมาแรงที่สุดตอนนี้ ก็คือเซียงไฮ้ 

รายงานจากสำนักวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวเทศบาลนครเซี่ยงไฮ้ของจีน 

เผยแพร่เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ระบุว่า 

เซี่ยงไฮ้มีรายได้จากการท่องเที่ยวภายในประเทศราว 4แสน 9 หมื่น 7พัน ล้านหยวน 

(ประมาณ 2.31 ล้านล้านบาท) 

ที่สำคัญ คือ เป็นรายได้จากการท่องเที่ยวขาเข้าสูงเกือบ 1.11 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ 

(ประมาณ 3.74 แสนล้านบาท) ซึ่งเป็นตัวเลขที่พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ 

โดยในปีที่แล้ว  เซี่ยงไฮ้ต้อนรับนักท่องเที่ยวภายในประเทศถึง 390 ล้านคน 

และนักท่องเที่ยวขาเข้าอีกมากกว่า 6  ล้าน 7 แสนคน

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เซี่ยงไฮ้เปิดตัวแผนระยะ 3 ปี

เพื่อส่งเสริมการพัฒนาที่มีคุณภาพสูงของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเมื่อไม่นานนี้ 

เพื่อตั้งเป้ากลายเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลก

หลังจากความสำเร็จของ เซี่ยงไฮ้ ดิสนีย์ รีสอร์ต 

เซี่ยงไฮ้ได้เตรียมเปิดตัว เลโก้แลนด์ เซี่ยงไฮ้ รีสอร์ต ช่วงฤดูร้อนปีนี้ 

ขณะที่วอร์เนอร์ บราเธอร์ส (Warner Bros) บริษัทบันเทิงสัญชาติสหรัฐ

 เตรียมเปิดตัวทัวร์สตูดิโอเบื้องหลังการถ่ายทำภาพยนตร์แฮร์รี่ พอตเตอร์

 (Making of Harry Potter) ที่เซี่ยงไฮ้ในปี 2570

นอกจากนี้ เซี่ยงไฮ้กำลังจะเจาะกลุ่มการท่องเที่ยวเรือสำราญ

มาพัฒนาผลิตภัณฑ์การเดินทางหลากหลายมากขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้  

"ทางการจีนเร่งเพิ่มฟรีวีซ่าต่อเนื่อง"

หนึ่งในหัวใจสำคัญที่ทำให้คนแห่ไปเที่ยวจีน

ก็คือฟรีวีซ่า จากเดิมจีนอาจจะไม่เปิดประตูให้ต่างชาติง่ายนัก

อย่างคนไทยเมื่อก่อนก็ต้องไปต่อคิวขอวีซ่าจีนถ้าจะไปเที่ยวแต่ครั้ง

แต่ปัจจุบันนี้ไม่ต้องแล้ว เพราะไทยเราได้ฟรีวีซ่า

เช่นเดียวกับอีกหลายประเทศทั่วโลก ที่จีนกวักมือเรียกเข้าบ้าน 

เพื่อหาเงินเข้าสู่ประเทศ 

วันนี้จีนกำลังประกาศฟรีวีซ่าให้หลายๆประเทศทั่วโลกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

เช่น ล่าสุด ประเทศในลาตินอเมริกา

จีนได้เริ่มทดลองให้  พลเมืองจากประเทศ

บราซิล อาร์เจนตินา ชิลี เปรู อุรุกวัยเข้าจีนโดยไม่ต้องใช้วีซ่า 

นับตั้งแต่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา 

รวมถึงยังได้ยกเว้นวีซ่าให้กับ 

ทุกประเทศในกลุ่มสภาความร่วมมืออ่าวอาหรับด้วย

ขณะเดียวกันทางการจีนยังได้มีวีซ่าใหม่ๆ ด้วยเช่นกัน

เช่น ประกาศเปิดตัว "ASEAN Visa" หรือ วีซ่าธุรกิจพิเศษ

สำหรับประเทศสมาชิกอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ และ ติมอร์-เลสเต 

ซึ่งเป็นผู้สังเกตการณ์ของอาเซียน 

โดยอนุญาตให้ผู้เดินทางเพื่อธุรกิจสามารถเข้าออกจีนได้หลายครั้งภายในระยะเวลา 5 ปี 

และ พำนักต่อเนื่องได้นานถึง 180 วันต่อครั้ง โดยไม่ต้องขอวีซ่าใหม่

ถือว่าเป็นการเร่งเครื่องของจีน

หลังจากที่ฟรีวีซ่าก่อนหน้านี้ประสบความสำเร็จอย่างดีเยี่ยม

ย้อนกลับไปเมื่อช่วงปลายปีก่อน 

ทางการจีนได้อนุญาตให้พลเมืองจาก 38 ประเทศ

เข้าประเทศได้โดยไม่ต้องมีวีซ่า หรือ“ยกเว้นวีซ่าแบบฝ่ายเดียว” 

(Unilateral Visa-Free) เพื่อการท่องเที่ยว ธุรกิจ หรือการเปลี่ยนเครื่อง 

โดยพำนักได้สูงสุด 30 วัน ตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน 2567 ถึง 31 ธันวาคม 2568 

และยังมีข้อตกลงยกเว้นวีซ่าแบบ “ทวิภาคี” (Mutual Visa-Free) กับอีก 25 ประเทศ

ที่ให้สิทธิเช่นเดียวกัน และยังขยายระยะเวลาการผ่านแดนโดยไม่ต้องมีวีซ่า

เป็น 240 ชั่วโมงสำหรับนักท่องเที่ยว จาก 54 ประเทศ 

ถือเป็นนโยบายสำคัญที่มาช่วยเปิดประตูจีนสู่โลกกว้าง

และสร้างโอกาสด้านการเดินทางอย่างกว้างขวางมากขึ้น

"ํส่งเสริม Tax Refund กระตุ้นจับจ่าย "

ที่สำคัญมากๆคือ มาเที่ยวอย่างเดียวไม่พอ คนมาเที่ยวต้องใช้เงินใช้จ่ายกันด้วย

ถึงจะช่วยเศรษฐกิจได้ และแน่นอนว่าจีนเองก็ไม่เคยพลาดในเรื่องนี้

ล่าสุดตั้งใจจะกระตุ้นการช็อปปิ้งให้มากขึ้นไปอีก ด้วยลดราคาขั้นต่ำของ Tax Refund 

สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่าทางการจีนกล่าวกำลังจะปรับปรุงนโยบายคืนภาษี

สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเพื่อกระตุ้นการบริโภคขาเข้า 

ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ 

ในขณะที่ความต้องการภายในประเทศยังคงซบเซา

จีนจะส่งเสริมการขยายตัวของร้านค้าคืนภาษีในพื้นที่การค้า 

แหล่งท่องเที่ยว สนามบิน และโรงแรม ตามแถลงการณ์ที่เผยแพร่ร่วมกัน

โดยกระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานอื่นๆ

โดยการทำภาษีคืนเขั้นต่ำสำหรับนักเดินทางจากต่างประเทศ 1 คน

ในร้านเดียวกันในวันเดียวกันจะลดลงเหลือเพียงแค่ 200 หยวน (27.45 ดอลลาร์) 

จากเดิมขั้นต่ำที่ 500 หยวน 

จีนกำลังกวักมือเรียกทุกคนอยู่ค่ะ อยากไปให้เที่ยว ไปกิน ไปชอปปิงกันเยอะๆ

สังเกตุได้จากโซเชียลมีเดียในทุกวันนี้ จะเห็นว่าเราได้เห็นคลิปอินฟลูเอ็นเซอร์

รีวิวการไปเที่ยวจีนมากขึ้น เพราะเป็นรายได้ที่ดี และจะมาช่วยประคองชาติได้

ในวันที่จีนกับทำศึกสงครามการค้ากับสหรัฐอเมริกา