รีเซต

เร่งจับสึก 'หลวงพี่' วัดดังแม่ฮ่องสอน มั่วสีกา-ขโมยเงินวัด เจ้าตัวอ้างถูกกลั่นแกล้ง

เร่งจับสึก 'หลวงพี่' วัดดังแม่ฮ่องสอน มั่วสีกา-ขโมยเงินวัด เจ้าตัวอ้างถูกกลั่นแกล้ง
มติชน
7 กรกฎาคม 2565 ( 14:30 )
92
เร่งจับสึก 'หลวงพี่' วัดดังแม่ฮ่องสอน มั่วสีกา-ขโมยเงินวัด เจ้าตัวอ้างถูกกลั่นแกล้ง

พระจอมอื้อฉาวเผยไม่ได้ลักเงินวัดส่วนสีกาถูกคนส่งมาล่อเพื่อเอาผิด ล่าสุดทางนายอำเภอและสำนักพุทธ ประชุมกับชาวบ้านชี้แจงเรื่องวัด ในสถานะวัดร้าง ต้องรอการพิสูจน์หลักฐานดินใต้ฐานเจดีย์จึงจะสามารถจัดตั้งเป็นวัดได้ตามกฎหมาย ส่วนเรื่องพระจอมอื้อฉาวรับปากว่าจะเดินทางมาสึกในวันที่ 9 ก.ค.นี้ ด้านชาวบ้านเตรียมหลักฐานเข้าแจ้งความเพื่อเอาผิดทางคดีอาญาและเสพเมถุนกับเด็กอายุต่ำกว่า18

เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม นายทศพล สินยะบุตร นายอำเภอปาย จ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ทางอำเภอ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ทีฆวุฒิ บัณฑิตย์ชูสกุล ผกก.สภ.ปาย พระครูอนุสาร ปุญญาคม เจ้าคณะอำเภอปาย เจ้าอาวาสวัดแม่นาเติงใน และพระครูอนุสรณ์ จารุวรรณ เจ้าคณะตำบลเวียงหนือ เจ้าอาวาสวัดแม่ปิง และ นางอารีย์ พันธุ์จันทร์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดแม่ฮ่องสอน ร่วมประชุมเพื่อทำความเข้าใจ เกี่ยวกับวัดแม่เย็น เพื่อสอบถามความคิดเห็นของประชาชน และคณะสงฆ์อำเภอปาย เพื่อให้เกิดความเข้าใจและชี้แจงกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยมีชาวบ้านแม่เย็นเข้าร่วมประชุมจำนวน 100 กว่าคน

จากการประชุมสรุปได้ว่า ทาง สำนักงานพระพุทธศาสนา ยืนยันให้รอผลตรวจดินใต้ฐานองค์เจดีย์ ว่า ได้มีการก่อสร้างมากี่ปี เพื่อที่จะได้ขึ้นทะเบียนเป็นวัดที่ถูกต้อง ส่วนในเรื่องการไม่รับบริจาคของคณะศรัทธา ในตอนนี้ สามารถเปิดให้รับบริจาคได้ เพียงแต่ห้ามไม่ให้มีการก่อสร้างวิหารใหม่ เนื่องจากยังไม่ได้แต่งตั้งเป็นวัดอย่างเป็นทางการ

นางสาวจุไรรัตน์ กันทาสุข ผญบ.บ้านแม่เย็น หมู่ 1 ต.แม่ฮี้ อ.ปาย ระบุว่า สำหรับวัดแม่เย็น เกิดขึ้นตั้งแต่ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 และเคยมีทหารญี่ปุ่น มาตั้งฐานที่มั่นใกล้กับวัดแม่เย็น แต่ไม่ได้มีการบันทึกประวัติของวัดอย่างเป็นทางการทำให้ไม่ทราบแน่ชัดว่า ก่อตั้งแต่ตั้งแต่เมื่อไหร่ อย่างไรก็ตามคนเฒ่าคนแก่ที่อายุ 70 ปีขึ้นไปต่างก็ยึนยันว่า เคยไปทำบุญที่วัดแม่เย็นมาโดยตลอด

ส่วนกรณีพระวิสาขะ มนตวีโร ที่ได้กระทำความผิดในฐานลักทรัพย์นั้น ทางชาวบ้านและคณะศรัทธาญาติโยม ไม่ทราบมาก่อน จนเมื่อเกิดเหตุไฟไหม้วิหารของวัด จึงได้เปิดดูข้อมูลในกล้องวงจรปิดและพบเห็นการกระทำดังกล่าวทั้งเรื่องลักทรัพย์และมีสีกาลอบเข้าไปหาบ่อยครั้ง จึงได้คอยเฝ้าติดตามพฤติกรรมมาอย่างต่อเนื่องจนล่าสุดได้ข้อมูลเกี่ยวกับการพัวพันทางเพศกับสีกาหลายคน ซึ่งสีกาเหล่านั้นเป็นเด็กชาวเขาอายุไม่เกิน 18 ปี เมื่อได้หลักฐานชัดเจน จึงได้ทำเรื่องร้องเรียนไปยังเจ้าคณะตำบล เจ้าคณะอำเภอ เพื่อให้ดำเนินการตามวินัยสงฆ์ ส่วนในเรื่องคดีอาญา ทางชาวบ้านจะเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปายในวันที่ 9 กค.ที่จะถึงนี้ ซึ่งเป็นวันเดียวกันที่ พระวิสาขะ มนตวีโร จะเดินทางมาสึกต่อเจ้าคณะอำเภอปาย

ล่าสุดเกี่ยวกับเรื่อง พระวิสาขะ มนตวีโร เกี่ยวกับการประพฤติปฏิบัติตนไม่เหมาะสม และมีเรื่องอื้อฉาวกับสีกา อายุต่ำกว่า 18 ปี นั้น ทางเจ้าคณะสงฆ์อำเภอปาย ได้ทำหนังสือออกคำสั่งในนามเจ้าคณะอำเภอปายที่ 1/2565 เรื่อง ให้พระภิกษุพ้นจากความเป็นพระภิกษุ ว่าด้วยเรื่องพระภิกษุล่วงละเมิดพระวินัยและกระทำความผิดต่อพระวินัย ด้วยเจ้าคณะอำเภอปาย ได้รับร้องเรียนจากประชาชนบ้านแม่เย็น หมู่ 1 ตำบลแม่ฮี้ อำเภอปาย ผิดวินัยร้ายแรงนั้น เมื่อมาดูเอกสารคำร้องและพิจารณาไตร่ตรอง และสิ่งที่ส่งมาด้วยพร้อมเอกสารคำร้องที่มี การลงลายลักษณ์อักษรนั้น ปรากฎว่า พระใบฎีกาวิสาขะ มนตวิโร (ใจหมู)ได้กระทำความผิดล่วงละเมิดพระธรรมวินัยอย่างร้ายแรง เกินกว่าจะให้ดำรงสมณเพศต่อได้ดังนั้น จึงอาศัยอำนาจตาความในข้อ 26 พ.ศ. 2505 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2561 กำหนดไว้ในมาตรา 26 ว่าพระภิกษุรูปใดล่วงละเมิดพระธรรมวินัยและได้มีคำวินิจฉัยถึงที่สุดให้ได้รับนิคหกรรม(การลงโทษตามพระธรรมวินัย) ให้สึก ต้องสึกภายใน 24 ชั่วโมงนับแต่เวลาที่ได้ทราบคำวินิจฉัยนั้นทั้งนี้ ให้พระใบฎีกาวิสาขะ มนตวิโร (ใจหมู) อายุ 42 ปี วัดแม่เย็น ตำบลแม่ฮี้ อำเภอปายจังหวัดแม่ฮ่องสอน ให้พ้นจากความเป็นพระภิกษุ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ 6 เดือน กรกฎาคม 2565

นายวิศรุตวัฒน์ สุศิริวรรักษ์ ราษฏรชาวบ้านแม่เย็น เปิดเผยว่า เรื่องพระหลบหนีลี้ภัย ก็เพื่อตั้งหลัก เพราะขั้นตอนวินัยสงฆ์ยังไม่ได้มีการสอบสวน หลายคนตีความต่างๆนาๆต้องถามเจ้าคณะอำเภอดูก่อน ส่วนผู้ว่าราชการจังหวัดที่สั่งให้ดำเนินการทางกฏหมายและวินัยสงฆ์ ก็เป็นการทำตามหน้าที่ ใครที่ทำให้ชื่อเสียงจังหวัดแม่ฮ่องสอน และวงการพุทธศาสนาเสียหาย ท่านผู้ว่าฯต้องสอบก่อน ส่วนเรื่องพระวิสาขะ จะประสานให้มารับทราบข้อกล่าวหา

แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับพระวิสาขะ มนตวีโร ได้นำเอาคำพูดของพระวิสาขะมาเปิดเผย ว่า เรื่องการลักเงินวัดนั้น ตามที่ปรากฎในคลิป เป็นการดึงกระดาษที่มีคนนำมาปิดช่องใส่เงินเท่านั้น ตนไม่ได้ลักขโมยเงินบริจาคแต่อย่างใด ส่วนเรื่องหญิงสาวที่มาใกล้ชิด คาดว่า เป็นการกระทำของกลุ่มคนที่เกลียดตนส่งหญิงสาวมาล่อลวงตนเพื่อดิสเครดิต และหวังให้ตนเองติดคุก

ล่าสุดทางผู้ร้องเรียน ได้ส่งคลิป ของพระวิสาขะ มนตวีโร ขณะอยู่ในห้องสองต่อสองกับหญิงสาวและมีสัมพันธ์ทางเพศต่อกัน ส่งต่อให้เจ้าคณะสงฆ์อำเภอปายแล้ว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง