ทรัมป์ยอมรับอาจต้องปิดหน่วยงานรัฐอีกรอบ หลังยังตกลงงบประมาณไม่ได้

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ แถลงเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า สหรัฐฯ อาจกำลังมุ่งหน้าสู่การปิดหน่วยงานของรัฐบาล หรือชัตดาวน์ (shutdown) เป็นครั้งที่ 15 นับตั้งแต่ปี 2524 พร้อมระบุเพิ่มเติมว่า รัฐบาลของเขาอาจดำเนินการเปลี่ยนแปลงบางอย่างที่ไม่สามารถย้อนกลับได้ในระหว่างช่วงเวลาดังกล่าว
ทรัมป์ระบุว่า พรรคเดโมแครตกำลังเสี่ยงในการเจรจาเกี่ยวกับการปิดหน่วยงานของรัฐบาล พร้อมกล่าวว่า ฝ่ายบริหารสามารถ "ตัดสวัสดิการบางส่วน" ที่มีการจ่ายออกไปได้ วุฒิสภา ซึ่งควบคุมโดยพรรครีพับลิกัน คาดว่าจะลงมติในร่างกฎหมายงบประมาณรายจ่ายชั่วคราวอีกครั้ง หลังจากที่การลงมติรอบแรกไม่ผ่าน และยังไม่มีสัญญาณว่าการลงมติครั้งที่สองจะประสบความสำเร็จก่อนเส้นตายปิดหน่วยงานรัฐเที่ยงคืนวันพุธตามเวลาท้องถิ่น
ความขัดแย้งเรื่องงบประมาณได้กลายเป็นเรื่องปกติในสหรัฐฯ ท่ามกลางการเมืองที่ยิ่งขัดแย้งมากขึ้น แม้ว่าบ่อยครั้งจะสามารถตกลงกันได้ในนาทีสุดท้าย โดยครั้งล่าสุดที่รัฐบาลสหรัฐฯ ปิดทำการ คือช่วงปี 2561-2562 ยาวนานถึง 35 วัน ซึ่งเกิดขึ้นในสมัยแรกของทรัมป์ จากความขัดแย้งเกี่ยวกับนโยบายตรวจคนเข้าเมือง
ประเด็นหลักในครั้งนี้ คือเงินงบประมาณ 1.7 ล้านล้านดอลลาร์ ที่ใช้สำหรับการดำเนินงานของหน่วยงานต่าง ๆ คิดเป็นประมาณหนึ่งในสี่ของงบประมาณทั้งหมด 7 ล้านล้านดอลลาร์ของรัฐบาล ขณะที่งบประมาณส่วนที่เหลือส่วนใหญ่ใช้สำหรับโครงการสุขภาพ, การเกษียณอายุ และการจ่ายดอกเบี้ยของหนี้รัฐบาลที่เพิ่มขึ้นถึง 37.5 ล้านล้านดอลลาร์
ขณะเดียวกัน ทำเนียบขาวเตือนเมื่อวานนี้ (1 ตุลาคม) ว่า อาจมีการเลิกจ้างพนักงานในเร็ว ๆ นี้ เมื่อการปิดหน่วยงานรัฐบาลเริ่มต้นขึ้นในวันแรก โดยคาโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกทำเนียบขาว แถลงกับผู้สื่อข่าวว่า การตัดลดบุคลากรอาจเกิดขึ้นภายใน “สองวัน”
ส่วนรองประธานาธิบดี เจ.ดี. แวนซ์ ยอมรับว่า สถานการณ์อาจทวีความรุนแรงจนถึงขั้นมีการเลิกจ้าง หากการปิดที่ทำการของรัฐบาลยังคงดำเนินต่อไป แม้เขาจะกล่าวว่ายังไม่มีการตัดสินใจขั้นสุดท้ายว่าจะเลิกจ้างหรือให้พนักงานบางส่วนลาพักงานชั่วคราวหรือไม่
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
