โพลล์ชี้ ชาวออสเตรเลียร้อยละ 75 วางแผนรับวัคซีนโควิด-19
แคนเบอร์รา, 2 ก.พ. (ซินหัว) -- แบบสำรวจพบว่า 3 ใน 4 ของประชาชนออสเตรเลียวางแผนจะฉีดวัคซีนต้านโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)
เมื่อวันอังคาร (2 ก.พ.) หนังสือพิมพ์ ดิ ออสเตรเลียนเผยแพร่แบบสำรวจฉบับพิเศษของ นิวส์โพล ซึ่งพบว่าร้อยละ 75 ของประชาชนออสเตรเลีย "อาจจะ" หรือ "ตั้งใจจะ" ไปฉีดวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ขณะที่ประชาชนร้อยละ 17 จะไม่ไปฉีด และร้อยละ 8 ยังไม่ได้ตัดสินใจ
กลุ่มคนที่สนับสนุนการฉีดวัคซีนมากที่สุดอยู่ในช่วงอายุ 65 ปีขึ้นไป โดยมีผู้ชายตั้งใจจะไปฉีดวัคซีนมากกว่าผู้หญิง
รัฐบาลออสเตรเลียวางแผนจัดการฉีดวัคซีนช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์และมุ่งฉีดให้ประชาชนทั้งประเทศภายในเดือนตุลาคม
เมื่อวันจันทร์ (1 ก.พ.) สกอตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีของออสเตรเลียปฏิเสธข่าวลือเกี่ยวกับวัคซีนที่แพร่ไปบนเครือข่ายสังคม โดยเขากล่าวระหว่างการปราศรัยเกี่ยวกับแผนฉีดวัคซีนที่สมาคมผู้สื่อข่าวแห่งชาติออสเตรเลียว่า "เราประกาศชัดเจนว่าประชาชนควรรับข้อมูลจากไหนบ้าง ซึ่งไม่ใช่เฟซบุ๊ก แต่เป็นเว็บไซต์ทางการของรัฐบาล"
แบบสำรวจที่มีผู้ออกความเห็นกว่า 1,500 คนเผยด้วยว่าประชาชนออสเตรเลียมีความเชื่อมั่นในศักยภาพการรับมือกับการแพร่ระบาดของระบบสาธารณสุขของประเทศมากขึ้น โดยมีสัดส่วนนี้ที่ร้อยละ 69 เพิ่มจากตัวเลขเมื่อเดือนกรกฎาคม 2020 ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 59
ผู้ตอบแบบสอบถามกว่าร้อยละ 80 เห็นว่าควรกำหนดให้ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศฉีดวัคซีนก่อนเข้าประเทศ และร้อยละ 80 ต้องการให้รัฐบาลบังคับฉีดวัคซีนกับเจ้าหน้าที่ดูแลผู้สูงอายุ
ช่วงเย็นวันจันทร์ (1 ก.พ.) กระทรวงสาธารณสุขของออสเตรเลียเผยแพร่สถิติล่าสุดซึ่งระบุว่าออสเตรเลียมีผู้ป่วยโรคโควิด-19 สะสม 28,818 ราย หลังพบผู้ป่วยเพิ่ม 8 รายในระยะเวลา 24 ชั่วโมง โดยเป็นผู้ป่วยติดเชื้อในประเทศ 1 ราย และเป็นผู้ที่ติดเชื้อมาจากต่างประเทศ 7 ราย เมื่อนับถึงช่วงบ่ายวันจันทร์