วิจัยชี้! อากาศเย็นอาจจะส่งผลต่อการเผาผลาญไขมันที่ดีขึ้น
26 ธันวาคม 2563 ( 14:44 )
401
เคยสงสัยไหมว่าในเมืองหนาว ออกไปวิ่งออกกำลังกายแล้วจะช่วยเผาผลาญไขมัน เรียกเหงื่อได้ดีเหมือนวิ่งในเมืองร้อนหรือไม่? อุณหภูมิจะมีผลอะไรต่อการออกกำลังกายหรือเปล่า? ล่าสุดจึงได้มีงานวิจัยที่ค้นคว้าหาคำตอบในเรื่องนี้เช่นกัน และพบว่าการออกกำลังกายในอากาศหนาวเย็นอาจจะช่วยเผาผลาญไขมันได้ดีขึ้นจริง ๆ
งานวิจัยนี้ดำเนินการโดยทีมนักวิทยาศาสตร์จาก Canada’s Laurentian University โดยมุ่งศึกษาไปที่การออกกำลังกายแบบ HIIT หรือ high-intensity interval training ซึ่งเป็นการออกกำลังกายที่เน้นความเข้มข้นสูงในระยะเวลาสั้น ๆ สลับกับระดับที่เบาลง การออกกำลังกายรูปแบบนี้ได้รับความนิยมสูงเนื่องจากช่วยเผาผลาญไขมันได้ดี ทีมนักวิจัยจึงต้องการศึกษาว่าอุณหภูมิโดยรอบจะส่งผลต่อการออกกำลังกายรูปแบบนี้อย่างไร
โดยกลุ่มทดลองคือผู้ใหญ่ที่มีน้ำหนักเกินจำนวน 11 คน เข้าร่วมการออกกำลังกายแบบ HIIT สองครั้งต่อสัปดาห์ โดยการออกกำลังกายชุดหนึ่งจะดำเนินการในสภาพแวดล้อมที่มีอุณภูมิประมาณ 21 องศาเซลเซียส และอีกชุดอยู่ที่ 0 องศาเซลเซียส การออกกำลังกายแต่ละชุดจะประกอบไปด้วยการปั่นจักรยาน 10 ครั้ง แยกเป็นการปั่นที่ระดับ 90% เป็นเวลาหนึ่งนาที สลับกับช่วงพักโดยปั่นอยู่ที่ระดับ 30% เป็นเวลา 90 วินาที สลับกันไป
หลังจากหมดแต่ละช่วง ผู้เข้าร่วมทดสอบก็จะ Cool down ด้วยการปั่นจักรยานแบบสบาย ๆ หรือเดิน กินแท่งอาหารเสริมก่อนนอนและตื่นมากินอาหารเช้าที่ให้พลังงานสูงในวันถัดไป ในช่วงที่ทำการทดลอง ทีมวิจัยก็จะคอยวัดอุณหภูมิผิวของร่างกาย อุณหภูมิแกนกลางของร่างกาย อัตราการเต้นของหัวใจและปริมาณออกซิเจนที่ส่งไปยังต้นขา พร้อมทั้งกลูโคส ออกซิเจน ระดับคาร์บอนไดออกไซด์และระดับการแลกเปลี่ยนแก๊สที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ยังมีการเก็บตัวอย่างเลือดเพื่อช่วยคำนวณอัตราการเผาผลาญไขมันอีกด้วย
ซึ่งผลการวิจัยพบว่า การออกกำลังกายแบบ HIIT ในอุณหภูมิต่ำช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญไขมันถึง 358% เมื่อเทียบกับการออกกำลังกายแบบ HIIT ในอุณหภูมิปกติ แต่อย่างไรก็ตามทีมนักวิจัยยังได้กล่าวว่าอากาศที่เย็นอาจจะมีผลกระทบเล็กน้อยต่อการเผาผลาญไขมันในระยะยาว ซี่งรวมไปถึงระดับน้ำตาลในเลือดและระดับไตรกลีเซอไรด์ เมื่อกลับมารับประทานอาหารที่มีไขมันสูงในวันรุ่งขึ้น และการวิจัยนี้ทำกับกลุ่มทดลองกลุ่มเล็ก ๆ เท่านั้น และยังเป็นการวิจัยกับออกกำลังกายรูปแบบเดียวคือ HIIT ดังนั้นจึงยังจะต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมถึงความเป็นไปได้ในระยะยาวต่อไป
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
facebook live : TNN Live
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNThailand
Instagram : @tnn_online
TIKTOK : @tnnonline