รีเซต

MGC เริ่มต้นดี ลุย EV เต็มตัว บล.บัวหลวงให้เป้า 8 บ.

MGC เริ่มต้นดี ลุย EV เต็มตัว บล.บัวหลวงให้เป้า 8 บ.
ทันหุ้น
11 เมษายน 2567 ( 11:43 )
17
MGC เริ่มต้นดี ลุย EV เต็มตัว บล.บัวหลวงให้เป้า 8 บ.

#MGC #ทันหุ้น - บล.บัวหลวงมีมุมมองเชิงบวกต่อหุ้น MGC ระบุว่า การเปิดตัวครั้งแรกของ Zeekr และ Xpeng ในไทยถือเป็นการก้าวเข้าสู่ธุรกิจ EV ที่น่าตื่นเต้น ด้วยการใช้จุดแข็งร่วมกันของ PTT และ MGC บริษัท Neo Mobility (เอเชีย) พร้อมที่จะเติบโตอย่างแข็งแกร่งในอุตสาหกรรมยานยนต์ Bangkok Motor Show เห็นยอดขายที่น่าประทับใจ

 

งาน Bangkok International Motor Show ครั้งที่ 45 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 25 มี.ค. ถึง 7 เม.ย. 2567 มียอดจองรถยนต์รวม 53,438 คัน เพิ่มขึ้น 25% จากงานมอเตอร์โชว์ปี 2566 แต่ลดลง 2% จากงาน Motor Expo 2566

แบรนด์ 5 อันดับแรกที่มียอดจองสูงสุด ได้แก่ Toyota (เพิ่มขึ้น 41% จากงาน Motor Show 2566 และ 18% จากงาน Motor Expo 2566)

BYD (เพิ่มขึ้น 95% และลดลง 13%)

Honda (เพิ่มขึ้น 7% และลดลง 25%)

MG (ลดลง 10% และ ลดลง 1%)

Mitsubishi (เพิ่มขึ้น 182% และเพิ่มขึ้น 104%)

แบรนด์ EV อื่นๆ มียอดจองลดลงเมื่อเทียบกับงาน Motor Expo-ChangAn 13% Aion 34% GWM 20% และ Neta 8% ส่วนแบ่งการตลาดของการจอง EV เพิ่มขึ้นเป็น 33% จาก 22% ในงาน Motor Show 2566 แม้ว่าจะลดลงจากส่วนแบ่งการตลาด 38% ที่เห็นในงาน Motor Expo 2566 ก็ตาม

 

Zeekr และ Xpeng เปิดตัวอย่างสวยงาม

งานดังกล่าวถือเป็นไฮไลท์ของบริษัท Neo Mobility (เอเชีย) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุน (50:50) ระหว่าง MGC และ Arun Plus (บริษัทในเครือของ PTT) โดยถือเป็นงานแรกที่นำแบรนด์ EV ระดับพรีเมียมจากจีน 2 แบรนด์ ได้แก่ XPeng และ Zeekr เข้ามาในตลาดประเทศไทย ยอดจอง Zeekr อยู่ที่ 398 คัน (80-90% เป็นรถ Zeekr 009 รถยนต์ MPV ไฟฟ้าสุดหรู ราคาราว 3.3 ล้านบาท) และ 188 คันสำหรับ XPeng (ราคาเฉลี่ย 1.5 ล้านบาท) จากการจองในงาน Motor Show นี้ Neo Mobility (เอเชีย) คาดว่าจะสร้างรายได้ 1.6 พันล้านบาท ส่งผลให้ MGC มีส่วนแบ่งกำไรราว 40 ล้านบาท แม้ว่ายอดจองจะดูไม่มาก แต่สิ่งสำคัญคือทั้งสองแบรนด์อยู่ในกลุ่มพรีเมียม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรถ MPV ที่มีราคาสูง นอกจากนี้ในฐานะผู้เข้ามาใหม่ในตลาดยอดการจองนี้ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีของ XPeng ทั้งนี้คาดว่าทั้งสองแบรนด์จะเริ่มส่งมอบได้ในไตรมาส 3/67

 

Neo Mobility เป้าหมายน่าตื่นเต้น

เมื่อพิจารณาสถานการณ์ในปัจจุบัน เป้าหมายของบริษัทในการขาย Zeekr จำนวน 1,200 คัน และ Xpeng จำนวน 1,000 คัน ภายในสิ้นปี 2567 ดูเป็นไปได้ เราคาดว่าอัตรากำไรจะสูงโดยได้แรงหนุนจาก

1) ไม่มีส่วนลดสำหรับการสั่งซื้อล่วงหน้าและ

2) การใช้ทรัพยากรร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพระหว่างกลุ่ม PTT และ MGC

 

สำหรับ Zeekr เราคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะอยู่ที่ 8% และอัตรากำไรสุทธิที่ 4-5% สำหรับ Xpeng ในฐานะตัวแทนจำหน่ายและผู้จัดจำหน่าย เราคาดว่าจะมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ 15% และอัตรากำไรสุทธิที่ 7-8% หากทำได้ตามเป้าหมายของบริษัท เราคาดส่วนแบ่งกำไรจากแบรนด์เหล่านี้จะอยู่ที่ราว 270 ล้านบาท หรือส่วนแบ่งกำไรให้ MGC ราว 130-140 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของกำไรรวมจากปีก่อน เมื่อมองไปข้างหน้า ผู้บริหารของ MGC กล่าวถึงความร่วมมือที่กำลังจะเกิดขึ้นกับแบรนด์ EV ของจีนเพิ่มเติม ซึ่งอาจกำหนดเป้าหมายไปที่กลุ่มตลาดมวลชน

บล.บัวหลวงแนะนำ “ซื้อ” MGC ราคาเป้าหมายตามพื้นฐาน 8.00 บาท

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง