ตลาดยุโรป-สหรัฐ คึกคัก Healthcare พุ่งแรงสุดรอบ 17 ปี

#ทันหุ้น - ดัชนี Dow Jones ปิดบวก 43 จุด (+0.09%) ขณะที่ S&P500 ปิดทำ New High อีกครั้งจากแรงหนุนของหุ้นกลุ่ม Healthcare แม้ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชน (ADP) เดือนล่าสุดจะลดลง 32,000 ตำแหน่ง ตรงข้ามกับที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นกว่า 52,000 ตำแหน่ง โดยมีการหดตัวชัดเจนในภาคก่อสร้าง การผลิต การขนส่ง และธุรกิจท่องเที่ยวบริการ สะท้อนภาพเศรษฐกิจที่ยังอ่อนแรง

ขณะเดียวกันดัชนี PMI ภาคการผลิตออกมาต่ำกว่า 50 บ่งชี้ถึงกิจกรรมยังซบเซา กดดันให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond Yield) ของสหรัฐอ่อนตัวลง ซึ่งช่วยกระตุ้นแรงซื้อในตลาดหุ้นแม้ต้องเผชิญกับการ Shut Down ของหน่วยงานรัฐ การปิดหน่วยงานรัฐบาลครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ โดยก่อนหน้านี้เคยเกิดขึ้นยาวนานที่สุดในปี 2561 กว่า 1 เดือน แม้จะก่อให้เกิดความล่าช้าในการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจ แต่สถิติย้อนหลังชี้ว่า S&P500 มักปรับตัวบวกในช่วงเวลาดังกล่าว

สำหรับตลาดหุ้นยุโรปปิดในแดนบวกและทำสถิติสูงสุดรอบใหม่ โดยแรงซื้อหลักมาจากหุ้นกลุ่ม Healthcare  เช่นกัน หลังบรรยากาศการลงทุนผ่อนคลายจากข่าวข้อตกลงระหว่าง Pfizer กับทางการสหรัฐโดยทาง Pfizer ตอบรับการปรับลดราคายาภายใต้โครงการ Medicaid แลกกับสิทธิประโยชน์ทางภาษี โดยหุ้น PFE ปิดบวกกว่า 6.8% และส่งผลให้หุ้นกลุ่ม Healthcare ทะยานขึ้นถึง 5.4% ซึ่งถือเป็นการพุ่งแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2551 ซึ่งข่าวดังกล่าวก็ช่วยลดความไม่แน่นอนในอุตสาหกรรมยา

ทางด้านตลาดหุ้นเอเชียเปิดบวกในเช้าวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยได้แรงหนุนจากหุ้นเทคโนโลยี หลัง OpenAI ทำข้อตกลงเชิงกลยุทธ์กับผู้ผลิตชิปชั้นนำของเกาหลีใต้ เพื่อจัดหาหน่วยความจำสำหรับศูนย์ข้อมูล “Stargate” ส่งผลให้หุ้น 005930 (Samsung Electronics) ปรับขึ้นกว่า 4.5% และหุ้น 000660 (SK hynix) พุ่งแรงถึง 10.6% ข่าวความร่วมมือนี้ช่วยหนุนความเชื่อมั่นต่อทิศทางอุตสาหกรรม AI อย่างไรก็ตาม บรรยากาศการลงทุนยังมีแรงกดดันจากความกังวลการ Shut Down รัฐบาลสหรัฐ ซึ่งคาดว่าจะยืดเยื้ออย่างน้อย 3 วัน และอาจขยายไปถึง 2 สัปดาห์ เนื่องจากวุฒิสภาสหรัฐ หยุดการประชุมชั่วคราวในช่วงเทศกาลยมคิปปูร์

สำหรับตลาดหุ้นไทยวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาคาดว่า ดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ Sideway Up จากแรงหนุนของความคาดหวังว่าเฟดจะยังเดินหน้าลดดอกเบี้ย หลังตัวเลขการจ้างงานเอกชนของสหรัฐ ออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ และแรงซื้อกลับหุ้นใหญ่ เช่น KBANK ADVANC CPALL PTT รวมถึง DELTA นอกจากนี้ ยังต้องรอติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของไทยในวันที่ 8 ต.ค. 2568 ว่า ภายใต้ผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทยคนใหม่จะเห็นการปรับลดดอกเบี้ยเลยหรือไม่ ซึ่งหากปรับลดดอกเบี้ยจะเป็นบวกกับหุ้นกลุ่มการเงิน, อสังหา และค้าปลีก

วันนี้มุมมอง GOLD Online Futures (GOZ25) indicators ระบุดังนี้ PBC (ภาพหมายเลข 1) แสดงถึงจำนวนเงินไหลเข้า / ออกสะสม วันนี้มีทิศทาง ขาลง Break Low และ PBC (ภาพหมายเลข 2) แสดงถึงจำนวนเงินไหลเข้า / ออกรายวัน วันนี้มีทิศทาง Sideway ดังนั้น จึงมองว่า ระยะกลาง-ยาวมองว่ามีโอกาสลง