ส่งออกเม.ย. กลับมาขยายตัวบวกต่อเนื่องเดือนที่ 2 อานิสงส์ความต้องการอาหารช่วงล็อกดาวน์
พาณิชย์ เผยส่งออกเม.ย. กลับมาขยายตัวเป็นบวกต่อเนื่องเดือนที่ 2 ด้วยมูลค่ารวม 18,948 ล้านดอลลาร์ จากสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรที่ขยายตัวได้โดดเด่น ส่วนรถยนต์และส่วนประกอบหดตัวกว่า 50%
ส่งออกเม.ย.บวกต่อ - น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทยเดือนเม.ย. 2563 ขยายตัวเป็นบวกต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ที่ 2.12% มีมูลค่า 18,948 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แม้จะขยายตัว แต่ถือว่าชะลอตัวลงจากเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา ที่ขยายตัว 4.17% เพราะบางประเทศปิดประเทศ ทำให้ระบบโลจิสติกส์ การขนส่งสินค้า ยังมีปัญหา และกระบวนการนำเข้าที่ล่าช้า และสินค้าส่งออกสำคัญของไทยในภาคการผลิต หรือ Real Sector โดยเฉพาะรถยนต์และส่วนประกอบหดตัวถึง 53.8% รวมถึงคอมพิวเตอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าที่หดตัวด้วยเช่นกัน
ทำให้ภาพรวมการส่งออกในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2563 ขยายตัว 1.19 มีมูลค่า 81,620 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยการค้าเกินดุล 2,462 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่การนำเข้าเดือนเม.ย. ติดลบ 17.13% มีมูลค่า 16,486 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รวม 4 เดือนนำเข้าติดลบ 5.72% มีมูลค่า 75,224 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้ 4 เดือนแรกของปี 2563 การค้าเดินดุล 6,398 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ทั้งนี้ การส่งออกที่ขยายตัวเป็นบวก เนื่องจากกลุ่มสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรที่ขยายตัว 4.03% ตามความต้องการสินค้าอาหารของตลาดโลกในช่วงล็อกดาวน์ และประเทศผู้ส่งออกไม่สามารถส่งออกได้ จึงเป็นผลดีต่อการส่งออกไทย โดยเฉพาะข้าวกลับมาขยายตัวครั้งแรกในรอบ 18 เดือน และขยายตัวในระดับสูงที่ 23.10% ไก่สดแช่เย็นแช่แข็ง และแปรรูป ขยายตัว 9.6% เป็นต้น นอกจากนี้ การส่งออกไปยังตลาดสำคัญหลายตลาดยังขยายตัวได้ดี โดยเฉพาะจีน สหรัฐ และญี่ปุ่น
“การส่งออกในเดือนเม.ย. ปกติจะค่อนข้างต่ำที่สุดในรอบปีเพราะมีวันหยุดหลายวัน เป็นช่วงรอยต่อของคำสั่งซื้อในช่วงปีใหม่แต่ปีนี้กลับสูงถึง 18,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือว่าทำได้ดีแล้วเนื่องจากมีปัจจัยลบท่ามกลางการระบาดของโควิด-19 ทำให้ระบบโลจิสติกส์มีปัญหาและระดับราคาน้ำมันยังตกต่ำ ทำให้สนค. ประเมินว่าในไตรมาส 2 ของปี 2563 การส่งออกยังมีโอกาสที่จะติดลบ” น.ส.พิมพ์ชนก กล่าว