อสังหาวิ่งรับเปิดเมือง ANANต่างชาติกลับมา
ทันหุ้น – แกะปมอสังหาวิ่งแรง รับเปิดเมืองดูดต่างชาติไหลกลับลงทุน ชี้ได้เวลาขยับ พ้นจุดต่ำสุด P/E ยังถูก ชู LH AP SPALI น่าสน ด้าน ANAN เปิดบ้านรอรับต่างชาติ เชื่อผู้ประกอบการเปิดหันเปิดโครงการมากขึ้นครึ่งหลัง
นายเสริมศักดิ์ ขวัญพ่วง ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงินและการลงทุน บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ANAN กล่าวว่า จากมาตรการผ่อนปลนวัคซีนพาสปอร์ต (Vaccine Passport) แทนการกักกัน (Quarantine) จาก 14 วัน ลดเหลือ 7 วันนั้น ที่คาดว่าจะเริ่มในช่วงเดือนเมษายน 2564 นั้น มองว่าเป็นเรื่องที่ดีหากว่ามีการกระจายวัคซีนและฉีดให้ประชาชนทั้งในประเทศและต่างประเทศได้เยอะ คาดว่าจะส่งผลให้สามารถเปิดเมืองได้อย่างสมบูรณ์แบบ และหวังว่าในไตรมาส 4/2564 ชาวต่างชาติจะสามารถเดินทางเข้าไทยได้โดยที่ไม่ต้องกักตัว
ทั้งนี้ จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา ค่อนข้างมีผลกดดันต่ออุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์อย่างมากโดยเฉพาะโครงการคอนโดมิเนียม เนื่องจากว่าลูกค้าชาวต่างชาติไม่สามารถทำเรื่องโอนกรรมสิทธิ์ได้ รวมถึงมีลูกค้าต่างชาติใหม่หลายรายที่ชะลอการตัดสินใจซื้อลงหลังจากที่ไม่สามารถเดินทางมาดูสถานที่จริงได้ แต่ในช่วงที่ผ่านมากลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติยังไม่มีการยกเลิกสัญญาการซื้อขายแต่อย่างใด
@ต่างชาติกลับมาซื้อ
อีกทั้งบริษัทยังสามารถทยอยโอนกรรมสิทธิ์ได้มากกว่า 50-60% ของสัดส่วนยอดขายต่างชาติ แม้ว่าอยู่ในช่วงของการปิดประเทศ ทั้งนี้หากว่าวัคซีนต้านได้ผลเชิงบวก เชื่อว่ากำลังซื้อต่างชาติในช่วงไตรมาส 3-4/2564 จะเริ่มเห็นสัญญาณการกลับมาฟื้นตัวขึ้นได้ และเชื่อว่าภาคอสังหาริมทรัพย์ได้พ้นจุดต่ำสุดไปแล้วในปี 2563 และปี 2564 จะได้เห็นอะไรมากขึ้น ส่วนการเปิดตัวโครงการใหม่นั้น มอว่าในช่วงครึ่งหลังปีนี้มีโอกาสที่จะเห็นผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทยอยเปิดตัวโครงการใหม่ๆ มากขึ้น
สำหรับแผนธุรกิจในปี 2564 บริษัทตั้งเป้าหมายยอดโอน 16,008 ล้านบาท และยอดขาย 18,570 ล้านบาท และวางแผนเปิด 5 โครงการใหม่ มูลค่าโครงการรวมกว่า 24,422 ล้านบาท ในช่วงครึ่งหลังปี 2564 เป็นต้นไป ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) ที่ 18,316 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้รายได้ในปี 2564 นี้ ประมาณ 48% หรือประมาณ 7,690 ล้านบาท ส่วนในปี 2565 จะรับรู้รายได้เข้ามาที่ประมาณ 9,221 ล้านบาท เเละที่เหลือ 1,405 ล้านบาทจะรับรู้รายได้ในปี 2566 ซึ่งมียอดดาวน์การันตีความเสี่ยงสูงถึง 11%หรือมูลค่าประมาณ 492 ล้านบาท ส่วนลูกค้าต่างประเทศอยู่ที่ 25% หรือมูลค่ารวมที่ 767 ล้านบาท
@ อสังหาพ้นจุดต่ำสุด
นายธีรวุฒิ กานต์นิภากุล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายตราสารอนุพันธ์ บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า จากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ นั้น ในเชิงของกลยุทธ์การลงทุนมองว่าด้วยปัจจัยการเริ่มฟื้นตัวของเศรษฐกิจ อัตราดอกเบี้ยที่ทรงตัวต่ำ ทำให้คนจะกลับมาลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ได้อีกครั้ง และมองว่าในปี 2564 กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ได้พ้นจุดต่ำสุดไปแล้ว โดยที่ผ่านมาหุ้นหลายกลุ่มอุตสาหกรรมเริ่มกลับขึ้นมาแล้ว ซึ่งกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เป็นตัวท้ายๆ ที่พยายามจะยกขึ้น P/E ค่อนข้างถูก
โดยประเมินภาคอสังหาริมทรัพย์แนวราบในปี 2564 มองว่าน่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง เพราะในกลุ่มนี้กำลังซื้อยังคงแรงดีไม่มีตก ในขณะที่คอนโดภาพการฟื้นตัวนั้นอาจยังเกิดขึ้นไม่ได้ง่าย และคงต้องแยกดูตาม segment กลุ่มลูกค้า เช่น ลูกค้าชาวจีน ลูกค้าคอนโดหรูกลางเมืองอย่าง ฮ่องกง ยุโรป เป็นต้น อย่างไรก็ดีกลุ่มคอนโดยังคงต้องจับตารอดูในหลายปัจจัยทั้งการกระจายวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ว่าผลจะออกมาเป็นเชิงบวกและสามารถยับยั้งการแพร่ระบาดของไวรัสได้มากน้อยแค่ไหน
หากผลออกมาดีต่อไปภาคการท่องเที่ยวก็จะถูกปลดล็อก เกิดการเปิดเมืองเพื่อท่องเที่ยว และทำธุรกิจทางการเงินของต่างประเทศในไทยได้ ส่งอานิสงส์บวกให้ต่างชาติเริ่มกลับมาลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์ในไทยได้มากขึ้น ส่วนมาตรการ LTV นั้นมองว่ายังคงเป็นปัจจัยเชิงลบที่กดดันต่อกำลังซื้อในประเทศอยู่ ทำให้กลุ่มระดับกลางที่มีความต้องการซื้อที่พักอาศัยหลังที่ 2 เพื่อการลงทุนชะลอการตัดสินใจลง
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิจัยมองหุ้น LH AP และ SPALI มีความโดดเด่นและน่าลงทุนที่สุดในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากพอร์ตรายได้มีการกระจายความเสี่ยงของสินค้าที่พักอาศัยหลายระดับ หลายรายราคา ทั้งในสินค้าที่เป็นแนวราบและคอนโดมิเนียม ตลอดจนมีฐานนะทางการเงินที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง
@ คอนโด4-6ล้านจะกลับมา
นายสรพงษ์ จักรธีรังกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) จำกัด เปิดเผยถึงสาเหตุที่อสังหาริมทรัพย์ปรับตัวขึ้นแรง เพราะเป็นจิตวิทยาการเปิดประเทศ และความมั่นใจใช้สอย ทำให้ธนาคารสามารถที่จะปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพิ่ม เนื่องจากมีมุมมองโอกาสในการหารายได้เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังมีความหวังในการเข้ามาลงทุนอสังหาริมทรัพย์ของต่างชาติจากการเปิดประเทศ โดยประเมินว่าคอนโดมีเนียมราคา 4-6 ล้านบาทจะกลับมาน่าสนใจ ส่วนแนวราบจะฟื้นตัวครึ่งหลังของปี แต่ราคาจะลดลงทุกระดับ เพื่อให้ผู้ซื้อเข้าถึงง่ายขึ้น ตลอดจนการปฏิเสธสินเชื่อของธนาคารลดลง ประเมินกำไรปีนี้ของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์น่าจะเพิ่มได้ในระดับ 11-12% โดยประเด็นสำคัญคือการที่ผู้ประกอบการจะสามารถควบคุมบริหารต้นทุนได้ดีขึ้น แนะนำ AP SPALI ORI เป็นหุ้นน่าสนใจ