มติเอกฉันท์! จีนผ่านกฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่

วันนี้( 30 มิ.ย.63) สภาประชาชนจีนได้ผ่านกฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ เพื่อบังคับใช้กับฮ่องกงแล้วในวันนี้ด้วยเสียงเอกฉันท์ 162 เสียง โดยใช้เวลาในการลงคะแนนเพียง 15 นาที และจะมีผลบังคับใช้ในวันพุธนี้ ซึ่งจะทำให้จีนมีอำนาจในการเข้าไปจัดการกิจการภายในฮ่องกงได้มากขึ้น และนับเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของชีวิตชาวฮ่องกงนับตั้งแต่กลับคืนสู่ประเทศจีน 

รัฐบาลปักกิ่งระบุว่า กฎหมายฉบับนี้มีขึ้นสำหรับการป้องกราม "การบ่อนทำลายรัฐ, การก่อการร้าย, การแบ่งแยกดินแดนและการสมคบคิดหรือการแทรกแซงจากต่างชาติ" ซึ่งล้วนแล้วแต่ส่งผลกระทบต่อ “ความมั่นคงในฮ่องกง” ที่จีนระบุว่า จำเป็นต้องมีกฎหมายฉบับนี้ เพื่อแก้ปัญหาความไม่สงบ และไร้เสถียรภาพที่มีมานานหลายปี 

ต่อไปนี้จีนจะเข้าไปตั้งสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติขึ้นในฮ่องกง เพื่อกำกับดูและและสนับสนุนการบริหารของนางแคร์รี่ แลม และอาจใช้อำนาจศาลจีนเข้าไปตัดสินในบางคดีด้วย

แต่แม้รัฐบาลจีนจะประกาศกฎหมายความมั่นคงแล้ว แต่ยังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดของกฎหมายอย่างชัดเจนยังไม่รู้ว่าอะไรบ้างที่ผิดกฎหมาย นั่นหมายความว่าชาวฮ่องกงเองก็ยังไม่ทราบแน่ชัดถึงชะตากรรมของพวกเขา โดยการผ่านกฎหมายความมั่นคงนี้ มีทั้งชาวฮ่องกงที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย โดยฝั่งที่เห็นด้วยบอกว่า จะได้เห็นฮ่องกงสงบขึ้น 

ขณะที่นักศึกษาฮ่องกงวัย 16 ปีคนหนึ่งที่ไม่เห็นด้วย บอกว่า กฎหมายฉบับนี้มีกระบวนการที่ไม่ชอบธรรม เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับฮ่องกง แต่กลับไม่มีการถามความเห็นของชาวฮ่องกงแม้แต่น้อย

ด้านนางแคร์รี่ แลม ผู้บริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ระบุว่า กฎหมายฉบับใหม่นี้นับเป็นความรับผิดชอบในการที่จะปกป้องเสียงส่วนใหญ่ของชาวฮ่องกงที่ยังคงปฏิบัติตามกฎหมาย พร้อมยืนยันว่า “เสรีภาพและค่านิยมหลัก” ของชาวฮ่องกงจะยังคงถูกรักษาไว้เสมอ

ขณะที่ล่าสุดมีรายงานว่า นายโจชัว หว่อง แกนนำคนสำคัญเรียกร้องประชาธิปไตย ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการพรรค Demosisto ซึ่งเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง เพียงไม่กี่ชั่วโมง หลังจากที่จะประกาศผ่านกฎหมายความมั่นคง โดยระบุว่า เขาน่าจะเป็น “เป้าหมายหลัก” ของกฎหมายความมั่นคง แต่จะต้องรอดูกันต่อว่าจะมีผลย้อนหลังหรือไม่ 

แน่นอนว่ากฎหมายฉบับนี้ยิ่งทำให้ความสัมพันธ์สหรัฐฯและจีนถดถอยยิ่งขึ้น สหรัฐฯได้ตอบโต้จีนทันที โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯได้ประกาศถอดจะสถานะพิเศษฮ่องกง ซึ่งรวมถึงข้อยกเว้นเรื่องใบอนุญาตส่งออก ตลอดจนยุติการส่งออกยุทโธปกรณ์แบบควบคุมไปยังฮ่องกง รวมถึงเรื่องเทคโนโลยีกลาโหมด้วย พร้อมเรียกร้องให้ปักกิ่งเปลี่ยนความตั้งใจ และจงปฏิบัติตามสัญญาที่ให้ไว้กับชาวฮ่องกง 

ขณะที่รัฐบาลอังกฤษก็ระบุว่า จีนกำลังละเมิดพันธกรณีที่มีต่อนานาชาติและข้อตกลงคืนเกาะฮ่องกง ซึ่งทำสนธิสัญญารับรองว่าฮ่องกงจะมีอำนาจปกครองตนเองต่อไปอีก 50 ปีภายใต้ระบอบ “1 ประเทศ 2 ระบบ” และตอนนี้เพิ่งผ่านมาเพียงแค่ 23 ปีเท่านั้น

ด้านนางแคร์รี่ แลม ผู้บริหารสูงสุดเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ตอบโต้การที่สหรัฐฯยกเลิกสถานะพิเศษฮ่องกง โดยบอกว่าไม่หวั่นเกรงต่อการคว่ำบาตรใดๆและประเมินว่ามาตรการกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ จะส่งผลให้เกิดความไม่สะดวกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น 

ขณะที่ล่าสุดนายจ้าว ลี่ เจี้ยน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน ระบุว่า การที่สหรัฐฯ ประกาศคว่ำบาตรฮ่องกง เพื่อกดดันจีน นับเป็นความพยายามที่สหรัฐฯไม่มีวันทำได้สำเร็จ และจีนจะดำเนินการตอบโต้อย่างเหมาะสมแต่ยังไม่ได้มีการเปิดเผยรายละเอียดของการตอบโต้ออกมา 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวดี! ทดลองวัคซีนโควิดในลิงได้ผล กระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ดี

ลุ้นต่อ! ไทยทดลองวัคซีนโควิดในลิง ผลเป็นที่น่าพอใจ

จีนทดลองวัคซีนโควิด-19กับมนุษย์ ในยูเออี