'สมศักดิ์' วอน ผู้ว่าฯ ปลดล็อกแข่งขันสัตว์ “โค-ไก่-นก” คืนรายได้ผู้เลี้ยง

'สมศักดิ์' ดอดคุย 'ประยุทธ์' ก่อนถกศบค. วอน ให้ผู้ว่าฯ ปลดล็อกแข่งขันสัตว์ “โค-ไก่-นก” คืนรายได้ผู้เลี้ยง หลังกระทบหนักจากโควิด

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 12 พ.ย.64 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม เข้าพบกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว. กลาโหม ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ก่อนเข้าร่วมประชุมศบค.ชุดใหญ่

จากนั้น นายสมศักดิ์ ให้สัมภาษณ์ ว่า ได้หารือกับนายกฯเพื่อแจ้งว่าได้รับการประสานจากประชาชนระดับรากหญ้า ซึ่งเป็นกลุ่มเกษตรกรเลี้ยงสัตว์ อาทิ ไก่ วัว สุนัข นก ฯ ที่ได้รับผลกระทบเนื่องจากติดระเบียบ ข้อห้ามจัดกิจกรรมประกวด หรือแข่งขัน ทำให้กระทบต่อธุรกิจและรายได้ โดยธุรกิจดังกล่าวมีห่วงโซ่เกี่ยวข้องเป็นล้านคน หากมีรายได้เดือนละ 10,000 บาท มูลค่าเป็นหมื่นล้านบาท

จึงนำเรื่องมาเสนอนายกฯเพื่อขอให้ผ่อนผันดำเนินกิจกรรมดังกล่าวได้ โดยให้อำนาจท้องถิ่น ระดับผู้ว่าราชการจังหวัด พิจารณา เช่น ในพื้นที่ใด สถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ดีขึ้นแล้วให้ดำเนินกิจกรรมได้ จึงอยากให้มีการคลายล็อกระเบียบเก่า ที่ยังติดล็อกของหน่วยงานต่างๆ จึงอยากให้หน่วยงานเหล่านี้ สะสางสิ่งที่ปลดล็อกไว้และขัดกับคำสั่งหลักของศบค.

"ในภาคใต้ก็มีเรื่องการเลี้ยงวัว ทั้งวัวเนื้อ วัวชน เมื่อติดล็อกธุรกิจและธุรกรรม เดินไปไม่ได้ ทำให้ราคาตก หากอนุญาตให้เปิด ให้มีการประกวด ก็จะทำให้ราคาเพิ่มขึ้นได้ ยกตัวอย่าง การประกวดนกพิราบนานาชาติ ที่มีสนามแข่งขันอยู่ที่เมืองพัทยา ในช่วง1-2 เดือนที่ผ่านมา นกที่เลี้ยงไว้กว่าหมื่นกว่าตัว ต้องมีการแข่งขัน และการดูแลนก 1 ตัวมีต้นทุนถึง 20,000 บาท

ถ้ารวมทั้งหมดก็ประมาณพันล้านกว่าบาท หากไม่มีการแข่งขันก็ไม่สามารถหาเงินมาทดแทนตรงนี้ได้ จึงอยากให้ปลดล็อก เพื่อดำเนินการแข่งในระดับนานาชาติได้"นายสมศักดิ์ กล่าว

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า นายกฯระบุว่าเข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้น โดยให้ไปพิจารณาหารือในที่ประชุมศปก.ศบค. นอกจากนั้นยังสอบถามความคืบหน้าโครงการให้ผู้ต้องขังเลี้ยงสุนัขในเรือนจำความมั่นคงสูง 4แห่งทั่วประเทศ เพื่อพัฒนาพฤตินิสัย ซึ่งเป็นข้อดีอละมีผลวิจัยรองรับหากผู้ต้องขังได้เลี้ยงสุนัขและฝึกจะทำให้จิตใจดี อ่อนโยน เมื่อพ้นโทษออกไป ก็สามารถไปสร้างอาชีพได้และยังลดการกระทำผิดซ้ำไม่ต้องกลับเข้ามาอีกได้