สยามพิวรรธน์ โชว์ยอดขายทุกศูนย์การค้าทะลุเป้า ไอคอนสยามทุบสถิติ ลักซ์ซูรี่แบรนด์โตกว่า2เท่า

ข่าววันนี้ นางสรัลธร อัศเวศน์ ผู้บริหารสายงานบริหารธุรกิจศูนย์การค้า บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจค้าปลีก สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ ไอคอนสยาม และสยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กล่าวว่า จากวิสัยทัศน์ผู้นำความคิดสร้างสรรค์ ทำให้ผลประกอบการสูงมากในปี 2564 สร้างรายได้เกินเป้าที่วางไว้ถึง 15% เป็นผลจากการปรับแผนกลยุทธ์การตลาดและการขายออกสู่ทุกแพลตฟอร์มตลอดทั้งปี มุ่งเจาะกลุ่มลูกค้ากำลังซื้อสูง ผ่านการสร้างบริการโซเชียลและอีคอมเมิร์ซ อีกทั้งร่วมมือกับทางแอพพลิเคชั่นที่หลากหลายเพื่อขยายช่องทางการจำหน่ายครบรูปแบบออมนิแชนแนล จนถึงเปิดตัว ONESIAM SuperApp ปลายปีก่อน ผลักดันให้ยอดซื้อในส่วนของกลุ่มลูกค้าสมาชิกเพิ่มขึ้นกว่า 45% จากปี 2563 สะท้อนความสำเร็จการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ใหม่ที่ขับเคลื่อนธุรกิจด้วยความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมพร้อมเดินหน้าสร้างอีโคซิสเต็ม ให้ 4 ศูนย์การค้าของบริษัทฯ เป็นศูนย์กลางการ Earn & Burn สิทธิประโยชน์ และ VIZ Coin โดยเชื่อม 1,000 ร้านค้าและพันธมิตรชั้นนำกว่า 100 รายจาก 13 ประเภทอุตสาหกรรม ครอบคลุมหลากหลายธุรกิจ เพื่อสร้างยอดขายที่ก้าวกระโดดร่วมกันทุกฝ่ายในปี 2565

แม้ปี 2564 มีปัจจัยท้าทายจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ต่อเนื่อง แต่สินค้ากลุ่มลักซ์ซูรี่แบรนด์ทุกประเภทได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้าคนไทยล้วนๆ ที่มีกำลังซื้อสูงในทุกศูนย์การค้า โดยเฉพาะจากกลุ่มคนรุ่นใหม่ รวมแบรนด์ชั้นนำทุกประเภททั้ง สินค้าแฟชั่น accessories นาฬิกาและเครื่องประดับชั้นสูงครบมากที่สุดในประเทศ และหลายแบรนด์มีสต๊อกสินค้าใหม่มากกว่าร้านในฮ่องกงและสิงค์โปร์ มีปัจจัยมาจากลักซ์ซูรี่แบรนด์ขยายพื้นที่ของร้านในสยามพารากอน และแบรนด์ดังๆ ร่วมเปิดพื้นที่เป็น Pop-up Storeในไอคอนสยามด้วย เพื่อขายลิมิเต็ดคอลเลคชั่นพิเศษ ซึ่งได้รับความนิยมจากลูกค้าคนไทยเกินความคาดหมาย ส่งผลให้ปัจจุบันมียอดจองพื้นที่เพื่อเปิด Pop-up Store ทุกเดือนและเต็มตลอดจนถึงปี 2566 แล้ว อีกทั้งสยามพิวรรธน์ร่วมมือกับธนาคารพาณิชย์และพันธมิตรในอีโคซิสเต็ม เช่น กลุ่มสายการบิน โรงพยาบาล และบริษัทประกันภัย ช่วยบริหารจัดการลูกค้ากำลังซื้อสูงของทุกรายให้ได้สิทธิประโยชน์ที่เงินซื้อไม่ได้ และเติมเต็มประสบการณ์เหนือความคาดหมายได้มากขึ้น

นายสุพจน์ ชัยวัฒน์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด กล่าวว่า หลังจากเปิดให้บริการมาครบ 3 ปี ไอคอนสยามประสบความสำเร็จอย่างมากในการฟันฝ่าและเอาชนะสถานการณ์การแพร่ระบาดตลอดระยะเวลา 2 ปี สามารถสร้างฐานลูกค้าประจำที่เป็นคนไทยล้วนๆ เห็นได้จากจำนวนลูกค้าในปี 2564 เพิ่มขึ้นมากจากปี 2563 ส่งผลให้ยอดขายไตรมาสสุดท้ายเพิ่มขึ้นถึง 43% ซึ่งเป็นรายได้มากที่สุดเป็นประวัติการณ์นับจากเปิดโครงการมาแล้ว 3 ปี ปี 2565 ลูกค้าไอคอนสยามที่เป็นสมาชิก VIZ Card จะได้ใช้ VIZ Coin ผ่าน ONESIAM SuperApp คาดว่าจะส่งผลกระตุ้นการใช้จ่ายเติบโต 15-20% และปัจจัยส่งผลให้มีความคึกคัก คือ ศูนย์ประชุมและการแสดงมาตรฐานระดับโลก ทรู ไอคอน ฮอลล์ มียอดจองจัดงานแล้วทั้งปี ส่วนรถไฟฟ้าสายสีทอง ได้เปิดบริการแล้ว จะช่วยส่งเสริมให้ลูกค้าจากทั่วกรุงเทพและปริมณฑล เดินทางเข้ามาใช้บริการได้สะดวกสบายต่อเนื่อง หากเปิดประเทศปีนี้ และมีนักท่องเที่ยวเข้ามา ยิ่งจะส่งผลให้กิจการของไอคอนสยามเติบโตอย่างก้าวกระโดดอีกด้วย

สำหรับ สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ มีผลการดำเนินงานที่โดดเด่นเช่นกัน และได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้าทั่วประเทศ เพราะร้านลักซ์ซูรี่แบรนด์เลือกเปิดร้านกับทางสยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต เป็นแห่งแรก และแห่งเดียวในไทย ส่งผลให้ยอดขายทะลุเป้ากว่าที่คาดไว้ มีจำนวนลูกค้าสม่ำเสมอต่อเนื่องและยอดจับจ่ายต่อคนอยู่ในระดับสูงจึงส่งผลให้บริษัทฯ อยู่ระหว่างการศึกษาแผนการขยายพื้นที่เฟส 2 เนื่องจากมีลักซ์ซูรี่แบรนด์ประสงค์จะเปิดร้านค้าในสยาม พรีเมียม เอาท์เล็ตอีกเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานที่เติบโตท่ามกลางวิกฤตการณ์โควิด-19 ของศูนย์การค้าของกลุ่มสยามพิวรรธน์ทุกศูนย์ในปลายปี 2564 แสดงถึงความแข็งแกร่งของสยามพิวรรธน์ที่มีฐานลูกค้าที่ทรงพลังซึ่งเป็นกลุ่มคนที่มีกำลังซื้อสูง ควบคู่ไปกับความสำเร็จของกลยุทธ์กิจกรรมส่งเสริมการตลาด และการสร้างแพลตฟอร์ม ONESIAM SuperApp ที่เปิดตัวไปเมื่อปลายปี 2564 ถือเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนที่ช่วยกระตุ้นยอดการจับจ่ายใช้สอย รวมทั้งทำให้เข้าถึงการขยายตลาดสู่กลุ่มคนรุ่นใหม่เจเนอเรชั่น Y และ Z โดยในปีนี้กลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ตั้งเป้าว่าจะสร้างยอดขายในกลุ่มสมาชิกให้เติบโตโดยรวมเพิ่มขึ้นกว่าเดิม 30% นอกจากนี้ สยามพิวรรธน์จะเดินหน้าขยายระบบนิเวศธุรกิจพรีเมียมระดับโลก (ecosystem) อย่างเต็มกำลัง ซึ่งกลางปีนี้จะขยายไปครอบคลุมหลากหลายธุรกิจร่วมกับพันธมิตรชั้นนำกว่า 100 บริษัท 13 อุตสาหกรรม ผ่านแพลตฟอร์ม ONESIAM SuperApp ที่จะช่วยขยายฐานและให้บริการแก่ลูกค้ากำลังซื้อสูงให้กว้างมากขึ้น ลูกค้าสามารถใช้ VIZ Coin จากซูเปอร์แอป เพื่อสิทธิประโยชน์มากมาย และทำให้ ONESIAM SuperApp เข้ามาเติมเต็ม และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ลูกค้าได้ครบทุกมิติ ทั้งสิ้นนี้เป็นการแสดงถึงวิสัยทัศน์ของการเป็นผู้นำความคิดสร้างสรรค์ และศักยภาพพร้อมทีมงานที่แข็งแกร่งของกลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ที่สามารถสร้างธุรกิจใหม่ๆ และก้าวข้ามทุกวิกฤตการณ์ได้เสมอ