อ่างลำเชียงไกรล่าง น้ำลด 2 เมตร ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ เร่งระบายลงแม่น้ำมูล
อ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรตอนล่าง ระดับน้ำลดลงกว่า 2 เมตร หลังชลประทานขุดคันดินระบายน้ำ ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำเร่งระบายให้ไหลลงสู่แม่น้ำมูลให้เร็วขึ้น
เมื่อวันที่ 28 ก.ย.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีคันดินกั้นอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร (ตอนล่าง) ต.บัลลังก์ อ.โนนไทย จ.นครราชสีมา ถูกมวลน้ำซัดพังทลายเป็นความกว้างประมาณ 10 เมตร เนื่องจากปริมาณน้ำภายในอ่างมีมากจนเกินความจุ ก่อนที่คันดินจะพังทลาย อ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร (ตอนล่าง) มีปริมาณน้ำกักเก็บอยู่ที่ 41 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 151% จากความจุอ่างทั้งหมดที่ 27.7 ล้านลูกบาศก์เมตร
โดยอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร (ตอนล่าง) เป็นอ่างเก็บน้ำที่รับน้ำมาจากพื้นที่ จ.ชัยภูมิ และพื้นที่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา โดยที่ชลประทานจังหวัดนครราชสีมา ได้แจ้งว่าเนื่องปริมาณน้ำจากพื้นที่อำเภอด่านขุนทดได้ไหลลงมายังอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร (ตอนล่าง) มีปริมาณมากจนเกินกว่าที่อ่างจะรับไหว ทำให้มวลน้ำกัดเซาะคันดินผนังกันน้ำจนพังลง ซึ่งเป็นการจงใจเพิ่มช่องระบายน้ำ ยืนยันไม่ใช่เขื่อนแตก ตอนนี้ยังอยู่ในสถานการณ์ที่ควบคุมได้
ล่าสุดสถานการณ์น้ำภายในอ่างลำเชียงไกรตอนล่างมีแนวโน้มลดระดับลงอย่างต่อเนื่องประมาณ 1.5 - 2 เมตร โดยปริมาณน้ำที่ไหนเข้าน้อยกว่าน้ำที่ไหลออก จึงไม่มีความจำเป็นต้องตัดคันดินเพิ่มในจุดอื่น เพื่อเพิ่มช่องทางการระบายน้ำ แต่ต้องระมัดระวัง ติดตามสถานการณ์มวลน้ำจากห้วยสามบาท ที่จะไหลลงมาสมทบเพิ่มเติม
ซึ่งจากสถานการณ์ดังกล่าวทำให้ระดับน้ำที่เข้าท่วมพื้นที่ชุมชนใต้อ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรค่อยๆ ลดระดับต่ำลง ถนนบางเส้นทางรถยนต์สามารถสัญจรผ่านได้บ้างแล้ว รวมถึงการไหลของน้ำได้ลดความรุนแรงลง จึงทำให้การเข้าช่วยเหลือประชาชนที่ยังคงติดอยู่ภายในพื้นที่ประสบภัยเป็นไปด้วยความสะดวกมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ติดตามสถานการณ์น้ำอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรตอนล่าง เพื่อเร่งให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม และลดผลกระทบต่อประชาชนให้มากที่สุด โดยกรมชลประทานติดตั้งกาลักน้ำเร่งการระบายน้ำจากอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรตอนล่าง และติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำลำเชียงไกร เร่งระบายน้ำให้ไหลลงสู่แม่น้ำมูลให้เร็วขึ้น