รีเซต

ภาพถ่าย 100 ปีชี้ชัด ธารน้ำแข็งกำลังหายไปตลอดกาล

ภาพถ่าย 100 ปีชี้ชัด ธารน้ำแข็งกำลังหายไปตลอดกาล
TNN ช่อง16
18 เมษายน 2568 ( 10:22 )
10

คริสเตียน อาสลุนด์ (Christian Åslund) ช่างภาพชาวสวีเดน เดินทางด้วยเรือลำเล็กริมชายฝั่งของเกาะสปิตส์เบอร์เกน (Spitsbergen) หนึ่งในหมู่เกาะสวาลบาร์ดของประเทศนอร์เวย์ ซึ่งตั้งอยู่ในอาร์กติกเซอร์เคิลระหว่างนอร์เวย์กับขั้วโลกเหนือ จุดประสงค์ของเขาคือการสำรวจ “สุขภาพ” ของธารน้ำแข็ง โดยเปรียบเทียบกับภาพถ่ายเก่าในช่วง 100 ปีก่อน

 

ในปี 2024 อาสลุนด์พยายามถ่ายภาพให้ใกล้เคียงกับจุดที่นักสำรวจในปี 1918 เคยยืนถ่ายไว้มากที่สุด แต่สิ่งที่เห็นกลับต่างกันอย่างชัดเจน เมื่อภาพเก่าเผยให้เห็นเรือแล่นตรงเข้าสู่ธารน้ำแข็งขนาดใหญ่ ขณะที่ภาพในปัจจุบันกลับเผยให้เห็นเพียงผืนดินเกือบโล่ง



 

โปรเจกต์นี้จัดทำร่วมกับสถาบันนอร์เวย์โพลาร์ (Norwegian Polar Institute) และกรีนพีซ (Greenpeace) โดยอาสลุนด์เริ่มถ่ายภาพตั้งแต่ปี 2002 และกลับมาถ่ายใหม่ในปี 2024 ที่จุดเดิมตามภาพถ่ายเก่าในคลังของสถาบัน

 

“เมื่อปี 2002 ผู้คนยังไม่ค่อยเข้าใจเรื่องโลกร้อนเท่าวันนี้” เขาเล่า “ผมเคยถูกกล่าวหาว่าตัดต่อภาพบ้าง ถ่ายภาพหน้าร้อนไปเทียบกับภาพหน้าหนาวบ้าง ซึ่งไม่จริง เพราะภาพเก่าก็ไม่มีน้ำแข็งทะเล และภูเขาก็ไม่มีหิมะที่สำคัญหน้าหนาวในแถบนี้มืดตลอดเวลา”


ในปี 2024 เขาตัดสินใจกลับไปถ่ายใหม่อีกครั้ง และพบว่าธารน้ำแข็งยิ่งหายไปมากกว่าเดิม “เราอยากแสดงให้เห็นว่า มันไม่ได้แค่ละลายแล้วกลับมา แต่มันกำลังหายไปอย่างถาวรจากภาวะโลกร้อน นี่คือความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่”

 

ข้อมูลจาก NOAA ระบุว่า ตั้งแต่ปี 2000 อาร์กติกอุ่นขึ้นเร็วกว่าส่วนอื่นของโลกถึง 2 เท่า และบางงานวิจัยชี้ว่าตั้งแต่ปี 1979 อุณหภูมิที่นี่เพิ่มขึ้นเร็วกว่าเฉลี่ยโลกถึง 4 เท่า ขณะที่ NASA รายงานว่า น้ำแข็งทะเลในฤดูร้อนลดลงเฉลี่ย 12.2% ทุกทศวรรษ



ผลกระทบคือ น้ำทะเลซึมซับความร้อนมากขึ้นแทนที่จะสะท้อนกลับสู่อวกาศ และธารน้ำแข็งที่ละลายก็กำลังเพิ่มระดับน้ำทะเลทั่วโลก ซึ่งเสี่ยงต่อการจมน้ำของพื้นที่อยู่อาศัย

ด้าน ศาสตราจารย์จูเลียนน์ สโตรฟ (Julienne Stroeve) จากมหาวิทยาลัย UCL ระบุว่า น้ำจืดจากธารน้ำแข็งที่ไหลลงสู่ทะเลยังสามารถรบกวนกระแสน้ำในมหาสมุทร และส่งผลต่อระบบนิเวศทางทะเล “เมื่อเทียบกับ 100 ปีก่อน พื้นที่น้ำแข็งในช่วงสิ้นฤดูร้อนลดลงถึง 40-50% และทุกแบบจำลองทางภูมิอากาศคาดว่า ฤดูร้อนแบบไร้น้ำแข็งครั้งแรกจะเกิดขึ้นภายในปี 2050 นี่คือการเปลี่ยนแปลงที่ไม่เคยเกิดขึ้นมากว่า 130,000 ปี”

 

นอกจากนี้ ความร้อนยังละลายน้ำแข็งจากกรีนแลนด์ และเร่งการละลายของดินเยือกแข็ง (permafrost) ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อชุมชนในแถบอาร์กติกอย่างรุนแรง

 

แม้ภาพถ่ายใหม่ในปี 2024 จะชี้ชัดว่าธารน้ำแข็งหายไปอย่างน่าตกใจ แต่อาสลุนด์ก็ยังเผชิญกับคำวิจารณ์แบบเดิมว่า “ภาพตัดต่อ” หรือ “น้ำแข็งแค่ขยายหดตามฤดูกาล” เขากล่าวว่า “ผมแปลกใจที่ในปี 2024 ผู้คนยังไม่เชื่อในสิ่งที่เห็น ทั้งที่ภาพมันสื่อได้มากกว่าคำพูดนับพันคำ และนี่คือเรื่องจริง”

 

“ผมไม่แปลกใจเลย ถ้าอีก 10 ปีจากนี้ สิ่งที่เราถ่ายไว้อาจจะไม่เหลืออยู่ให้เห็นแล้ว ถ้าเราไม่ดึงเบรกมือแรง ๆ ตอนนี้ ทุกอย่างอาจสายเกินไป” เขากล่าวทิ้งท้ายด้วยน้ำเสียงหนักแน่น


ข่าวที่เกี่ยวข้อง