รีเซต

จีดีพีไทยไตรมาส 3 ติดลบรอบ 10 ไตรมาส

จีดีพีไทยไตรมาส 3 ติดลบรอบ 10 ไตรมาส
TNN ช่อง16
17 พฤศจิกายน 2568 ( 12:25 )
11

นางสาวอ้อนฟ้า เวชชาชีวะ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ แถลงรายงานภาวะเศรษฐกิจไทยไตรมาสที่ 3 ของปี 2568 และแนวโน้มเศรษฐกิจปี 2568-2569 ว่าเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่สามของปี 2568 ขยายตัวร้อยละ 1.2 เทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY)  ชะลอลงจากร้อยละ 2.8 ในไตรมาสที่สองของปี 2568 

และเมื่อปรับผลของฤดูกาลออกแล้ว เศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่สามของปี 2568 ลดลงร้อยละ 0.6  จากไตรมาสที่สองของปี 2568 (QoQ)   รวม 9 เดือนแรกของปี 2568 เศรษฐกิจไทย ขยายตัวร้อยละ 2.4

เลขาธิการสภาพัฒน์ระบุว่า จีีพีดีไตรมาส 3 ปีนี่้ที่ลดลงร้อยละ 0.6 เป็นการติดลบครั้งแรกในรอบ 10 ไตรมาส  โดยสาเหตุที่เศรษฐกิจไทยไตรมาส 3 ชะลอต้วลงส่วนหนึ่งมาจากความไม่เชื่อมั่นจากสถานการณ์การเมืองในช่วงนั้นมีความไม่แน่นอน ประกอบกับไทยมีปัญหาความขัดแย้งกับกัมพูชา นอกจากนี้ในภาคการผลิตมีบางอุตสาหกรรมหยุดผลิตชั่วคราวด้วย 






สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 4 ของปี 2568 เลขาสภาพัฒน์ประเมินว่าจะขยายตัวได้ร้อยละ 0.6 เทียบจากระยะเดียวกันปีก่อน แต่เมื่อเทียบจากไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) จะติดลบหรือไม่นั้น ยังประเมินไม่ได้ ขอดูข้อมูลที่รอบด้านกว่านี้ และต้องดูหลายๆด้านทั้งด้านการเงินการคลังด้วย 

อย่างไรก็ดี สภาพัฒน์ยังคงประมาณการเศรษฐกิจไทยทั้งปีนี้ขยายตัวร้อยละ 2.0  ชะลอลงจากการขยายตัวร้อยละ2.5 ในปี 2567  ส่วนอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยติดลบร้อยละ -0.2 และดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลร้อยละ 2.8 ของจีดีพี  เนื่องจากผลกระทบจากภาษีทรัมป์ยังไม่ชัดเจน แต่คาดว่าในปีหน้าจะเห็นผลกระทบของภาษีทรัมป์ชัดเจนขึ้น 


สำหรับเศรษฐกิจไทยปี 2569  สภาพัฒน์คาดว่าจะขยายตัวชะลอลงอยู่ที่ร้อยละ 1.7  หรืออยู่ในกรอบร้อยละ 1.2-2.2 โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการขยายตัวต่อเนื่องของการอุปโภคบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน แรงขับเคลื่อนจากการใช้จ่ายภาครัฐบาล การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว และการเพิ่มขึ้นของผลผลิตทางการเกษตร รวมถึงมาตรการต่างๆ ที่รัฐบาลจะออกมาเพิ่มเติม 

อย่างไรก็ตาม การขยายตัวของเศรษฐกิจไทยยังมีข้อจำกัดและปัจจัยเสี่ยงจากมาตรการกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ การชะลอตัวของเศรษฐกิจและการค้าโลก และภาระหนี้สินภาคเอกชนที่ยังอยู่ในเกณฑ์สูงรวมทั้งความผันผวนของระบบเศรษฐกิจและการเงินโลก ที่สำคัญต้องรักษาบรรยากาศทางเศรษฐกิจและการเมืองในช่วงก่อนและหลังการเลือกตั้งให้เศรษฐกิจเติบโตได้ต่อเนื่อง 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง