รีเซต

สกลธี หาเสียงวันหยุด เล็งจับมือออมสินทำโครงการทุนดอกเบี้ยต่ำให้ผู้มีรายได้น้อย

สกลธี หาเสียงวันหยุด เล็งจับมือออมสินทำโครงการทุนดอกเบี้ยต่ำให้ผู้มีรายได้น้อย
มติชน
17 เมษายน 2565 ( 13:08 )
54

เมื่อวันที่ 17 เมษายน นายสกลธี ภัททิยกุล ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.หมายเลข 3 ยังคงใช้เวลาช่วงวันหยุดสงกรานต์ ลงพื้นที่หาเสียงกับชาวกรุงเทพมหานคร ที่ตลาดกิตติ, ตลาดสะพาน 2 และตลาดแสงจันทร์ เขตสาทร ท่ามกลางประชาชนที่เดินทางมาจับจ่ายใช้สอยในช่วงเช้า

 

นายสกลธี กล่าวระหว่างการลงพื้นที่ว่า ในช่วงนี้ที่ตนเลือกลงพื้นที่ตลาดในเกือบทุกเช้าในแต่ละเขตนั้น เพราะจะได้พบกับคนในพื้นที่ ที่สามารถสะท้อนปัญหาหลายๆ อย่าง รวมทั้งข้อแนะนำที่เฉพาะเจาะจง โดยเฉพาะกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าที่ต้องเผชิญกับความยากลำบากในการทำมาหากิน โดยเฉพาะช่วง 2 ปีที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด ซึ่งตนอยากจะได้ข้อมูลเหล่านี้มากๆ เพื่อจะไปดูว่าจะช่วยอะไรได้มากขึ้นบ้าง โดยจากที่พูดคุยกับหลายตลาด

หนึ่งคือปัญหาเรื่องพื้นที่ที่จะใช้ในการค้าขาย ความสะดวกเรื่องพื้นที่ทางเท้า และปัญหาน้ำท่วมต่างๆ และสอง เป็นเรื่องแหล่งเงินทุน ซึ่งเรื่องทุนนี้ตอนที่ตนเป็นรองผู้ว่าฯ อยู่ก็ได้ประสานกับหลายหน่วยงาน เช่น ธนาคารออมสิน ที่มีโครงการสร้างงานสร้างอาชีพ โดยได้ร่วมมือกันที่จะหาแหล่งเงินทุนให้กับผู้มีรายได้น้อยได้ประกอบอาชีพ เพราะหลังโควิดบางคนเงินทุนหายไปหมด เรื่องเงินทุนเริ่มต้นใหม่ก็ยังเป็นสิ่งที่จำเป็นอยู่

 

“จากที่ลงพื้นที่ตลาดต่างๆ ทั้งตลาดในรอบกรุงเทพฯ หรือตลาดกลางเมืองอย่างในพื้นที่สาทร ก็พบว่าปัญหาจะไม่แตกต่างกัน คือเรื่องกำลังซื้อที่หายไป ซึ่งตนคิดว่าหลังจากที่สถานการณ์โควิดคลี่คลายลงแล้ว มาตรการของรัฐก็จะผ่อนคลายลงด้วย ในส่วนของกรุงเทพมหานครก็จะเข้าไปช่วย อย่างที่ผมคิด ก็คือเรื่องเงินช่วยเหลือในการประกอบอาชีพ สำหรับผู้ที่เดือดร้อนจริงๆ และการหาแหล่งเงินทุนใหม่ๆ ที่ดอกเบี้ยไม่สูง โดยประสานพันธมิตรกับหน่วยงานต่างๆ ที่เรามีข้อมูลอยู่แล้ว เพื่อมาทำเป็นโครงการร่วมกัน” นายสกลธี กล่าว


ผู้สื่อข่าวถามว่า ความคิดเห็นและเสียงสะท้อนของชาว กทม.ที่คาดหวังกับการได้ผู้ว่าฯ ที่เป็นคนรุ่นใหม่เป็นอย่างไร

นายสกลธี กล่าวว่า ตนคิดว่า ด้วยงานของ กทม.มีหลายด้านและเป็นงานจุกจิกต้องเป็นคนที่มีพลังเข้าไปแก้ปัญหา ไม่ใช่ว่าจะนั่งประชุมฟังข้อมูลในห้องประชุมอย่างเดียว แต่ต้องพบปะ เจอปัญหากับประชาชนอย่างเดียว อย่างเช่น ที่ตลาดกิตติ สาทร ตรงนี้ปัญหาที่เจอเยอะๆ ก็คือเป็นซอยย่อยของเอกชน งบฯ ของ กทม.ไม่สามารถลงไปบริหารจัดการ ซึ่งอันนี้ต้องไปทลายข้อจำกัดที่ไม่เป็นธรรมนั้น เพราะคนกรุงเทพฯทุกคน มีส่วนที่เสียภาษีไม่มากก็น้อย

ดังนั้นงบฯ ของ กทม.ที่จะลงไปพัฒนาทุกจุดไม่เฉพาะแค่ที่สาธารณะเท่านั้น ซึ่งถ้าตนมีโอกาสได้เป็นผู้ว่าฯ จะเข้าไปทลายข้อจำกัดนี้

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง