ประกันสังคมสูตร CARE ปรับระบบบำนาญ ได้สิทธิประโยชน์เท่าไร?

สำนักงานประกันสังคมเดินหน้าปรับระบบบำนาญชราภาพครั้งสำคัญ โดยนางนิยดา เสนีย์มโนมัย โฆษกสำนักงานประกันสังคม เปิดเผยว่า สูตรการคำนวณบำนาญแบบใหม่ยึดหลัก “CARE” หรือ Career Average Revalued Earnings ซึ่งเป็นระบบมาตรฐานสากล ใช้วิธีเฉลี่ยรายได้ของผู้ประกันตนตลอดระยะเวลาการทำงาน และปรับค่าจ้างให้เทียบเท่ามูลค่าเงินในปัจจุบัน เพื่อสะท้อนรายได้ที่แท้จริงของแต่ละคนในระยะยาว

แนวทางใหม่นี้ช่วยให้ผู้ประกันตนได้รับบำนาญในระดับใกล้เคียงกับรายได้ที่เคยส่งสมทบไว้ โดยยึดหลักความเป็นธรรม “ส่งมากได้มาก ส่งน้อยได้น้อย” และมุ่งสร้างเสถียรภาพของระบบบำนาญในอนาคต

ผู้ประกันตนกว่า 850,000 ราย ได้รับผลประโยชน์ใหม่อย่างไร?

ปัจจุบันมีผู้รับบำนาญชราภาพประมาณ 850,000 คน โดยจากการจำลองคำนวณของสำนักงานประกันสังคม พบว่า เมื่อใช้สูตร CARE จะมีผู้ได้รับบำนาญเพิ่มขึ้นราว 570,000 คน ส่วนอีก 280,000 คนจะได้รับเท่าเดิม ซึ่งหมายความว่าสูตรใหม่จะไม่ทำให้ใครได้รับเงินบำนาญลดลงแม้แต่รายเดียว

สำหรับผู้ที่จะเกษียณภายใน 5 ปีข้างหน้า (ปี 2569–2573) สำนักงานประกันสังคมจะใช้การคำนวณเปรียบเทียบระหว่างสูตรเก่าและสูตรใหม่ โดยหากสูตรใหม่ให้ผลน้อยกว่า จะมีการจ่ายชดเชยส่วนต่างให้ตลอดชีวิตตามสัดส่วนที่ลดหลั่นกันไป

สูตรคำนวนจ่ายชดเชย

ปี 2569 ชดเชย 100%

ปี 2570 ชดเชย 80%

ปี 2571 ชดเชย 60%

ปี 2572 ชดเชย 40%

ปี 2573 ชดเชย 20%

ตั้งแต่ปี 2574 เป็นต้นไป จะคำนวณตามสูตร CARE เต็มรูปแบบ

บำนาญยุคใหม่ “สะท้อนรายได้จริง สร้างเสถียรภาพระยะยาว”

สำนักงานประกันสังคมระบุว่า หากสูตร CARE มีผลบังคับใช้เต็มรูปแบบ ผู้ที่จะขอรับบำนาญในช่วง 10 ปีข้างหน้า จะได้รับเงินเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 8% ซึ่งถือเป็นการปรับสูตรที่สร้างความเป็นธรรมในระบบมากขึ้น อย่างไรก็ตาม อาจมีบางรายที่ได้ลดลงเล็กน้อย โดยเฉพาะผู้ที่มีรายได้เพิ่มสูงในช่วง 5 ปีสุดท้ายของการทำงาน เนื่องจากระบบใหม่เน้นเฉลี่ยรายได้ตลอดอาชีพ

นางนิยดา กล่าวสรุปว่า “สูตร CARE เป็นการปรับโครงสร้างระบบบำนาญให้สมดุลและโปร่งใส เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับผู้ประกันตนในระยะยาว ทั้งยังสอดคล้องกับมาตรฐานบำนาญสากล ที่ทุกคนได้รับผลตอบแทนตามสิ่งที่ได้ส่งสมทบไว้อย่างแท้จริง”