รัฐบาลสหรัฐฯ สั่งระงับให้เงินทุน 2,200 ล้านดอลลาร์ แก่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด

รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศระงับการให้เงินทุนกว่า 2,200 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นเงินไทยกว่า 75,000 ล้านบาท แก่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด หลังจากที่ทางมหาวิทยาลัยปฏิเสธข้อเรียกร้องของทำเนียบขาวที่ห้ามไม่ให้มีการประท้วงต่อต้านอิสราเอลหรือชาวยิวในรั้วมหาวิทยาลัย ซึ่งทางกระทรวงศึกษาธิการของสหรัฐฯ บอกว่าการไม่ทำตามข้อเรียกร้องของทำเนียบขาว แสดงให้เห็นว่ามหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดมีปัญหาเรื่องแนวคิดผิด ๆ ที่กำลังแพร่ระบาดไปสู่มหาวิทยาลัยที่มีเกียรติหลายแห่งของสหรัฐฯ
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทำเนียบขาวได้ส่งข้อเรียกร้องหลายข้อไปยังมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ให้ทางมหาวิทยาลัยออกกฎ ไม่ให้นักศึกษาประท้วงหรือแสดงออกเพื่อต่อต้านชาวยิวภายในรั้วของมหาวิทยาลัย ซึ่งหากทางมหาวิทยาลัยไม่ทำตาม จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ด้านการเงินกับรัฐบาลสหรัฐฯ ข้อเรียกร้องเหล่านี้ มีทั้งการที่มหาวิทยาลัยจะต้องส่งข้อมูลนักศึกษาที่มีแนวโน้มเป็นภัยต่อค่านิยมของชาวอเมริกัน ลดอำนาจของสมาคมนักศึกษา รวมทั้งต้องให้หน่วยงานภายนอกที่รัฐบาลเห็นชอบ เข้ามาตรวจสอบการทำงานของคณะต่าง ๆ ในมหาวิทยาลัย
แต่ทางมหาวิทยาลัยได้ปฏิเสธที่จะทำตาม โดยบอกว่าทางทำเนียบขาวพยายามจะเข้ามาควบคุมการดำเนินงานของมหาวิทยาลัย และจำกัดสิทธิของนักศึกษา ซึ่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด นับว่าเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำแห่งแรกของสหรัฐฯ ที่ออกมาปฏิเสธไม่ทำตามข้อเรียกร้องของรัฐบาลสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม ทำเนียบขาวระบุว่า มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ซึ่งได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลจำนวนมหาศาล แต่กลับไม่สามารถทำหน้าที่ในฐานะสถาบันการศึกษาได้อย่างน่าพอใจ ทั้งในเรื่องงานวิชาการและสิทธิพลเรือน ซึ่งหลังจากที่ โดนัลด์ ทรัมป์ กลับมารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เขาพยายามกดดันมหาวิทยาลัยทั่วสหรัฐฯ โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยชั้นนำ ให้ยุติโครงการสนับสนุนความหลากหลาย ปกป้องนักศึกษชาวยิว และยกเลิกการปลูกฝังแนวคิดเอียงซ้ายให้กับนักศึกษา โดยก่อนหน้านี้ ทำเนียบขาวก็ได้ระงับการให้เงินทุน 400 ล้านดอลลาร์ แก่มหาวิทยาลัยโคลอมเบียมาแล้ว ด้วยเหตุผลเดียวกัน