รีเซต

‘ส.โรงแรมไทย’ ย้ำ ‘ครม.’ ใหม่ต้องเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังมีความเสี่ยงทั้งกำลังซื้อวูบ-คนจ่อตกงานเพิ่ม

‘ส.โรงแรมไทย’ ย้ำ ‘ครม.’ ใหม่ต้องเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังมีความเสี่ยงทั้งกำลังซื้อวูบ-คนจ่อตกงานเพิ่ม
มติชน
11 สิงหาคม 2563 ( 05:02 )
117
‘ส.โรงแรมไทย’ ย้ำ ‘ครม.’ ใหม่ต้องเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังมีความเสี่ยงทั้งกำลังซื้อวูบ-คนจ่อตกงานเพิ่ม

นางศุภวรรณ ถนอมเกียรติภูมิ นายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) เปิดเผยว่า กรณีการมีคณะรัฐมนตรี (ครม.) ใหม่เข้ามาแล้ว สิ่งแรกที่ต้องการให้ทำคือ อยากให้กระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศเพิ่มเติม แม้จะมีความลำบากในส่วนของกำลังซื้อในประเทศ และความกังวลในด้านตัวเลขเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นดีเท่าที่ควร ทำให้คนส่วนใหญ่ยังระมัดระวังในการใช้จ่าย และเลือกใช้จ่ายในส่วนที่จำเป็นก่อนเท่านั้น รวมถึงยังมีเรื่องอัตราการว่างที่เพิ่มมากขึ้น และความเสี่ยงในการตกงานของแรงงานในภาคบริการ และภาคการผลิตเพิ่มเติมอีก หลังจากมาตรการช่วยเหลือของรัฐบาลได้หมดลงแล้ว อาจทำให้ผู้ประกอบการที่พยายามยันไม่ให้มีการเลิกจ้าง ไม่สามารถประคองธุรกิจต่อได้ จนต้องมีการเลิกจ้างพนักงานเพิ่มเติมอีกระลอก

 

“การกระตุ้นเศรษฐกิจ เบื้องต้นมองว่ารัฐบาลจะต้องประเมินว่า คนส่วนใหญ่มีเงินในกระเป๋ามากน้อยเท่าใด และควรออกมาตรการมาในรูปแบบใด ถึงจะจใจให้มีการใช้จ่ายเงินเพิ่มเติมและตรงจุดที่สุดได้ เพราะขณะนี้ต้องยอมรับว่า กำลังซื้อในประเทศยังถือว่าอยู่ในระดับที่น่าเป็นห่วง แม้จะฟื้นตัวขึ้นมาบ้างเล็กน้อย แต่เนื่องจากวิกฤตโควิด-19 ยังไม่มีความแน่นอนว่าจะจบลงได้ในช่วงใด และเศรษฐกิจจะฟื้นตัวกลับมาดีขึ้น เหมือนในช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ได้ในตอนใด ทำให้หากรัฐบาลจะออกมาตรการในรูปแบบเดิมๆ อาทิ การแจกเงิน หรือแคมเปญกระตุ้นในลักษณะเดิม อาจไม่สามารถตอบโจทย์หรือดึงดูดใจให้คนออกมาใช้จ่ายมากขึ้นได้” นางศุภวรรณกล่าว

 

นางศุภวรรณกล่าวว่า สำหรับโครงการเที่ยวปันสุข ในส่วนของแพคเกจเราเที่ยวด้วยกัน เบื้องต้นผู้ประกอบการโรงแรมยังเข้าร่วมไม่มากนัก เพราะขณะนี้ยังกลับมาเปิดให้บริการเพียง 40-50% เท่านั้น เพราะมี ความเสียเปรียบและได้เปรียบในเรื่องของต้นทุน ทำให้บางโรงแรมที่อยู่ในพื้นที่หรือจังหวัดที่รองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นหลัก หากกลับมาเปิดแล้วอาจไม่คุ้มกับต้นทุนที่เสียไป จึงเลือกที่จะยังปิดดำเนินการอยู่ อาทิ โรงแรมในจังหวัดเชียงใหม่ ภูเก็ต ส่วนการเข้าร่วมแพคเกจเราเที่ยวด้วยกัน มีเงื่อนไขว่าต้องตั้งราคาขายต่ำกว่าการขายบนหน้าเว็บไซต์ของตนเอง หรือบนเว็บไซต์ตัวแทนขาย (โอทีเอ) ทำให้ในด้านราคามองว่าคงไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่ในส่วนของพฤติกรรมอื่นๆ อาทิ กรณีที่ภาครัฐได้ตรวจสอบแล้วพบว่า มีผู้ประกอบการหนึ่งรายที่เปิดรับจองห้องพักมากเกินกว่าจำนวนห้องที่มีอยู่ เบื้องต้นอยากให้ดำเนินการตามความเหมาะสม เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันขึ้นอีก ส่วนการตรวจสอบต่อไป จะพบผู้ประกอบการมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมเพิ่มเติมหรือไม่นั้น คงต้องรอข้อมูลจากภาครัฐ

 

นางศุภวรรณกล่าวว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังรอการกลับมาเปิดบริการตามปกติ แต่ขึ้นอยู่กับว่าภาครัฐจะมีการเปิดประเทศ เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในช่วงใด เพราะต้องยอมรับว่า แม้จะมีการกระตุ้นการเดินทางเพิ่มขึ้นของตลาดไทยเที่ยวไทย แต่ก็ดูดีขึ้นในช่วงวันหยุดยาว หรือวันหยุดเสาร์-อาทิตย์เท่านั้น ส่วนในช่วงวันธรรมดายังไม่มีการออกเดินทาง เพราะส่วนใหญ่กลุ่มตลาดไทยเที่ยวไทยที่ออกเดินทาง ก็เป็นกลุ่มวัยทำงานแทบทั้งนั้น การกระตุ้นเที่ยวในประเทศจึงมีข้อจำกัด ในส่วนของการเดินทางวันธรรมดา ไม่เหมือนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ทุกวัน และมีศักยภาพในการใช้จ่ายมากกว่าตลาดไทยเฉลี่ยหลายเท่าต่อคนต่อทริป

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง