ชาวนาเมืองช้างระทม น้ำท่วมนาข้าวยับนับ 'หมื่นไร่' วอนหน่วยงานเร่งช่วยเหลือ
เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ผลจากพายุไต้ฝุ่น “โนรู” ที่พัดผ่านประเทศไทย ทำให้หลายพื้นที่ในจังหวัดสุรินทร์เกิดน้ำท่วมอย่างหนัก บ้านเรือน ถนน และสวน ไร่นา จมน้ำเสียหายเป็นจำนวนมากนับพันนับหมื่นไร่ ชาวบ้านบางส่วนเริ่มขาดแคลนอาหารและน้ำดื่ม สัตว์เลี้ยงต้องอพยพมาอยู่ที่สูง ขาดหญ้าและฟางมาเลี้ยง ที่มีก็ราคาแพงและหาซื้อยาก เกิดความลำบากไปทั่ว หลายหน่วยงานเร่งลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือ แต่ด้วยหลายพื้นที่มีความเดือดร้อน จึงไม่สามารถให้ความช่วยเหลือได้ทันและทั่วถึง
เช่นที่บ้านหาญฮี หมู่ 16 ม.12 และ ม.3 ตำบลดอนแรด อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนัก และไม่ทันได้ตั้งตัว เนื่องจากน้ำมาเร็วและแรง นับตั้งแต่พายุ”โนรู” พัดเข้ามาในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 28 กันยายน ที่ผ่านมา จากนั้นในรุ่งเช้าวันต่อมา น้ำก็ได้หลากเข้าท่วมสวนไร่นาและบ้านเรือนอย่างรวดเร็ว ถนนหลายสายในหมู่บ้านถูกปิด รถยนต์ทุกชนิดไม่สามารถเดินทางไปมาหาสู่กันได้ ต้องใช้เรือเท่านั้นจึงจะเดินทางเข้าไปในหมู่บ้านได้ สร้างความเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า นาข้าวจมน้ำเสียหายไปเป็นจำนวนมาก ซึ่งในขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปเป็นตัวเลขที่แน่นอนได้ เนื่องจากกระแสน้ำยังคงขึ้นสูงเรื่อยๆ และอำเภอรัตนบุรี มีพื้นที่ลุ่มต่ำ อยู่ติดกับลำน้ำมูลอยู่หลายตำบล ทำให้ยากแก่การสำรวจความเสียหายได้ทันท่วงที
นายมานิตย์ นธีนาม เกษตรกร อดีตผู้ใหญ่บ้าน 3 สมัย บอกว่า ตอนนี้ยังทำใจไม่ได้ เพราะนาข้าวจมน้ำเสียหายไปทั้งหมดแล้ว ปีนี้น้ำมาเร็วมากจนตั้งตัวไม่ทัน พายุมาคืนเดียวเช้ามาก็มองไม่รู้แล้วว่าตรงไหนเป็นหนองน้ำ ตรงไหนเป็นนาข้าว เพราะว่าท้องทุ่งนาในเช้าวันรุ่นขึ้นก็เต็มไปด้วยน้ำทั้งหมดแล้ว ปลาที่เลี้ยงไว้ในบ่อนับแสนตัวก็หลุดออกไปกับกระแสน้ำหมด ชาวบ้านหลายครอบครัวก็เริ่มจะเดือดร้อนขาดแคลนอาหารและน้ำ ดื่ม โดยเฉพาะหญ้าและฟางใช้เลี้ยงวัวควายก็เริ่มขาดแคลนและมีราคาแพง เพราะทุกคนไม่มีใครตั้งตัวได้ทันกับเหตุการณ์ครั้งนี้ ซึ่งจริงๆแล้วบริเวณนี้ก็มักจะท่วมทุกปี แต่ว่าน้ำจะค่อยๆมา ชาวบ้านจึงมีเวลาเตรียมตัวป้องกัน แต่ครั้งนี้ ไม่มีใครคาดคิดว่าน้ำจะมาเร็วและแรงขนาดนี้ จึงเกิดความเสียหายหนักกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา ครั้งนี้ชาวบ้านจึงอยากจะขอวิงวอนหน่วยงานและผู้ใจบุญ ที่พอจะช่วยเหลือได้ ขอได้โปรดรีบลงมาช่วยเหลือด่วน เพราะว่าชาวบ้านหลายครอบครัวกำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา และยังเฝ้ารอความช่วยเหลืออยู่
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจตามเส้นทางในพื้นที่ตำบลที่อยู่ติดกับลำน้ำมูลในอำเภอรัตนบุรี จ.สุรินทร์ ที่ได้รับผลกระทบ พบว่ามี ตำบลแก , ตำบลกุดขาคีม ,ตำบลทับใหญ่ ,ตำบลหนองบัวทอง ,และตำบลดอนแรด หลายหมู่บ้านถูกตัดขาด ยังไม่มีทีท่าว่าน้ำจะลดลง เนื่องจากน้ำยังคงไหลเพิ่มมาเรื่อยๆ จากหลายพื้นที่มาลงสู่ลำน้ำมูลในบริเวณนี้ แม้ว่าหลายหน่วยงานจะเร่งออกให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้นแล้ว แต่ก็ยังไม่ทั่วถึง เนื่องจากมีหลายหมู่บ้านที่ได้รับความเดือดร้อน และหลายหมู่บ้านก็กำลังรอความช่วยเหลืออยู่ ด้วยความหวังในน้ำใจที่จะหลั่งไหลมา เหมือนกับสายน้ำที่กำลังหลั่งไหลมาอยู่ในขณะนี้