หนุ่มเครียดคดีพรากผู้เยาว์ สวมชุดขาวเปิดเพลงธรรมะฟัง ก่อนยิงตัวตายยืนยันความบริสุทธิ์

สระแก้ว – หนุ่มวัย 34 ปี เครียดคดีพรากผู้เยาว์ สวมชุดขาวเปิดเพลงธรรมะฟัง ก่อนใช้ปืนจ่อขมับฆ่าตัวตาย พร้อมเขียนจดหมายก่อนตาย 5 หน้า ยืนยันความบริสุทธิ์

เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท. ประสิทธิ์ เหล็กดี สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองสระแก้ว ได้รับแจ้งว่า มีผู้เสียชีวิตยิงตัวตายที่บ้านโคกสัมพันธ์ ต.ท่าเกษม อ.เมือง จ.สระแก้ว จึงประสานเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างสระแก้ว เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พบผู้เสียชีวิต สวมชุดขาว อยู่ในสภาพนอนหงายมีเลือดไหลท่วมบริเวณศีรษะ ทราบชื่อว่า นายพสุธา จารุณ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 37 หมู่ 13 บ้านไทยพัฒนา ต.ท่าเกษม อ.เมือง จ.สระแก้ว บริเวณใกล้ศพพบอาวุธปืนพกสั้นขนาด .38 ใกล้กับมือขวาหน้าบ้านที่เกิดเหตุ โดยเจ้าหน้าที่ไม่พบร่องรอยการต่อสู้แต่อย่างใด

ทั้งนี้ พ.ต.ท.ประสิทธิ์ ได้สอบสวนญาติเบื้องต้นแจ้งว่า ไม่มีใครทราบว่าผู้ตายนำอาวุธมาจากไหน ตอนเกิดเหตุไม่มีใครอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว ซึ่งผู้เสียชีวิตเปิดเพลงธรรมะในรถยนต์เพื่อฟังและสวมชุดขาวที่ใส่มาหลายวันคาดว่าจะเกิดความเครียด เพราะวันนี้(18 มิ.ยง) ผู้เสียชีวิตจะต้องไปขึ้นศาลจังหวัดสระแก้ว ในคดีพรากผู้เยาว์ และก่อนตาย 6 ชั่วโมง ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมจดหมายลาตายที่เล่าความอัดอั้นใจ ซึ่งเขียนด้วยลายมือผู้ตายเอง จำนวน 5 หน้า เล่าเรื่องเหตุการณ์ที่ตกเป็นจำเลยในคดีและที่มาก่อนถูกดำเนินคดี และขอใช้ชีวิตนี้เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ ซึ่งหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบที่เกิดเหตุเสร็จสิ้น ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่นำศพส่งตรวจพิสูจน์สาเหตุการตายเพิ่มเติมที่ รพร.สระแก้ว เพื่อประสานญาติมารับศพกลับไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า สำหรับจดหมายที่ผู้ตายเขียนไว้ก่อนจะใช้ปืนยิงฆ่าตัวตาย จำนวน 5 หน้ากระดาษ ภายหลังถูกดำเนินคดีพรากผู้เยาว์ พร้อมยืนยันว่าไม่ได้มีความผิด แต่ต้องกลายเป็นผู้ต้องหานั้น ระบุว่า “9 ตุลาคม 2562 จุดเริ่มต้นของเหตุการณ์ ผมไปรับเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง บริเวณป่าหลังโรงเรียนประมาณ เวลา 19.45 นาฬิกา ก่อนหน้านั้น เด็กบอกว่า พ่อและย่า ไล่ออกจากบ้าน สาเหตุเพราะเรื่องเลี้ยงแมว ทำให้ถูกพ่อบีบคอ เพราะพ่อกำลังเมายาบ้า จึงได้เดินออกจากบ้าน และให้แฟนมารับที่บริเวณฝายกั้นน้ำ ตั้งแต่เวลา 16.51 นาฬิกา พอน้องชายของเด็กผู้หญิงผ่านมา น้องและแฟนได้พากันเข้ามาเล่นในโรงเรียน เพื่อที่พ่อจะได้ไม่รู้ กลัวน้องชายไปบอกพ่อ

เด็กผู้หญิงจึงได้อยู่กับแฟนถึงเวลาเกือบ 20.00 นาฬิกา เด็กโทรมาหาผมตั้งแต่เวลา 15.45 บอกให้ผมไปรับ แต่ผมยังไม่ว่าง เพราะผมเตรียมงานวันเกิดให้หลานสาวที่ปราจีนบุรี หลังจากนั้นประมาณ 18.15 นาฬิกา เด็กผู้หญิงบอกให้ผมมารับไปหาแม่ ด้วยความสงสาร ผมจึงขับรถไปรับตั้งแต่เวลา 18.25 นาฬิกา พอผมถึงเวลาเกือบ 20.00 ผมเห็นเด็กผู้หญิงอยู่บริเวณป่าหลังโรงเรียน เด็กผู้หญิงบอกว่า แฟนชวนไปนอนบ้านด้วย แต่ไม่กล้าไป กลัวยายของแฟนด่า เพราะรู้จักกัน ผมจึงได้ขับรถไปส่งหาแม่ที่ปราจีนบุรี แต่ระหว่างทาง เด็กเกิดเป็นลมชักขึ้นเพราะเครียด เรื่องที่พ่อบีบคอ ผมจึงเอามืออุดปากกันเด็กกัดลิ้นตัวเอง ดีที่มีกระปุกแป้ง จึงได้เอาอุดแทนไม่งั้นคงช่วยยาก

หลังจากเด็กรู้ตัว จึงได้ติดต่อให้แม่ของเด็กมารับที่ สภ.ประจันตคาม ผมก็ขับไปรอที่สถานีตำรวจประจันตคาม แต่แม่เด็กก็ไม่มา บอกให้ผมไปส่งที่ท่าประชุม ผมจึงขับไปส่งที่ท่าประชุม รอหน้าวัดประมาณ 45 นาที และได้พูดคุยกับผมประมาณ 25 นาที จึงแยกย้ายกันไป

ผมขอใช้ชีวิตนี้เป็นคำยืนยันว่า ผมได้พูดความจริงทุกประการ แต่สิ่งที่ผมได้รับกลับโดนแจ้งความว่า ข่มขืนเด็ก ผมขอถามหน่อย 1.ทำไมไม่ตรวจคราบอสุจิ และ DNA เพื่อยืนยันตัวบุคคลที่ข่มขืน เพราะตรวจไป ก็ไม่พบของผมใช่หรือไม่ ,2.ร่องรอยฉีกขาด 2 มิลลิเมตร เคยเห็นขนาดอวัยวะเพศของผมหรือยัง ผมฉีดอวัยวะเพศมา เด็กตัวแค่นั้น 2 มิล ไม่พอหรอก ,3.ทำไมไม่บอกตำรวจว่า พ่อเมายาบีบคอ บางวันคือทุบประตูห้องนอน ,4.ทำไมไม่บอกล่ะว่า พ่อและย่า ขู่ฆ่าว่าจะเอาให้ตายถ้าหนีไปอยู่กับแม่ ,5.ทำไมไม่บอกว่า ผมไปส่ง และอยู่คุยด้วยเกือบครึ่งชั่วโมง ไปบอกว่า เขาส่งเสร็จแล้วก็หนีไปได้ยังไง ,6.ทำไมไม่บอกพ่อกับแม่ล่ะว่า อยู่กับแฟนในโรงเรียนถึงค่ำ ไม่บอกล่ะว่า เป็นลมชักบนรถ

7.ตอนผมไปรอที่สถานีตำรวจประจันตคาม ทำไมไม่กล้ามารับ ,8.ทำไมย่าของเด็กไปพูดให้คนอื่นฟังว่า ผมให้เด็กไปเปิดบัญชีแล้วโอนเงินให้เดือนละ 10,000 บาท, 9.ทำไมเด็กไปบอกกับแม่ว่า ผมส่งเรียนเดือนละ 6,000 บาท ทั้งที่ผมไม่ได้ให้ ครอบครัวนี้ต้องการอะไรจากผมกันแน่ อวัยวะของผม ส่วนไหนยังใช้ได้ บริจาคให้หมด ไม่ต้องยื้อชีวิต แม่ลำบากมามากพอแล้ว คดีนี้ศาลเชื่อเด็กมากกว่า หนูจึงใช้ชีวิตยืนยันความบริสุทธิ์ พสุธา จารุณ

—————————–
ขอบคุณภาพ/มูลนิธิสว่างสระแก้วธรรมสถาน